สโมสรบ้านเพลงไทย > ห้องพระ
อิทธบาทสี่
ลุงชัยนรา:
..ที่ผ่านมา ก็บวชเณร 3 พรรษา พระอีก 1 พรรษา ครับท่าน...
ลือ:
สาธุ...
สมแล้ว ที่นึกมาเสมอ
ว่าทำไมพี่ชัยช่างเป็นคนรอบรู้...
ที่แท้ ก็เพราะร่ำเรียนมาครบ
ทั้งทางโลกย์ และทางธรรม นี่เอง...
ทางเหนือ
1. ถ้าเคยบวชเณรมาแล้ว... ก็เรียก "น้อย"นำหน้าชื่อ
ถ้าชื่อจริง ไชยา
ก็จะเรียกว่า น้อยไจ๋ยา
แต่ถ้าชื่อ ชัย สั้นๆ....
แปลกครับ ทางเหนือ จะเรียกว่า ซัย นะ...ไม่ใช่ ชัย
(เหมือนคำว่า ฉีกกิน จะออกเสียงว่า สีกกิน)
งั้นพี่ชัย ก็ น้อยนเร.... น้อยซัย นะครับ
....อิ อิ
2. ถ้าเคยบวชพระมาแล้ว.... จะเรียก "หนาน" นำหน้าชื่อ
ถ้าชื่ิอจริง ทิพย์ช้าง
ก็จะเรียก หนานติ๊บจ๊าง
งั้นพี่ชัย ก็ หนานนเร...หนานซัย นะครับ
ทางใต้
ผมไม่แน่ใจนะ ลืมละครับ...
1. "ต้น" เช่น ต้นหริ่ง ...
ก็คือ พระ รูปที่ชื่อ หริ่ง... ที่ยังบวชเป็นพระอยู่ ใช่ไหมครับ
2. แล้ว "บ่าว"ล่ะครับ ....เช่น บ่าวเคียง
คือ คนหนุ่มธรรมดา ที่ชื่อ เคียง ......หรือว่าไงครับ?
3. "เจ้า" ก็อีกคำ เช่น เจ้ากั้น เจ้าเลื่อน น้าเจ้า...
ตอนอยู่ใต้ ผมก็เรียกๆไป โดยไม่ค่อยเข้าใจความหมายนะครับ...
แต่ ไม่รู้จะถามใคร
วานคนกรุงเตพฯ อย่างพี่ชัย/หรือคุณเผ่าพงษ์ .... ช่วยเฉลยหน่อย
(ผมเป็นคนขี้สงสัยมาแต่เด็ก)
ว่า คนใต้ ที่สึกมาจากเณร(หรือ ที่นิยมออกเสียงว่า "เดน"...อิ อิ)....จากพระ
เราจะมีคำอะไร นำหน้าครับ
:76........คันหัวเลย อะครับ
เผ่าพงษ์ ปัตตานี:
ขออนุญาตทำท่าว (ทำใหญ่) แทนพี่หลวงชัย เพื่อเฉลยครูลือ/หนานลือ ไว้สักนิดนะครับ ตามที่ท่านสงสัยคำเรียกขานภาษาใต้เท่าที่บ้านผมเขาพูดกันครับ
๑.ต้น : ใช้กับพระสงฆ์ที่ยังอยู่ในสมณะเพศ ส่วนใหญ่จะเป็นพระทั่วๆไปที่ยังไม่มียศฐาบรรดาศักดิ์ เช่น ต้นศักดิ์ (พระสงฆ์ที่ชื่อศักดิ์)
๒.บ่าว : ใช้เรียกผู้ชายตั้งแต่วัยเด็กๆจนถึงวัยผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้บวชเรียนมาก่อน (คนดิบ) เช่น บ่าวลือ บ่าววี เป็นต้น
๓.เจ้า : บางทีเห็นใช้กันสองแบบ กล่าวคือบางพื้นที่ทางใต้เขาใช้เรียกพระสงฆ์ก็ได้หรือใช้เรียกคนที่เคยบวชแล้วก็ได้ แต่ต้องคนที่อาวุโสสักหน่อย เปอร์เซ็นต์จะมาทางผู้ที่บวชแล้วสึกมาแล้วมากกว่าครับ เช่น เจ้าใกล้ (คนชื่อใกล้/พระสงฆ์ชื่อใกล้ก็ได้)
๔.หลวง : ใช้เรียกคนที่เคยบวชมาแล้ว เช่น หลวงแท่ก (นายแท่ก ผู้ที่เคยบวชมาแล้ว) หลวงไก่ หรืออาจเติมคำว่า พี่นำหน้าได้ถ้าผู้นั้นอาวุโสกว่าเรา เช่น พี่หลวงชัย เป็นต้น หรือบางครั้งใช้เรียกผู้ที่เคยบวชมาแล้วว่า "เณร" ก็มีเหมือนกัน ส่วนมากจะใช้กรณีผู้อาวุโส/ผู้เฒ่า ใช้เรียกลูกหลานที่ใกล้ชิด สำหรับบางคนที่เคยบวชเณรมาก่อนแล้วอั๊พเกรดเป็นพระต่อเมื่อถึงวัยบวชก็ได้. เช่น เณรคง คือ นายคงที่เคยบวชเณรมาก่อน ถึงแม้ตอนหลังมาบวชพระแล้วด้วย แต่เรียกกันติดปากกันมาตั้งแต่เป็นเณร เลยตามเลย อันนี้น่าจะผิดหลักการสักหน่อยครับ
ยกเว้น กรณีที่คนๆนั้นยังเป็นพระสงฆ์อยู่ก็เรียกหลวงได้เหมือนกัน เช่น หลวงชัย หลวงตา เป็นต้น
หมายเหตุ : ภาษาใต้บางพื้นที่อาจมีเพี้ยนกันได้บ้างในความหมายเดียวกันก็มี. อันนี้ต้องขอให้ผู้ที่รู้กว่าทั้งหลายช่วยกันเฉลยเพื่อเป็นวิทยาทานสำหรับสมาชิกได้กระจ่างด้วยครับ โดยเฉพาะนักค้นคว้าอย่างลุงชัย เดี๋ยวท่านคงมีอะไรที่ดีๆมาแชร์กันอีกครับ สำหรับผมคงเล่าสู่กันฟังในลักษณะเท่าที่รู้มาเท่านั้นครับ ผิดพลาดประการใดขอให้ช่วยกันชี้แนะได้ครับไม่สงวนลิขสิทธิ์
ลือ:
ขอบคุณครับ คุณเผ่าพงษ์
คุณเผ่าพงษ์ไม่ได้ทำเฒ่า -ทำท่าว-ทำใหญ่ (ทำเป็นรู้ดี/เจ้ากี้เจ้าการ)เลยครับ...
และผมขอขอบคุณที่ช่วยตอบ..
เพราะนี่ก็กลัวเหมือนกัน กลัวจะหาว่า ผมทำนุ้ย-ทำเอียด (ทำเป็นเด็ก-ทำเป็นไม่รู้เดียงสา)
ที่ถามมา...
1. ผมว่าชัดเจนนะครับ..พอคุณเผ่าพงษ์บอกคำว่า "หลวง"มา
ผมก็นึกถึงญาติฝั่งแม่ ที่บ่อสระ ขึ้นมาทันที
น้องแม่ ก็น้าหลวงเชี่ยง...พี่แม่ ก็ ลุงหลวงพิณ
(ซึ่งไม่กล้าถามใคร ว่าทำไมต้องมีคำว่าหลวงด้วย)
( ส่วนฝั่งพ่อ...ไม่เข้าข่าย พระ/เณร นี้เลย
เพราะจะเรียกอย่าง ชิโน-(แต่ไม่โปรตุเกสนะครับ..555)
คือจะ.... จีนอ (-จีน) ล้วนๆ ท่าทางจะไหหลำ นะ บ้านผม...
ก็ มีเรียกกัน ว่า โบ๊เด โกบ่าว ฉีนุช ฉีเคี้ยง เดหย่วน อี่(น้าหญิง) เกา(อาหญิง)...ฯลฯ )
แล้วคำว่า หลวง ที่ใช้กับพระที่ยังครองสมณเพศ .....
ผมก็นึกได้ ว่าสมัยโน้น เคยมี น้าหลวงดี ที่วัดสุวรรณากร
ท่านเป็นพระที่ผมรักและนับถือ เพราะท่านใจดีมากๆ..เวลาไปขอใบไม้ ดอกไม้ เอามาทำช่อไหว้ครู
กุฏิ(เตะ)ของท่าน อยู่ติดกับสนามฟุตบอลโรงเรียน ยกพื้นสูง มีบันไดปูนสวย
ปลูกกล้วยไม้ เฟินบอสตัน เฟินข้าหลวง เต็มด้านหน้า และด้านข้างกุฎิ...
(น้าหลวงดีมรณภาพด้วยโรคมะเร็งกระดูก...คิดว่าพ่อท่านรัน ก็ต้องเคยรู้จักครับ)
แต่ เณร...สำหรับคนที่เคยบวชเณรมาก่อน....
เหมือนว่า ผมจะไม่เคยมีโอกาสได้เรียกใครเลย...หรือว่า นึกไม่ออกซะเอง
:60 :60
จากบ้านเกิดปักษ์ใต้มา ตอน พ.ศ. 2526...
มาอยู่กรุงเทพฯ 11 ปี.... เชียงใหม่ 19 ปี..
ตอนนี้ ก็ 30 ปีเต็มแล้วหรือ ....โอ้โห แป๊บๆ เองนะ สำหรับผม
มาเจอ พี่ชัย/คุณเผ่าพงษ์ คนใต้ด้วยกัน ในเว็บ...
หน้าตาจริง ก็ไม่เคยเห็นกันเลย ..... แต่แถลง แข่งคุยภาษาใต้กัน สนั่นลั่นบ้าน
เป็นที่หนวกหู ของเพื่อนๆบ้านเพลงไทย มาตลอด...รู้ตัวครับ
ก็เพราะ ไม่ค่อยได้คุยใต้กับใครมานาน... ท่านที่ผ่านมาอ่านเจอ โปรดให้อภัย เถิดนะครับ
30 ปีนี้ กลับไปเยี่ยมบ้าน แค่ 3 ครั้งเอง..1. แม่เสีย/2.หลานแต่งงาน/3.พี่สาวเสีย...
น่าจะรวมๆ ว่ากลับมาบ้าน .... 20 วัน ถึงไหมเนี่ย?
ผมก็ไม่ได้คิดอะไร เท่าไร....เรื่องนี้
ตราบจน ครั้งล่าสุด เมื่อ 3ปีที่ผ่านมา กลับไปงานศพพี่สาวคนโต
อนันต์ -เพื่อน(บ้านอยู่หลังเขา)ที่เคยเรียน ป.7ด้วยกัน-วัย 55 ณ ตอนนั้น...เป็นตำรวจ
ก็มานั่งในงานของพี่ที่วัด ก่อนหน้าผม
ผมเดินเข้าไป.. มีใครคนนึง วิ่งเข้ามากอดผมแน่น สะอื้นร้องไห้...น้ำตาอาบแก้ม
เป็นอนันต์นี่แหละ ...เขาพูดว่า "เพื่อนเหอ นึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้ากันอีกแล้ว ชาตินี้..."
เพื่อนเป็นคนแกร่ง เมื่อพูดมาอย่างนี้...ผมน้ำตาซึม จุกในหัวอกเลยครับ
....ซาบซึ้งคำพูดของเพื่อนมากๆ
และเลยได้สำนึกว่า ผมจากบ้านมา ...นานมาก เหมือนลับหาย
...เข้าขั้นสาปสูญ อย่างที่เขาว่ากัน... จริงๆแน่เลย
เพราะ พอเจอเพื่อนอีกหลายคน เขาก็พากันต่อว่าผม
ว่า ทำไมไม่เคยกลับมาเลย เหมือนหายไปจากโลกนี้ ...
...ประมาณนั้น
" เฮ ไส่ล่ะ....ไส่ไมห๊อนหล็อบม่ามัง
เหมื๊อนห๊ายไป๋เล่ย จากโหลกนี นิ..."
ผมคงใช้อิทธิบาท 4 ...ในการจากบ้านเกิด จริงจังไปหน่อยครับ
คือ เมื่อตกลงว่าจะไปละนะ ก็ตั้งหน้าตั้งตา ไปข้างหน้าเต็มที่...ไม่หันหลังกลับ
:61 :61 :61 :61
อาคม ดอนเมือง:
ขอบคุณลุงชัยฯ ที่ทำให้ อิทธิบาทสี่ เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ขอบคุณคุณเผ่าพงษ์ฯ
ที่ทำให้การใช้สรรพนามเกี่ยวกับพระได้ถูกต้อง ขอบคุณคุณลือ ที่มาช่วยเสริมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ให้กระทู้นี้มีสีสันและดูน่าอ่านยิ่งขึ้น ชีวิตผมก็คล้ายๆกับคุณลือ (อีกแระ) คือตั้งแต่จากบ้านเกิดมา
(ตอนอายุ 17) ก็ไม่ได้กลับบ้านสักเท่าไหร่นอกจากมีงานสำคัญสุดๆอย่างที่คุณลือ ว่าไว้ นานๆ
กลับทีถ้าไปเจอเพื่อนฝูงที่เคยเรียนหนังสือมาด้วยกันก็จะดีมากๆรีบเข้าไปจับไม้จับมือและกอดกัน
อย่างมีความสุข บางคนก็เปลี่ยนไปจนจำแทบไม่ได้แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่เห็นหน้าค่าตากันตั้ง
แต่จากมาจนบัดนี้ซึ่งเป็นไปได้สูงว่าชาตินี้อาจจะไม่พบเจอกันอีกเลยเหมือนตายจากกัน (ทั้งเป็น)
ประมาณนั้น ถ้าท่านใดมีแง่มุมชีวิตเป็นอย่างไรบ้างก็ช่วยกันมาขยายความต่อไปอีกนะครับเพื่อจะ
ได้สาระและความบันเทิงเริงใจไปพร้อมๆกัน อย่าถือว่าเป็นการปั่น (กระทู้) เลยนะครับ เราชาวบ้าน
เพลงไทยไปไหนไปกันอยู่แร้วว อิ อิ อิ ผมเขียนไม่ค่อยเก่ง ถ้าวกไปเวียนมาก็ทนๆเอาหน่อยนะครับ
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version