« เมื่อ: มีนาคม 17, 2013, 10:32:51 AM »
หัวใจวัยทอง
ได้ยินบ่อยครั้งว่า เมื่อใดที่ผู้หญิงหมดประจำเดือน หมายถึงชีวิตของเธอกำลังล่วงเข้าสู่”วัยทอง”
แล้ววัยทองคืออะไร
วัยหมดประจำเดือนของผู้หญิง โดยเฉลี่ยอยู่ที่อายุ 50 ปีครับ แต่ก่อนหน้านั้น ราว 5 ปี ฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิงเริ่มแปรปรวนและหมดลง ส่งผลถึงอารมณ์ จิตใจ ร่างกาย ที่เห็นได้ชัดคือ อาการหงุดหงิด เกิดความเครียดได้ง่าย และมองโลกในแง่ร้าย
ไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องเผชิญกับวัยทอง ผู้ชายก็มีวัยทองเหมือนกันนะครับ วัยทองในชายจะคล้ายกับหญิง แต่ชายไม่มีวันหมดฮอร์โมนเพศ หรือฮอร์โมนเทสโตสเตอโรน เพียงแต่พร่องลงไปเหลือเพียงร้อยละ 20 เท่านั้น
นอกจากสภาพอารมณ์บูดๆไม่ว่าหญิงหรือชายในวัยหมดประจำเดือน ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เป็นผลมาจากไขมันเลว เช่นผนังเส้นเลือดอักเสบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด
แม้วัยทองจะไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แต่ผมขอแนะนำหลักปฏิบัติง่ายๆ เพื่อการใช้ชีวิตในช่วงวัยทองอย่างเหมาะสม เพื่อสภาพจิตใจและร่างกายที่ดี
• คิดและพูดในทางบวก อาจจดบันทึกสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับตนเอง และเรื่องดีๆที่ทำให้ผู้อื่นด้วย
• ควบคุมอาหาร ในมื้อเช้า รับประทานอย่างราชา มื้อกลางวันบริโภคธรรมดา ส่วนมื้อเย็นรับประทานแต่น้อย เน้นอาหารประเภทต้ม ตุ๋น นึ่ง เลี่ยงแป้ง น้ำตาล ที่จะเปลี่ยนเป็นไขมันเลว แถมยังทำให้แก่เร็วอีกด้วย
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเผาผลาญไขมัน ให้กล้ามเนื้อแข็งแรง กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนชะลอความแก่ แต่ก่อนจะมุ่งมั่นออกกำลังกายนั้น ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อประเมินความเหมาะสม ที่สำคัญต้องสวมรองเท้าที่มีสภาพสมบูรณ์ เหมาะกับรูปเท้า สวมใส่กระชับพอดี ป้องกันการพลิกแพลง
• เข้านอนก่อนเที่ยงคืน และปิดไฟในห้องนอนให้มืดสนิท เพื่อร่างกายได้สร้างฮอร์โมนชะลอแก่
หลายคนมาปรึกษาผมว่า หมอควรให้ฮอร์โมนเพศทดแทนหรือไม่ บอกได้เลยว่าแพทย์จะให้เฉพาะผู้ที่ไม่มีโรค ไม่เป็นมะเร็ง ไม่มีปัญหามดลูก ตับ ไต เลือดเป็นปกติ แต่ผู้ที่มีภาวะกระดูกบาง-พรุน ความจำเสื่อม ไม่มีความสุขในชีวิตอาจเสริมด้วยวิตามินซีและวิตามินดีเพื่อลดความเครียดจะดีกว่าครับ
ขณะที่มีคำถามเสมอว่า ผู้ชายวัยทองจะทำอย่างไร แม้ว่าผู้ชายจะไม่มีวันหมดฮอร์โมนเพศเหมือนผู้หญิง แต่เมื่ออายุมากกว่า 40 ปี ก็อาจเกิดการพร่องฮอร์โมนเพศชายได้
ฉะนั้น การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ การนอนพักผ่อนที่เพียงพอ และการรับประทานอาหารที่ครบถ้วนทุกหมวดหมู่อาจช่วยได้
แต่หากมีอาการประเภทหงุดหงิดง่ายโดยไม่มีเหตุผล นอนไม่หลับ ร้อนวูบวาบ หรือเกิดอาการหงอยเหงา และซึมเศร้าโดยไม่มีสาเหตุแล้ว หรือเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตรักทางเพศไม่เหมือนเดิม การไปปรึกษาแพทย์เพื่อการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไปก็เป็นส่วนหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดีครับ
:จากคอลัมน์ เรื่อง(ไม่)ลับที่ผู้ใหญ่(ต้อง)รู้ โดย ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ วันอาทิตย์ 25 มีนาคม 2555
_______________________________________________________________________________________