1. พี่ชัยนี่ ผมต้องยอมรับในความสามารถเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะด้านภาษา การพูด เขียน อ่าน และประพันธ์ ...
ยังไม่รวมด้านอื่นๆ เช่นการเกษตร การเป็นวิทยากร ฯลฯ
ส่วนคุณเผ่าพงษ์ ผมก็ทึ่งมาก...ขนาดไม่ใช่คน 3 จว.ภต. ก็ยังสามารถเรียนรู้ภาษายาวีได้ในระดับดีมาก
อาจจำเบลอไปใน บางคำ
แต่ก็ต้องถือว่าเก่งมากคนนึง....เพราะคำมลายูหลายคำ ออกเสียงต่างกันนิดเดียว ความหมายก็เปลี่ยนแล้ว
ผมซะอีก...คนตรงนั้นแท้ๆ ยังพูดไม่ได้เลยครับ...แย่จัง
สมกับที่เขาว่า "ตอเละมาแก ...เฮาะนิง"
(ไม่ได้กิน......= ไม่ได้เรื่อง-ไม่ได้ความเลย... ไอ้คนนี้)
2. แล้วทำไมพี่ชัยพูดภาษาอีสานได้ครับ....ช่วงทำงาน..หรือไงครับ
ก็จำมาว่า พี่ชัยเป็นคนภาคกลางของหาดใหญ่ แถวๆคลองเรียนซิตี้ หรือ ประมาณนี้แหละ
ที่พี่ชัยพูดว่า..
"ผมอาศัยในนราธิวาส มา 40 ปี และภาษามลายูถิ่น คือภาษาที่ 3 รองจาก ไทย และ อีสานครับ จนเพื่อนๆ ทักว่า"เดาะแปและ" แปลว่าไม่เพี้ยนเลย " ผมขอบอกว่า คำนี้ ....ผมเคยพิมพ์ผ่านมือมาก่อนครับ ก่อนเข้าเว็บบ้านฯ
พี่สาวผมไง...ที่เขียนเล่าชีวิตตัวเอง ตอนอยู่น้ำดำ บ่อทอง ตุยง ปากน้ำปัตตานี สายบุรี ฯลฯ...เขียนลักษณะเล่าให้ผมฟัง
เขียนไว้ 100 กว่าหน้า....
ผมเลยพิมพ์คอมให้ ..เสร็จใน 2 เดือนกว่า
แล้วให้ร้านถ่ายเอกสารที่แม่ริม ปริ๊นท์ เข้าเล่ม ส่งให้พี่เป็นของขวัญ 14ชุด
อยู่ตุยง ...พี่สาวผม ก็เล่าถึงบ้านของคุณครูที่พี่รักมาก ซึ่งเป็นพี่สาวของ
บุญเลิศ เอี่ยวเจริญ นักฟุตบอลทีมชาติไทยสมัยโน้น(บ้านเกิดอยู่ที่นั่นครับ)
อยู่ปากน้ำ...พี่สาวก็เล่าถึง
"อาอี๊ด"-คุณพนมเทียน ที่เขียน"เพชรพระอุมา"....
อย่างที่ผมเคยแจมในบางกระทู้ ฯลฯ
อยู่น้ำดำตอนเด็กประถมฯ...พี่เขียนเล่าเหมือนพี่ชัยเลย....5555
ลองอ่านดูนะครับ...นี่พิมพ์ตามต้นฉบับมาให้ดู
"....พ่อพูดภาษายาวีได้ดีมากๆ
...แม่เราก็พูดได้เหมือนกันนะ
พี่ณาล่ะ สมัยเป็นเด็ก มีแต่เพื่อนมุสลิมทั้งนั้น มีเพื่อนที่เป็นคนไทยพุทธนับได้ไม่กี่คน
ดังนั้น เรื่องภาษายาวีไม่มีปัญหา ได้รับการยอมรับจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่เป็นคนมุสลิมว่า พูดได้ไม่เพี้ยนเลย
เขาว่าพี่ แกแจ๊ะเต๊าะแปและ(พูดไม่เพี้ยน)...." อิ อิ....เหมือนมั้ยล่ะครับ
อะ งั้นรบกวนนิดครับ....
บ้านน้ำดำ ต. ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
พี่ผมก็ไม่แน่ใจว่า
ปุโละปุโย จะแปลว่า
ข้าวเหนียวในหม้อ.... หรือว่า หม้อสำหรับไว้ใส่ข้าวเหนียว ครับ
(ปุโละ = ข้าวเหนียว / ปุโย = หม้อ )
3. ส่วนขนมไทยโบราณวันนี้....ขอเสนอ
"ขนมขี้เสียด" ครับท่าน....
รู้จัก หรือเคยกินกันไหมครับ?
ไม่ทราบว่า ตอนนี้ยังมีขายไหมครับ?
สาอยากแปลบ..(= ชักอยากกินขึ้นมาเลย)
......555
ผมค้นในกูเกิ้ล ไม่เจอรูป ไม่มีใครโพสต์ไว้....
เจอแต่นิยายเชิงสารคดี เกี่ยวกับ อ.แว้ง จ.นราธิวาส
เรื่อง "แว้งที่รัก" เขียนโดย "ชบาบาน" (จะเป็นพี่"ชบาบาน" สมาชิกเว็บเราหรือปล่าว?..อิ อิ)
ในเรื่อง จะพูดถึงขนมขี้เสียดไว้ครับ
แว้งที่รัก
www.asoke.info/09Communication/DharmaPublicize/Kid/k173/047.html
น้อยเห็นหลั่นสินนั่งอยู่ที่ข้างบ่อน้ำหลังบ้านกำลังซักเสื้อผ้าที่คนเขามาจ้างให้ซักง่วนอยู่ เธอจึง
ทรุดตัว นั่งลงข้างเพื่อน พลางยื่นห่อขนมขี้เสียด (สีเสียด) แผ่นบางๆ กลมๆ ไปให้.
ขนมขี้เสียด สมัยยังเด็ก ผมจะไปซื้อที่ร้านน้ำชาเป๊าะมะ(ลุงชาวมุสลิม ชื่อ มะ)
มันจะอยู่ในโหลแก้วใหญ่ มีฝาแก้วครอบ....ใกล้ๆโหลขนมไข่เป็ด
เป็นแผ่นแป้งสีขาวนวล บางๆ กลมๆ ขนาดเท่าเหรียญห้าบาทรุ่นก่อน....
อบ จนกรอบแห้ง...บางส่วนอาจมีรอยไหม้ๆ
(สำหรับผม ยิ่งมีรอยไหม้เยอะ ยิ่งชอบครับ มันจะแฝงความขมหน่อยๆ...55)
รสชาติจะหวานจัด ถึงขั้นแสบคอ
ซึ่ง...ถูกใจผมยิ่งนักครับ
:01 :01 :01