ต้นทางข้อมูลhttp://www.mediamonitor.in.th/main/knowledge/2011-06-21-07-08-27/2455-%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B5-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C.html
น้ำผักชี- เข้าใจผิดในโลกออนไลน์
กรณีหนึ่ง จากการแชร์ภาพทาง Social Network เริ่มต้นมาจากการแชร์ภาพจากต่างประเทศ โดยส่งลิงค์กันมาเรื่อยๆ ว่า ผักชีหรือน้ำผักชีสามารถช่วยล้างไตได้ ระบุว่า “นำผักชีมาล้างทำความสะอาดและสับให้ละเอียด หลังจากนั้นนำไปต้มกับน้ำประมาณ 10 นาทีและกรองเอาแต่น้ำแช่ตู้เย็น ดื่มวันละ 1 แก้วใหญ่ แค่นี้คุณจะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง โดยการที่ไตคุณถูกล้างสังเกตได้จากปัสสาวะที่ถูกถ่ายออกมาและความรู้สึกสดชื่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน”
ขณะที่แพทย์ระบุว่า สาเหตุหนึ่งที่สำคัญของผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง เกิดจากไตขับโพแทสเซียมออกจากร่างกายไม่ทัน หรือเกิดจากโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไป ทำให้ไปกระตุ้นหัวใจให้เต้นผิดจังหวะและหยุดเต้นได้ แพทย์จึงจำเป็นต้องมีการตรวจดูค่าโพแทสเซียมในเลือดผู้ป่วยอยู่เสมอ อีกทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงอาหารที่มีค่าโพแทสเซียมสูง
ผักชีเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีค่าโพแทสเซียมอยู่ในระดับสูงมากถึง 447-544 มิลลิกรัมต่อผัก 1 ขีด เมื่อผู้ป่วยโรคไตรับประทานผักชีหรือน้ำผักชีเข้มข้นเพียงเล็กน้อย ถือเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยอย่างมากและเสี่ยงต่อไตวาย
จากการสำรวจพบว่า ไม่ว่าจะเป็นผักชีฝรั่ง หรือผักชีไทยก็ตาม ยังไม่พบการศึกษาที่รับรองการใช้ในการล้างไต หรือชะลอการเสื่อมของโรคไตได้ จึงทำให้สรุปได้ว่า การกินน้ำผักชีเพื่อใช้ล้างไตนั้น ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะช่วยชะลอหรือล้างไตในผู้ป่วยที่เป็นไตวายเรื้อรังได้
ที่มา: บทความโดย ปาลิดา พุทธประเสริฐ ศูนย์ข่าว TCIJ