บ้านเพลงไทย ความภูมิใจของคนไทยรักษ์เพลง
สโมสรบ้านเพลงไทย => ห้องสันทนาการ => ข้อความที่เริ่มโดย: thong thasae ที่ มิถุนายน 01, 2013, 11:53:20 AM
-
ไม่ได้เป็นไกด์นำเที่ยว แต่เอาภาพที่ไปเที่ยวมาให้ชมกันนิดหน่อย พร้อมทั้งบรรยายเท่าที่จำได้...
อาจผิดพลาดได้ ก็อย่าว่ากันนะ...เพราะไม่ได้เป็นมืออาชีพจ้า
เริ่มแรกจากวันที่ลงจากเครื่องบินถึงสนามบินกรุงโรมตอนเช้า ก็พาไปกินข้าวแล้วก็พาไปชมสนามกีฬา
โคลอสเซี่ยมไม่ใช่โคลีเซี่ยมนะ ถ้าโคลีเซี่ยม อยู่ที่เมืองไทยแถวยมราชกับอุรุพงษ์นั่น แต่ปัจจุบันเค้าทุบทิ้งไปแล้วซึ่งอันที่จริง ก็มีการเรียกสนามกีฬาโคลอสเซี่ยม เป็นสนามกีฬาโคลีเซี่ยมเหมือนกัน แต่น่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดมากกว่า โคลอสเซี่ยมปัจจุบันพังไปส่วนหนึ่งเพราะแผ่นดินไหว จึงเหลือให้เห็นแบบไม่สมบูรณ์นัก
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/d5e2083e3102ea15eef0759ddeac8568.jpg)
บริเวณภายนอก จะเห็นว่ามีคนเยอะแยะ เพราะว่าวันนั้นตรงกับวันที่เขามีการวิ่งมินิมาราธอนพอดี
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/f1d844888b143618429c88ce4afef1f2.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/fc18fd0ec570a6801c89b91e07406053.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/cf5fa8ad6725f509601af82d3345dd11.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/aa37a1e6eceed2a5d1603348eb2382dd.jpg)
สี่รูปนี้เป็นบริเวณภายในสนามกีฬา
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/f10a3d692cfcde3abddb081fe32eee0c.jpg)
นี่ก็เป็นอีกรูปหนึ่งซึ่งเป็นภายในสนาม แต่ให้สังเกตด้านซ้ายของรูปสีขาวๆ เขามีการจำลองให้เห็นว่า สมัยก่อนจะมีไม้ปูเต็มพื้นที่เพื่อรองรับการประลอง ไม่ว่าจะเป็นคนกับคน หรือ สัตว์กับคน เหมือนในหนังเรื่อง GLADIATOR ซึ่งไกด์เค้าบอกว่าในหนังนั้น มีเรื่องจริงสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/06ba9cd492333ce89b7f724e74c2ada9.jpg)
ไม่ได้ต้องการโชว์ แต่จำเป็นต้องโชว์...อิ..อิ..เพื่อเป็นหลักฐานว่า ได้ไปมาจริง
โดยรวมแล้ว ผมทึ่งกับคนโบราณมากกว่า ที่สามารถสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ได้ มันสูงมากเกือบเท่ากับตึกสิบชั้นในปัจจุบันหินแต่ละก้อนที่นำมาสร้าง ก้อนใหญ่มากๆ แล้วพวกเค้ายกไปเรียงกันสูงแบบนั้นได้อย่างไร...ยังไม่มีใครทราบถึงวิธีการที่จริงเค้ามีไกด์ท้องถิ่นบรรยายเป็นภาษาปะกิต ซึ่งเราฟังได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์(ถ้าตั้งใจฟัง) แต่นี่ไม่ได้ตั้งใจฟัง ก็เลยไม่ได้แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว...555...ถ้าฟังรู้เรื่องคงมีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกเยอะ เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เรื่องก็ไปค้นหาอ่านเอาเองในกูเกิ้ลก็แล้วกัน..คริ..คริ..
รูปที่ถ่ายมานี้ มีเวลาถ่ายน้อยมาก ไกด์จะพาเดินไปโน่นทีนี่ทีแล้วก็เล่าประวัติ ไอ้เราก็อยากถ่ายรูป ก็ไม่มีโอกาส
หงุดหงิดเล็กน้อย เลยได้ภาพมาเท่าที่เห็น
เอาแค่นี้ก่อน ค่อยมาเล่าต่อนะ
-
เอาเหลยๆๆ (อีกๆ) :90
-
1 สถานที่ มา ล่อ..อิ อิ ..ลุงๆ เวลาถ่ายรูปหุบพุงด้วยจิคะ..
อยากดูที่ ที่ พาป้าไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ อ่ะค่ะ..
ไปเที่ยวถ้าไป กับทัวร์ ส่วนมากจะเป็น ชะโงกทัวร์ อ่ะ..จะปล่อยนานก็ แหล่งช๊อป.. เพราะไกค์ มีค่า น้ำชา กาแฟ..
-
1 สถานที่ มา ล่อ..อิ อิ ..ลุงๆ เวลาถ่ายรูปหุบพุงด้วยจิคะ..
อยากดูที่ ที่ พาป้าไปเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ อ่ะค่ะ..
ไปเที่ยวถ้าไป กับทัวร์ ส่วนมากจะเป็น ชะโงกทัวร์ อ่ะ..จะปล่อยนานก็ แหล่งช๊อป.. เพราะไกค์ มีค่า น้ำชา กาแฟ..
นั่นน่ะขมิบเอ๊ยแขม่วเต็มที่แล้ว...555...
-
เล่าต่อจ้ะ
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/773b2b860f575488c0c5b08d60160669.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/7739c248e54811567c7a5945b69d4832.jpg)
น้ำพุเทรวี่อันศักดิ์สิทธิ์ใจกลางกรุงโรม...ไม่ทราบประวัติเลย คนแน่นมาก ไกด์เค้าก็เล่าให้ฟังแต่จำไม่ได้
...อิ..อิ..ใครอยากรู้ก็ไปหาอ่านเอาเอง...555...จำได้เรื่องเดียวคือ ว่ากันว่า หากใครหันหลังโยนเหรียญลงไปในน้ำพุแล้ว จะได้กลับมาเยือนอีก ก็ลองโยนดูด้วยการฝันว่าอยากกลับมาเยือนอีก กับใครดีหว่า ไม่บอก...คริ..คริ..แต่มีคนบอกว่า ให้โยนผ่านไหล่ซ้าย แต่เราดันโยนข้ามหัวไปเฉยๆ สงสัยอด...
ไม่เอารูปตัวเองมาเสนอหน้าอีกแระ กลัวโดนหาว่าพุงใหญ่...ทัั้งที่ๆมีใหญ่กว่านั้น แต่ดันมองไม่เห็น... :76 :76
-
ไม่ได้เป็นไกด์นำเที่ยว แต่เอาภาพที่ไปเที่ยวมาให้ชมกันนิดหน่อย พร้อมทั้งบรรยายเท่าที่จำได้...
อาจผิดพลาดได้ ก็อย่าว่ากันนะ...เพราะไม่ได้เป็นมืออาชีพจ้า
เริ่มแรกจากวันที่ลงจากเครื่องบินถึงสนามบินกรุงโรมตอนเช้า ก็พาไปกินข้าวแล้วก็มาไปชมสนามกีฬาโคลอสเซี่ยม
ไม่ใช่โคลีเซี่ยมนะ ถ้าโคลีเซี่ยม อยู่ที่เมืองไทยแถวยมราชกับอุรุพงษ์นั่น แต่ปัจจุบันเค้าทุบทิ้งไปแล้ว
ซึ่งอันที่จริง ก็มีการเรียกสนามกีฬาโคลอสเซี่ยม เป็นสนามกีฬาโคลีเซี่ยมเหมือนกัน แต่น่าจะเกิดจากการเข้าใจผิดมากกว่า
โคลอสเซี่ยมปัจจุบันพังไปส่วนหนึ่งเพราะแผ่นดินไหว จึงเหลือให้เห็นแบบไม่สมบูรณ์นัก
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/d5e2083e3102ea15eef0759ddeac8568.jpg)
บริเวณภายนอก จะเห็นว่ามีคนเยอะแยะ เพราะว่าวันนั้นตรงกับวันที่เขามีการวิ่งมินิมาราธอนพอดี
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/f1d844888b143618429c88ce4afef1f2.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/fc18fd0ec570a6801c89b91e07406053.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/cf5fa8ad6725f509601af82d3345dd11.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/aa37a1e6eceed2a5d1603348eb2382dd.jpg)
สี่รูปนี้เป็นบริเวณภายในสนามกีฬา
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/f10a3d692cfcde3abddb081fe32eee0c.jpg)
นี่ก็เป็นอีกรูปหนึ่งซึ่งเป็นภายในสนาม แต่ให้สังเกตด้านซ้ายของรูปสีขาวๆ เขามีการจำลองให้เห็นว่า สมัยก่อนจะมีไม้ปูเต็มพื้นที่
เพื่อรองรับการประลอง ไม่ว่าจะเป็นคนกับคน หรือ สัตว์กับคน เหมือนในหนังเรื่อง GLADIATOR ซึ่งไกด์เค้าบอกว่า
ในหนังนั้น มีเรื่องจริงสิบกว่าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/06ba9cd492333ce89b7f724e74c2ada9.jpg)
ไม่ได้ต้องการโชว์ แต่จำเป็นต้องโชว์...อิ..อิ..เพื่อเป็นหลักฐานว่า ได้ไปมาจริง
โดยรวมแล้ว ผมทึ่งกับคนโบราณมากกว่า ที่สามารถสร้างสนามกีฬาแห่งนี้ได้ มันสูงมากเกือบเท่ากับตึกสิบชั้นในปัจจุบัน
หินแต่ละก้อนที่นำมาสร้าง ก้อนใหญ่มากๆ แล้วพวกเค้ายกไปเรียงกันสูงแบบนั้นได้อย่างไร...ยังไม่มีใครทราบถึงวิธีการ
ที่จริงเค้ามีไกด์ท้องถิ่นบรรยายเป็นภาษาปะกิต ซึ่งเราฟังได้ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์(ถ้าตั้งใจฟัง) แต่นี่ไม่ได้ตั้งใจฟัง ก็เลยไม่ได้แม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว...555...
ถ้าฟังรู้เรื่องคงมีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกเยอะ เอาเป็นว่า ใครอยากรู้เรื่องก็ไปค้นหาอ่านเอาเองในกูเกิ้ลก็แล้วกัน..คริ..คริ..
รูปที่ถ่ายมานี้ มีเวลาถ่ายน้อยมาก ไกด์จะพาเดินไปโน่นทีนี่ทีแล้วก็เล่าประวัติ ไอ้เราก็อยากถ่ายรูป ก็ไม่มีโอกาส
หงุดหงิดเล็กน้อย เลยได้ภาพมาเท่าที่เห็น
เอาแค่นี้ก่อน ค่อยมาเล่าต่อนะ
...ตรงนี้มั๊ยที่เบนเฮอร์ แข่งม้า และต่อสู้สิงห์โต.. 5 5 5
-
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/7f7cf712f67b7b0dfac30a03b08f64b4.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/f20fd7291e8b7555c80327d25b6b529c.jpg)
จากน้ำพุเทรวี่ ก็จะเดินไปเที่ยวบันไดสเปน ระหว่างทางเห็นกากบาทสีเขียวแต่ไกล เดินเข้าใกล้จึงรู้ว่าเป็นร้านขายยา(ภายหลังผ่านอีกสองประเทศก็มีสัญลักษณ์เดียวกัน) น่าจะเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศในอียู
ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่าประเทศในเครืออาเซียน เมื่อรวมเป็นอาเซียนซัมมิทจะมีอะไรเหมือนเขาบ้าง...
(สัญลักษณ์เครื่องหมายไฟสีๆ นี้ ในเมืองไทยก็มี ส่วนใหญ่จะเป็นไฟนีออนสีชมพู แต่ไม่รู้ปัจจุบันยังมีเหลือป่าว...เพราะไม่ได้ใช้บริการมานานแล้ว...จริงๆ....ผมใช้คำว่าไม่ได้ใช้บริการมานาน แสดงว่าเคยใช้..555...)
ในกลุ่มประเทศอียูเค้าใช้สกุลเงินยูโรเกือบทั้งหมด แต่ก็ยังมีหลายประเทศที่ยังใช้เงินประจำชาติของเขา รวมทั้งสวิส ที่ยังใช้ฟรังก์สวิสอยู่ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อยู่ในกลุ่มประเทศอียูแต่ด้านศุลกากรก็ยังเป็นเอกเทศ เขาไม่ได้เข้าร่วมด้วย ดังนั้นเมื่อซื้อของในประเทศก่อนจะออกจากประเทศต้องทำ tax refund ให้เรียบร้อยไม่เหมือนกลุ่มประเทศอียูที่รวมกลุ่มอย่างเต็มตัว กลุ่มของเราซื้อของที่อิตาลีขึ้นเครื่องกลับที่ฝรั่งเศส
ทำการ refund ที่สนามบินฝรั่งเศสทีเดียวก็เรียบร้อย
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/552653beb5b7cfe29334b90e51591128.jpg)
ด่านศุลกากรของสวิส เราทำเรื่องขอคืนภาษีที่นี่ก่อนเข้าสู่ประเทศฝรั่งเศส
บันไดสเปนถือเป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป เป็นแหล่งช๊อปปิ้งอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในกรุงโรม...
ได้ชื่อว่าบันไดสเปนก็เพราะสถานทูตสเปนอยู่ในบริเวณนั้น(เพิ่งรู้จักบันไดสเปนก็เที่ยวนี้
ที่ผ่านมารู้จักแต่แมลงวันสเปน...แต่ไม่รู้ว่ามันมีคุณสมบัติอย่างไร เพราะไม่เคยใช้...คริ..คริ...)
คนไปเที่ยวกันเยอะมากๆ เราไม่มีโอกาสช๊อปเลย เพราะต้องรีบเดินทางขึ้นรถเดินทางต่อไปยังนครวาติกัน
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/e29f4e8c4c0fbc853065cf22130f5cf7.jpg)
บริเวณบันไดสเปน คนเยอะแค่ไหนก็ดูเอาเอง...
นครวาติกันถือเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในโลก (น่าจะเล็กกว่าสวนลุมของเราซะอีก...)
แต่ก็มีมหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก(ไม่รู้เขาวัดกันยังไง ไม่ได้ถามไกด์ซะด้วย
เผลอๆ ไกด์อาจไม่รู้เหมือนกัลล์...คริ..คริ..) และเป็นที่พำนักของพระสันตะปะปา
เราไม่มีโอกาสเข้าไปในเที่ยวในมหาวิหาร เพราะคนเข้าคิวยาวมาก ไม่มีเวลาพอ
ได้แต่เก็บภาพและความทรงจำเฉพาะภายนอกบริเวณรอบมหาวิหารเท่านั้น
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/ec0d755744bc3a6941bc97393f7aea52.jpg)
มหาวิหารเซ็นต์ปีเตอร์ที่เค้ายกให้ว่าใหญ่สุดในโลก
เสาระเบียงบริเวณมหาวิหาร แถวละสามหรือสี่ต้นก็จำไม่ได้...อืมห์...ไม่ได้จำมากกว่า..อิ..อิ..
ว่ากันว่าจะมีจุดหนึ่งที่สามารถมองทุกมุมจากจุดนี้โดยเห็นเป็นเสาระเบียงแค่ต้นที่เห็นข้างหน้าต้นเดียว...
แต่หาจุดนั้นไม่เจอ เพราะคนเยอะ...
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/3a5793384f4b012dfb3c2c5a30ea17e2.jpg)
นี่แหละเสาระเบียงที่ว่า มีอยู่รอบๆทั้งซ้ายและขวา (แต่เสากระโดงมีอยู่เกลื่อนตา ตาดีก็อาจเห็น...555...)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/5789b7b9d188008ea6aa21ef3adb72c2.jpg)
ว่าจะไม่โชว์รูปแล้ว แต่กลัวว่าจะจำหน้าคนเขียนไม่ได้ ก็จำใจเอามาลง แต่ขอโทษ
รอบนี้ไม่เอาภาพที่เห็นพุงมาลง กันคนค่อนแคะ...555...
ระหว่างเดินเที่ยว ก็สังเกตเห็นบริเวณพื้นถนนในเมืองเก่าของกรุงโรม รวมถึงพื้นทั่วๆไป
ส่วนใหญ่จะใช้หินก้อนๆมาเรียงๆกัน รวมทั้งพื้นในนครวาติกันก็เช่นเดียวกัน
ไม่ทราบเหตุผล ลืมถามไกด์อีกเหมือนกัน...
(ที่จริงก็ไม่ใช่นักสังเกตอะไรหรอก แต่เวลาเดินชอบดูพื้นถนน เผื่อเจออะไรบ้าง
ซึ่งก็เจอพอควร แต่ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ไม่อยากเจอ....อิ..อิ..)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/eaef832e7fd0c1ab6b73d052cb06125b.jpg)
แค่นี้ก่อนนะ ปวดหมองเต็มที นี่เขียนเป็นรอบสอง รอบแรกใช้เวลาทำไปเกือบสองชั่วโมง
พอจะกดตั้งกระทู้ มันขึ้นอักษรว่าอะไรก็จำไม่ได้แล้ว แต่ข้อความทั้งหมดที่เขียนไว้หายไปหมด
เซ็งสุดๆ นี่ถ้ารอบนี้เจออีก ไม่เขียนแล้ว...
-
อย่าทำเป็นคนใจน้อยน่าพี่ เดี๋ยวพาไปปลอบใจบ้านที่ว่ามีไฟสีชมพู :09 :09
-
อ่านเรื่องทัวร์ยุโรปตอนท่องเที่ยวกรุงโรมของลุงธง แล้ว ต้องยอมรับว่า
ตื่นเต้นและก็เร้าใจอย่างคาดไม่ถึงทั้งเรื่องราวที่นำเสนอพร้อมทั้งรูปภาพประกอบ
อันวิจิตรตระการตาของสนาม โคลอสเซี่ยม แห่งกรุงโรม แต่ที่น่าตื่นเต้นและดีใจ
ไปกว่านันก็คือรูปถ่ายอันแสนจะเท่ห์ของลุงธง นี่ขนาดมีเวลาถ่ายน้อยมากยังออก
มาออร่าขนาดนี้นี่ถ้ามีเวลาเยอะๆรับรองได้ เหมียนเดิมครับ คริ คริ คริ สนุกๆนะครับ
ขอบคุณลุงธง (ของพวกเรา) มั่กๆนะจ๊ะ ที่อุตสาหะวิระยะนั่งปั่นกระทู้จนหลังขดหลัง
แข็งเพื่อนำเรื่องทัวร์ยุโรป (ตอนย่ำกรุงโรม) มาให้เพื่อนพ้องน้องพี่ได้น้ำลายไหล
เล่นโดยทั่วกัน..ว่างๆเอาต่ออีกนะครับลุง อิ อิ อิ ถ้ามีรูปถ่ายเวอร์ชั่นพิเศษ(ตอน
ถ่ายคู่กับแหม่ม) อย่าลืมเอามาโชว์พรรคพวกบ้างเด้อลุงธง ขอบคุณคร้าบ...
:72
-
อ่านเรื่องทัวร์ยุโรปตอนท่องเที่ยวกรุงโรมของลุงธง แล้ว ต้องยอมรับว่า
ตื่นเต้นและก็เร้าใจอย่างคาดไม่ถึงทั้งเรื่องราวที่นำเสนอพร้อมทั้งรูปภาพประกอบ
อันวิจิตรตระการตาของสนาม โคลอสเซี่ยม แห่งกรุงโรม แต่ที่น่าตื่นเต้นและดีใจ
ไปกว่านันก็คือรูปถ่ายอันแสนจะเท่ห์ของลุงธง นี่ขนาดมีเวลาถ่ายน้อยมากยังออก
มาออร่าขนาดนี้นี่ถ้ามีเวลาเยอะๆรับรองได้ เหมียนเดิมครับ คริ คริ คริ สนุกๆนะครับ
ขอบคุณลุงธง (ของพวกเรา) มั่กๆนะจ๊ะ ที่อุตสาหะวิระยะนั่งปั่นกระทู้จนหลังขดหลัง
แข็งเพื่อนำเรื่องทัวร์ยุโรป (ตอนย่ำกรุงโรม) มาให้เพื่อนพ้องน้องพี่ได้น้ำลายไหล
เล่นโดยทั่วกัน..ว่างๆเอาต่ออีกนะครับลุง อิ อิ อิ ถ้ามีรูปถ่ายเวอร์ชั่นพิเศษ(ตอน
ถ่ายคู่กับแหม่ม) อย่าลืมเอามาโชว์พรรคพวกบ้างเด้อลุงธง ขอบคุณคร้าบ...
:72
ถ่ายคู่กับ ม.แหม่ม ไม่มีอ่ะ มีแต่ถ่ายคู่กับอีกม.หนึ่ง.....อิ..อิ...
อ๊ะๆ อย่าคิดมาก ม.สระเอีย ไม่ใช่ ม.สระอ้อ...555...
-
อ่านแบบสงบเสงี่ยม เดี๋ยวเจ้าของกระทู้หาว่าค่อนแคะ อิ อิ :49 :49
-
ต่อนิด...กลัวลืม
รถราในประเทศอิตาลี มีหลากหลายยี่ห้อ เรียกว่ามาจากทุกมุมโลก แม้ว่าประเทศตัวเองจะผลิตรถได้หลายยี่ห้อ แต่ที่เห็นในท้องถนนบ่อยๆคือ fiat lancia alfa เท่านั้น รถในอิตาลีส่วนใหญ่จะเป็นคันเล็กๆ ทุกยี่ห้อ ไม่เว้นแม้แต่รถเบ็นซ์ ก็ทำเป็นขนาดเล็ก รถขนาดที่ใหญ่ที่สุด น่าจะเป็นรถขนาดกลางในบ้านเรา ลองดูภาพที่เก็บมาให้ดูกันเลยครับ
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/99173f9b07a465d5ac85ec940069eab8.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/5f7c785fd850d220051877be16103190.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/7341d6f8290f42f96ee7044b191628ef.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/af9cc9f3582521f3d2046ae072914b52.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/6ad7b6076f2f838a0df3649b02e52827.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/73012108efbb6a47af1767b6dd529ac5.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/3548a1160e6ec1d3f543e1aef1178a4d.jpg)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/0fee96f0a5be39f6cc7020c94bbf3b2c.jpg)
sizeนี้ ถือว่าใหญ่มากแล้วในอิตาลี ที่ใหญ่กว่านี้คงมี แต่ไม่ผ่านตาผมเลย
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/6f420401967061282735711d905319b3.jpg)
คันนี้เป็นรถใช้แบตเตอรี่ กำลังชาร์จแบตฯอยู่ เขามีที่ชาร์จแบตอยู่ข้างทางด้วย
(น่าจะมีที่ชาร์จให้คนมั่ง เหนื่อยเต็มทีกับการเดิน เดิน และก้อ เดิน)
ป้ายทะเบียนรถในกลุ่มอียู เขาใช้เหมือนกันหมด แตกต่างกันที่ตรงธงจะมีตัวอักษรย่ออยู่
เช่นในอิตาลี ก็ใช้ตัว I ฝรั่งเศส ใช้ตัว F เป็นต้น สวิส ไม่ได้ใช้ทะเบียนร่วมนะ(ถ้าจะไม่ผิด)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/b07b502dfeec7490ae738f4e3077f8c8.jpg)
คันนี้เป็นรถนำเที่ยวเราไปทั้งสามประเทศ เป็นรถของประเทศอิตาลี ตัวย่อจึงเป็น I อยู่หน้าเลขทะเบียน(อยู่ซ้ายสุด หน้า EM ตัวอักษรสีขาวๆ) ถ้าเป็นของฝรั่งเศส ตรงนี้จะเป็น F
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/819caa18ba0fb83bbff23777a2af9da3.jpg)
ดูกันชัดๆ อีกคัน
โดยสรุป คนอิตาเลียน จะเป็นฝรั่งที่ตัวไม่ใหญ่นัก...(อย่างอื่นใหญ่ป่าว...ไม่รู้...คริ..คริ..)คล้ายๆกับคนออสซี่ รถที่ใช้จึงใช้ขนาดเล็กได้...และส่วนหนึ่งคิดว่าน้ำมันเค้าแพงมาก
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/1756074704940c33fbfaab7eaed90e2a.jpg)
ปั๊มน้ำมันยี่ห้อหนึ่งที่เมืองไทยไม่มี เอกิ๊ป เคยมีแต่น้ำมันเครื่องเข้ามาขาย
ดูราคาน้ำมันเค้าเลย บนสุด เป็นดีเซล ล่างลงมาเป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ได้สนใจ
ดีเซล 1.57 ยูโร คูณคร่าวๆ 40 เท่ากับเงินไทย 62.80 บาท แต่น้ำมันที่อิตาลีนี่ยังถูกกว่าประเทศสวิสนะ
จำไม่ได้ว่าที่สวิสราคาเท่าไหร่...ต้องค้นดูจากรูป เผื่อมี
-
วันนี้เอามาเพิ่มเติมอีกเรื่องหนึ่ง...
เข้าไปพักในโรงแรมที่อิตาลี ในห้องน้ำจะพบ โถส้วม...ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ
แต่ที่ไม่ปกติก็คือ เจอโถอีกอันหนึ่ง ไม่รู้ว่าเขามีไว้เพื่องานใด...งานนี้มีคนไม่ทราบ
หลายคนในกรุ๊ป เลยถามไกด์ ก็ได้ความมา ในที่นี้จะไม่บอก อยากให้สมาชิก
ลองทายกันสนุกๆว่า โถอันนี้เขาใช้เพื่ออะไร
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/ab8a178257a54a3b3894e97d5faf649d.jpg)
รูปนี้โถส้วมปกติ (รูปไม่ค่อยชัด รีบถ่าย..ภาพเลยไหว...)
(http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/b080ac35aa17a293d43f33d889f4a8dd.jpg)
อันนี้แหละ โถเจ้าปัญหา ลองทายกันเล่นๆดูนะ คนที่รู้ อย่าเพิ่งตอบ ลองให้คนที่ไม่รู้ทายกันสนุกๆดีกว่า...