ชาใบหม่อน เป็นชาที่กำลังได้รับความนิยม ไม่แพ้ชาชนิดอื่นโดยสรรพคุณของใบหม่อนจะช่วยป้องกันรักษา โรคเบาหวาน ลดระดับน้ำตาลในเส้นเลือด และช่วยขจัดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ดี อีกทั้งยังมีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับชาชนิดอื่นๆ
หม่อน (Morus spp.) สมุนไพรพื้นบ้าน อาหารของหนอนไหม กลายมาเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพชั้นเยี่ยมของมนุษย์ สถาบันหม่อนไหมแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (สมมช.) ได้บุกเบิกการค้นคว้าวิจัยการผลิตชาใบหม่อนและสรรพคุณของพืชชนิดนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ร่วมกับสถาบันอาหาร มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยนเรศวร และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบใบหม่อนมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบทุกชนิด มีแคลเซียมสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญหลายชนิด
เช่น เควอซิติน(quercetin) แคมเฟอรอล (kaempferol) และ รูติน(rutin) นอกจากนั้นยังพบชาใบหม่อนมีสารดีเอ็นเจ (1-deoxynojirimycin) มีสรรพคุณลดระดับน้ำตาลในเลือด มีสารกาบา (gamma amino-butyric acid) ลดความดันโลหิต มีสารกลุ่มฟายโตสเตอโรล (Phytosterol) ลดไขมันในเลือด อีกทั้งไม่พบผลข้างเคียง จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค วิธีการเก็บเกี่ยว
วิธีการเก็บยอดใบหม่อนเพื่อที่จะนำมาสกัดเป็นชา จะใช้เพียง 3 ยอดบนสุดเท่านั้น และจะเก็บในช่วงเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น (วิธีการเก็บจะเหมือนกับการเก็บยอดชาทั่วไป) หลังจากนั้นนำมาคั่ว ตากแดดให้แห้ง หรือผ่านกระบวนการอบฆ่าเชื้อ
ขนาดที่หั่น การทำชาใบหม่อน 1. เด็ดส่วนใบของหม่อน นำมาล้างน้ำให้สะอาด หลังจากนั้นนำมาซอยให้เป็นชิ้นเล็กๆ 2. นำไปนึ่งบนน้ำเดือดๆ 1 นาทีคั่ว จนแห้ง หรือจะใช้วีธีนำเข้าเตาอบ ผ่านความร้อนก็ได้เช่นกัน
คั่วแล้ว
3. เก็บบรรจุใส่ภาชนะที่มิดชิด และเก็บไว้ในที่แห้งไม่อับชื้น 4. เมื่อชงจะำได้น้ำสีสวยๆแบบนี้
วิธีการชง
การชงชาใบหม่อนเพื่อให้คุณประโยชน์ที่ดีนั้น ควรที่จะนำใบแห้งมาบดให้ละเอียด ใส่ในซองเยื่อกระดาษสำหรับชงชา สำหรับชาใบหม่อนจำนวน 2 กรัม ควรใช้กับน้ำปริมาณ 3 แก้ว แล้วควรทานให้หมดภายในวันเดียว
หรือหาก ต้องการความหอม และคุณประโยชน์เพิ่ม ก็นำใบเตยหอม มาหั่น และคั่ว วิธีเดียวกัน แล้วคลุกเคล้า เก็บไว้ด้วยกัน ขอเสริมสูตรล้างไขมันในลำไส้
ไขมันที่เคลือบอยู่ตามผนังลำไส้ สามารถล้างออกได้ด้วยวิธีธรรมชาติแบบง่าย ๆ คือ ให้เอาใบหม่อน แบบแห้ง จำนวน 15 กรัม กับผลมะละกอดิบ ผ่าขวางครึ่งผลเล็ก หรือใหญ่แล้วแต่จะหาได้ จากนั้นนำเอาทั้ง 2 อย่างไปต้มน้ำสะอาดกะจำนวนพอเหมาะ จนเดือด
แล้วดื่มขณะอุ่นก่อนอาหาร ครึ่ง ชั่วโมง ครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ต้มดื่มทุกวัน ไม่มีอันตรายอะไร จะช่วยทำหน้าที่ละลายไขมันที่เคลือบอยู่ตามผนังลำไส้ และช่วยดูดซับไขมันส่วนที่ไม่มีประโยชน์ได้ดีมาก หรือ หากอาหารมื้อ นั้น มี จำพวกมันๆ อยู่ด้วย ดื่มหลังอาหาร อีก ซัก 1 แก้ว จะช่วยไม่ให้ไขมันจับเกาะผนังลำไส้ได้อีกขอฝากให้เพื่อนร่วมบ้านเพลงไทยทุกท่าน ที่มีส่วนเิกิน ทำดื่ม หรือหามาดื่ม เวลาคุยกัน ตอนกลางคืน มีประโยชน์มากเลยขอขอบคุณเรื่องจาก วิกิพีเดีย
ขอบคุณภาพจาก บ้านกลางสวน(ลุงชัย)
ขอขอบคุณครูลือ ผู้ฝึกสอนการวางภาพและเพลง