หอเกียรติยศ > ชาย เมืองสิงห์

เรื่องราวของชาย เมืองสิงห์ โดยอดีตนักร้องร่วมวงดนตรีจุฬาทิพย์

<< < (25/34) > >>

สมภพ:
มีเพลงมาให้ฟังสามเพลงครับ
 
เพลงที่ 1 บานชื่น - พร เทวา (ไมตรี สีทอง)
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/c8a24c99d49769ed061d5d4d5b85f7ca.swf

เพลงที่ 2 ยิ้มหน่อย - พร เทวา (คนแรก) วงดนตรีฟ้าบางกอก
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/71fa105ac24f596721b67c02aa79e3da.swf

เพลงที่ 3 รักแรกพบ - ไมตรี สีทอง คำร้อง/ทำนอง - อภิชาติ ชาตรี แผ่นเสียงสปีด 45 ตรากุมารทอง
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/a05ee8bc9837a547d3d35cac6e5aebdb.swf

ขอบคุณพี่แก้ว สาริกา ผู้เอื้อเฟื้อไฟล์เพลงบานชื่น และเพลง ยิ้มหน่อย ครับ  :tab_on: :tab_on:

แก้ว สาริกา:
 :teentob: : ดวงมาลย์ มิ่งมิตร..       
            เคยอยู่ วงดนตรี " ก้าน แก้วสุพรรณ " มาก่อน ชื่อ "กลอย มิ่งขวัญ" เป็นนักร้องคู่ขวัญ กันกับ "ขวัญ เอื้อเฟื้อ"
            สมัยอยู่ วงดนตรีก้าน แก้วสุพรรณ
ชื่อจริง "เกษร โตล้อม"  เป็นคนอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี เป็นคนรูปร่างสวย น่าตาดี  มาอยู่ จุฬาทิพย์ เริ่มแรก ใช่ชื่อ
"ดวงมาลย์ เนรมิตร" แต่เมื่อถึงคราวบันทึกแผ่นเสียง ได้เปลี่ยนใหม่ เป็น "ดวงมาลย์ มิ่งมิตร" บันทึกเสียงไว้ มีเพลง "ใจจืด"
เพลง "ชีวิตพยาบาล"  สำหรับเพลง ชีวิตพยาบาล "ดวงใจ เมืองสิงห์" ก็ได้บันทึกเสียงไว้ด้วย ในคราวเดียวกัน
"ดวงมาลย์ มิ่งมิตร" เป็นคนที่ พี่ติ๋ม ให้ความรัก เป็นคนใกล้ชิดและไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่ง
                      ต่อมาก็มาอยู่ วงดนตรี แมน เนรมิตร และ เป็นนักจัดรายการหญิงที่โดดเด่น และโด่งดังในยุคหนึ่ง
                                             นามของเธอ  "กลอยใจ เกษแก้ว"  
        ลงทุนทำเพลง ให้ "สายัณห์ สัญญา" ร้อง ได้ทั้งตัวเงิน ชื่อเสียง และส่วนแบ่งมิใช่น้อย จนจัดว่ามีฐานะดีคนหนึ่ง                         
                     
                 ปัจจุบันใช้ชีวิตครอบครัว กับ  "แมน เนรมิตร"  ที่บ้านโป่งกูป    อ. พนมทวน จ. กาญจนบุรี

ดวงมาลย์ มิ่งมิตร ครับ เพลง ใจจืด
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/902a677cd6cb5cc9396335e3b2c839bb.swf


ชื่อนี้ กลอย มิ่งขวัญ กับเพลง ลูกขอทาน ครับ
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/5f2c8c46991417103b0ecea8755b5659.swf

แก้ว สาริกา:

--- อ้างจาก: สมภพ ที่ กันยายน 03, 2015, 08:10:15 PM ---มีเพลงมาให้ฟังสามเพลงครับ
 
เพลงที่ 1 บานชื่น - พร เทวา (ไมตรี สีทอง)
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/c8a24c99d49769ed061d5d4d5b85f7ca.swf

เพลงที่ 2 ยิ้มหน่อย - พร เทวา (คนแรก) วงดนตรีฟ้าบางกอก
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/71fa105ac24f596721b67c02aa79e3da.swf

เพลงที่ 3 รักแรกพบ - ไมตรี สีทอง คำร้อง/ทำนอง - อภิชาติ ชาตรี แผ่นเสียงสปีด 45 ตรากุมารทอง
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/a05ee8bc9837a547d3d35cac6e5aebdb.swf

ขอบคุณพี่แก้ว สาริกา ผู้เอื้อเฟื้อไฟล์เพลงบานชื่น และเพลง ยิ้มหน่อย ครับ  :tab_on: :tab_on:

--- End quote ---
       ต้องขออภัยท่านครับ สำหรับเพลง "บานชื่น" ที่ช่วงท้ายหายไป เนื่องจากเป็นแผ่น 78 ที่ค่อนข้างชำรุด
                     แต่อยากจะให้ท่านฟัง ระหว่าง เป็น พร เทวา ก่อนจะมาเป็น ไมตรี สีทอง

ลมโชย:


นำภาพของ ดาวไทย ยืนยง มาฝาก 1 ภาพ

แก้ว สาริกา:
 :teentob: :teentob: : ผมเกือบจะลืม  นักร้องท่านนี้ไปเสียแล้วล่ะครับ เศรษฐี ภูธร/ ทุ่ง เศรษฐี/ มิตร มนตรี

    ไอ้แหลม เป็นชื่อเล่น ที่พวกเพื่อนๆ เรียกกันจนติดปาก เลยลืมไปเลยว่า ชื่อจริง นามสกุลจริง มีว่าอย่างไร
ไอ้เจ้าแหลม มีนิวาสถาน อยู่ในซอยวัดแหลมฟ้าผ่า อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ปัจจุบันเป็นอำเภอพระสมุทรเจดีย์ไปแล้ว 
เป็นนักร้องที่จัดว่ามีฐานะดีคนหนึ่ง มีที่บ้าน มีสวนมะพร้าว ที่ดินมากกว่าเจ็ดสิบไร่ ซึ่งตอนนี้บ้านเมืองเจริญมาก ที่ดินมีราคา หลับตาคิด เห็นแต่ก้อนเงินมากองอยู่เต็มไปหมด
    ไอ้เจ้าแหลม นี่แหล่ะ ทำให้ผมเป็นคนขี้อิจฉาไปอีกคนเป็นคนที่สอง ต่อจาก ทศพร หิมพานต์ อย่าเพิ่งเหล่ผมนะครับ
จะเล่าให้ฟังเพลินๆ ในวงการก็อย่างงี้แหล่ะ  ขี้อิจฉาตาร้อน มีโกรธ มีเกลียด มีโลภ มีรัก มีหลง
    วันหนึ่ง ขณะผมนั่งตีกลอง ซ้อมนักเต้นหางเครื่อง มีรถเก๋งคันสีขาววิ่งมาจอดที่หน้าสำนักงาน บ้าน ชาย เมืองสิงห์ มี ชาย-หญิง สองคน ลักษณะท่าทางภูมิฐานวัยกลางคน พร้อมหนุ่มหล่อตาตี่ อีกหนึ่งคน รวมเป็นสาม มาขอพบ ชาย เมืองสิงห์  ไอ้เราก็คิดว่าเจ้าภาพมาหางาน ทุกคนหยุดเต้นหยุดซ้อมกันหมด ผมจัดเตรียมปากกากับหนังสือสัญญาพร้อมตามหน้าที่ ที่ไหนได้ ที่แท้ ท่านทั้งสองพาลูกชายมาสมัครนักร้อง พี่ชาย บอกไหนร้องเพลงให้ฟังซิ
เอ้า..ไอ้แก้ว ตีกลองให้หน่อย (พี่ชายบอก) เจ้าหนุ่มนั่น ลุกขึ้นร้องเพลง "เดือนเอ๋ยข้างแรมเดือนมืด  น้ำค้างเย็นชืดเหน็บหนาวให้ร้าวใจ ตัวพี่นี้ไร้กานดา (ซ้ำ) หนาวในวิญญาจะหันหน้าไปหาใคร"
          ร้องเพลง "เดือนมืด"  โอ้โฮ..ร้องเสียงดีเป็นบ้าเลย เสียงที่ร้องก็เหมือน ชาย เมืองสิงห์ เปี๊ยบเลยเชียว 
       พี่ชายก็พูดเปรยขึ้นมาว่า "ไอ้ยม ไอ้แก้ว" เจอคู่แข่งแล้วมึง แล้วพี่ชายก็รับไว้เป็นนักร้อง ประจำวง จุฬาทิพย์           
                               
                              ไม่รู้เป็นไร ใครมาร้องเสียงเหมือน ชาย เมืองสิงห์  พี่ชาย รับหมด

   ไอ้เจ้าแหลม ก็ได้เป็นนักร้องประจำ วง จุฬาทิพย์ พี่ชาย ก็ตั้งชื่อให้ใช้ในการร้องเพลงหน้าเวที "เศรษฐี ภูธร"
ร้องเพลงตามสไตล์ ชาย เมืองสิงห์
เพลง เดือนมืด เพลง แก่นแก้ว พี่ชาย เห็นเสียงดีมีแววดัง ก็เลยหาเพลงแต่งเพลงให้ร้อง บันทึกเสียงเพลงแรก "ลักยิ้ม" ไอ้เจ้าแหลมนำมาร้อง แล้วก็บันทึกแผ่นเสียงในเวลาต่อมา ก่อนที่แผ่นเสียงจะออกสู่ท้องตลาด พี่ชายก็ เปลี่ยนชื่อให้ใหม่ "ทุ่ง เศรษฐี"
เพลง "ลักยิ้ม" ใช้ชื่อ "ทุ่ง เศรษฐี" ขับร้อง ออกแผ่นมาแล้ว ก็ยังไม่ดังไม่ติดหูคนฟัง
      ทีนี้ มาถึงตอนที่ผมต้องอิจฉามัน (เอาอีกแล้ว ตาแก้ว) มันมีเรื่องอย่างนี้ครับ อย่าเกลียดหรือโกรธจนชังน้ำหน้าผมเลยนะ  เพียงจะเล่าสู่กันฟังเพื่อประกอบการรับรู้
      ในช่วงปลายปี 2510 ถึงต้นปี 2511 เพลง "พ่อม่ายลูกติด" เพลง "ชาวนา"  และ เพลง "ไกวเปล" ที่ แก้ว สาริกา ร้องไว้ กำลังโลดแล่นติดอันดับเข้าชิงแผ่นเสียงทองคำถึง 3 เพลง ทางสถานีวิทยุกองพลที่ 1. โดย ครู ป.วรานนท์ พี่ชายก็ได้แต่งเพลงให้ผมร้อง ชื่อเพลง "กล่อมลูก" ซึ่งเป็นเพลง นับต่อเนื่อง จากเพลง "ไกวเปล" หวังจะกระทุ้งให้ดังให้ได้ ผมต่อเพลงร้องจนขึ้นใจ เป็นเพลงทำนองออกจะไทยเดิม  ซึ่งเป็นแนวที่ผมถนัดอยู่แล้ว เพลงหวานๆ เศร้าๆ โศกๆ แนว แก้ว สาริกา ชอบเลยเชียวล่ะ
     ลองอ่านดูเนื้อหาสักหน่อยเป็นไรมี
                                               "หลับเถิดลูกจ๋า เดี๋ยวตุ๊กแกกินตับ ลูกนอนไม่หลับ เดี๋ยวตับจะไม่มี
                                                                  หลับเสียที พ่อนี้จะไกวเปล                                               
                                         ลูกเอย เมื่อโตแล้วอย่าลืมตัว      หลงระเริงความชั่วปล่อยตัวเป็นคนเสเพล
                                         เมื่อลูกเจริญวัย จงจำคำพ่อไว้    ใครหนอเฝ้ากล่อม เห่  ทนุถนอมกล่อมลูกน้อยนอนเปล
                                                                  เห่ เฮ เฮ เฮ  ไกวเปล ให้เจ้านอน" ........
         
                  : ต่อเพลงแล้ว ทำดนตรีเรียบเรียงเสียงประสานแล้ว โดย ครูมนตรี แสงเอก นัดห้องอัดแล้ว
                       วันฝันสลาย ก็เป็นของผม แก้ว สาริกา ไม่ได้ร้องบันทึกเสียงเพลง "กล่อมลูก" เพลงนี้ 
                    นักร้องที่ได้ร้องบันทึกเสียง เพลงนี้จริงๆ คือ "ทุ่ง เศรษฐี"  ที่พี่ชาย เปลี่ยนชื่อให้ใหม่อีกหน
                                    จาก "ทุ่ง เศรษฐี" มาเป็น "มิตร มนตรี" 
          แล้วความน้อยเนื้อต่ำใจก็เกิดขึ้น เมื่อคราว ที่ วงจุฬาทิพย์ ไปแสดงในงาน ทอดกฐินสามัคคี ประจำปี พ.ศ. 2511
          ของพระเอก "มิตร ชัยบัญชา" ที่วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) "ทุ่ง เศรษฐี"  ร้องเพลงกล่อมลูก หน้าเวที
          ทุกครั้งที่ผมได้ยิน ผมต้องนั่งสะท้อนถอนใจ นั่งคิดยืนคิดตัดสินใจอยู่นาน เอ..นี่เราทำอะไรผิด 
          น้ำใสๆมันไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
                  คืนนั้นหลังจากแสดงที่ วัดแคนางเลิ้ง ก็จะต้องเดินสายเหนือต่อกันในคืนนั้นเลย

                ตัดสินใจครั้งสุดท้าย
                       
                 ไม่ขึ้นรถคณะดนตรี หิ้วกระเป๋า กลับบ้านที่บางซื่อ ไปนอน กับ พี่ "ศักดิ์ สุดา"  คนที่เราเคารพ
                                   นี่แหล่ะครับ สาเหตุที่ แก้ว สาริกา หนีออก จากวงจุฬาทิพย์
       

          กล่อมลูก - มิตร มนตรี
          http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/eed1a8a3010683095933926a2166baac.swf


                         

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version