หอเกียรติยศ > ชาย เมืองสิงห์
เรื่องราวของชาย เมืองสิงห์ โดยอดีตนักร้องร่วมวงดนตรีจุฬาทิพย์
แก้ว สาริกา:
--- อ้างจาก: สมภพ ที่ สิงหาคม 30, 2015, 11:15:51 AM --- เพลงลูกทุ่งในยุคนั้น อย่าได้บังอาจเสนอหน้ามาทางิทยุเอฟเอ็มเป็นอันขาด เอฟเอ็ม (ซึ่งเสียงดังฟังเพราะ) ในสมัยนั้นต้องเพลงสากล เพลงลูกกรุง แล้วรุ่นต่อมาก็ต้องเพลงสตริงเริ่มจากดิอิมฯ พวกลำตัดลิเกอะไรนี่ อย่าได้เสนอหน้าเข้าไปเป็นอันขาด จนมาถึงสมัยหลังๆ นี่แหละ (ผมว่าก่อนปี 30 ไม่กี่ปีนะ) ที่เพลงลูกทุ่งได้มีโอกาสได้ไปโก่งคอเจื้อยแจ้วอยู่บนคลื่นเอฟเอ็ม แต่ในยุคนี้ ถ้าจะให้ฟังเอฟเอ็มบางสถานีต้องขอผ่านครับ เดี๋ยวนี้สถานีชุมชนมันเยอะแล้วความถี่ที่ออกอากาศนี่มันเบียดกันเสียจนฟังไม่รู้เรื่องเลยครับ
--- End quote ---
: ผู้ที่นำเพลง "ลูกทุ่ง" บุกคลื่น เอฟ เอ็ม อย่างชัดเจน ไม่แอบๆ ปิดๆ บังๆ ครู "ไพบูลย์ ศุภวารี" :
แก้ว สาริกา:
:teentob: :74: "นารี สุจริต" นักร้องหญิงอีกท่าน ของ วง "จุฬาทิพย์" :
นารี สุจริต ต้องขอโทษจริงๆนะครับ จำชื่อจริงไม่ได้เลย แต่เพื่อนๆเรียกกันว่า สวย (ไอ้สวย) เธอเป็นสาวมอญ บ้านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เป็นนักร้องรุ่นแรกๆ ของ วงจุฬาทิพย์ ไอ้เจ้าสวยคนนี้ ร้องเพลงดี เสียงดี มีน้ำใจ บันทึกเสียงเพลงไว้ เพียง 1 เพลง เท่านั้น คือ เพลง "หน้าชื่นอกตรม" เป็นเพลงที่มีเนื้อหา และท่วงทำนองเพลง ทรงไว้ซึ่งความไพเราะ ที่นักร้องหญิงคนหนึ่งของ วงจุฬาทิพย์ ร้องไว้อย่างน่าฟังเหลือเกิน ทั้งรูปร่างน่าตามารยาทน่ารัก งามไปเสียทุกสิ่งอย่าง ในวัยสาวพราวสพรั่ง มีหนุ่มๆหมายปองกันมาก ในที่สุดเธอก็ได้แต่งงาน กับนักดนตรีกองดุรยางค์ทหารบก และเป็นนักดนตรี ประจำวงจุฬาทิพย์ มือทรัมเปท เธอร้องเพลงแนวสไตล์ทั้งลูกทุ่ง และลูกกรุงได้ไพเราะในเวลาเดียวกัน พอแต่งงานก็ลาออกจาก วงจุฬาทิพย์ ผันตัวเองไปเป็นนักร้อง
ร้องเพลงตามใน๊ท์คลับ ในบาร์ และห้องอาหาร นั่นหมายถึงว่าสร้างรายได้ให้กับตัวเองและครอบครัว จนมีฐานะเป็นอยู่สบาย มีบ้าน
รถเก๋งคันงาม ต่อมาด้วยความสามารถ ประกอบกับรูปร่างหน้าตาทีสะสวย ก็ได้มีเศรษฐี สถานบันเทิง จากแดนใต้ จ. ภูเก็ต ให้เธอไปร้องเพลงประจำห้องอาหาร ด้วยจำนวนเงินที่ใครๆ ก็ไม่อยากปฏิเสธ สุดท้าย ด้วยอิทธิพลที่มากมายของพื้นที่
"นารี สุจริต" ต้องมาจบชีวิต ณ ที่แห่งนี้ แดนนี้ ด้วยวัยเพียงแค่ 23 ปี อย่างไม่มีวันกลับ ( เมื่อปี 2515 )
หมายเหตุ : ผมได้รับข้อมูล จาก คุณสามเค ว่าเคยได้เห็นแผ่นเสียง ตราจุฬาทิพย์ ที่ นารี สุจริต ร้องบันทึกเสียงไว้อีกเพลง
ชื่อเพลง "ห่วงพี่" / ขอบคุณ คุณสามเค มากครับ ...
สมภพ:
มีเพลงของคุณนารี สุจริต มาให้ฟังครับ มีเพลงเดียวนี่แหละ
หน้าชื่นอกตรม - นารี สุจริต
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/31dc42a28ccb80a01af648801047dc60.swf
แก้ว สาริกา:
:teentob: :teentob: :teentob: :teentob:
เพลง เลิกแล้วเจ้าชู้ น้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์ ขับร้อง
:teentob::zxdrn: : "น้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์" อีกหนึ่งนักร้องชาย ของวง "จุฬาทิพย์" :
: อีกหนึ่ง นักร้องชาย ของ วงจุฬาทิพย์ ที่ท่านแทบจะไม่ได้ยินชื่อ หรือรู้จักกันเลย "น้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์" ครับ ชื่อจริง ว่า สำราญ (นามสกุลไม่ค่อยจะได้จำ) เป็นชาวจังหวัด ชัยนาท เมืองสวนนก มาอยู่ จุฬาทิพย์ รุ่นแรกๆ ไม่ใช่ยุค วงหลังเขานะครับ รูปหล่อ
ร้องเพลงดี ไม่มีดวง ก็เลยไม่ดัง ร้องเพลงบันทึกแผ่นเสียงไว้ สองเพลง เพลงแรกที่อัดเสียงไว้ "ไม่เป็นไร"
แต่งเนื้อร้อง โดย อัมพร สนธยา และก็ เพลง "เลิกแล้วเจ้าชู้" อัมพร ก็แต่งด้วย เยอะ อีตาคนนี้ แต่งเพลงให้ จุฬาทิพย์ ไว้เยอะแยะตาแป๊ะฉายหนัง "น้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์" ร้องเพลงอยู่สักพัก เห็นถ้าจะไปไม่ไหว ก็เลยหันไปเรียนดนตรี จะเอาดีทางด้านดนตรีว่างั้นเถอะ เป่าแซ๊กเทนเนอร์ ซ่ะด้วย ตัวเบอเริ่ม แล้วก็ไม่รู้ ผมก็ไม่รู้ จับพลัดจับผลู มาเสียชีวิตไปตั้งแต่ ยังไม่มีลูกมีมีย เสียดายจัง น่าจะเอาความหล่อหลงเหลือไว้ให้ เรามั่ง ทรงผมก็ยังดี เอ้า.. ฟังเพลงของ "น้ำมนต์ ศักดิ์" กันครับ ผมมีมาให้เพลงเดียวเท่านั้นแหล่ะ เดี๋ยวมาดังตอนเสียชีวิตแล้ว เหมือนไอ้ยม เรื่องมันจะยุ่ง ..
เลิกแล้วเจ้าชู้ - น้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/1eee17de1d04ba277db9675e47cf7d6b.swf
แก้ว สาริกา:
:42 :teentob: :teentob: :teentob:
:teentob: : "บุตร บุญธรรม"
: เมื่อช่วงหลังสงกรานต์ ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสเดินทางไป ยังตลาดโคกสำโรง จ. ลพบุรี ด้วยรถมอร์เตอร์ไซด์เก่าๆคู่ชีพ
ขับไปเรื่อยๆ จากบ้านศาลาดิน วิเศษชัยชาญ ผ่านไชโย วิ่งบนถนนสายเอเซีย เลาะลัดเข้าทางบางงา มุ่งหน้าเข้าท่าโขลง บางขาม พักใหญ่ๆ ก็ถึง อ. บ้านหมี่ เรื่อยไปจนถึง แยกรถจอดสนิทติดไฟแดง อ.โคกสำโรง หน้าโรงเรียนจารึกล้อม เวลา 11.10 น.
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง นั่งนึกอยู่บนรถ ท้องก็ชักจะหิว พอไฟเขียว ก็ขับรถหลงเลยไปหน่อย เจอร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง ได้เวลาแล้ว ขอพักเอาท้องใส่ก๋วยเตี๋ยวสักสองชามก่อน ช่วงขณะกำลังกินก๋วยเตี๋ยว ตาก็มองเลยไปเห็น โรงภาพยนตร์เก่าๆรกร้างอยู่
ย้อนคิดถึงความหลังเก่าๆ ก็เริ่มวาดภาพมโนนึกจำได้ว่า ครั้งหนึ่ง เมื่อเกือบจะห้าสิบปี เราได้เคยมาร้องเพลง
ณ.โรงภาพยนตร์แห่งนี้ มีโรงแรมไม้หลังเล็กๆ ได้เป็นที่เช่าพักพิงชั่วคราว ตั้งอยู่ฝังตรงข้าม ขณะที่พวกเรานั่งเล่นกันบ้าง ทำอะไรต่อมิอะไรกันบ้างตามประสา ก็มีชายหนุ่มเดินขากอมเข้ามา แล้วถามพวกเราว่า "ผมมาขอพบ ชาย เมืองสิงห์ พัก อยู่ห้องไหนครับ" / ก็นึกในใจว่าไอ้หมอนี่ใครว่ะ มาแปลกมาขอพบพี่ชาย ปกติ ใครก็ตามที่จะมาขอพบพี่ชายนะ ไม่ใช่ง่ายๆ สักครู่พี่ชายก็เดินมาคงจะด้วยเหตุบังเอิญซ่ะมากกว่า ชายหนุ่มพอเจอะเจอพี่ชาย ก็เดินเข้าไปหา แล้วเอ่ยวจี เสียงดังฟังชัดใครๆก็ได้ยิน "ผมชื่อสมาน ครับ มาจากบางมะยม ผมจะมาสมัครนักร้องครับ" งง งง พี่ชาย ก็งง คุยกันอยู่พักนึง พี่ชายก็บอกให้ร้องเพลงให้ฟัง (ผมก็พอนึกออกว่า เค้าร้องเพลงของ เพลิน พรหมแดน ไม่ได้จำว่า เพลงอะไร) ร้องดังเสียงลั่น พี่ชายนั่งก็อมยิ้ม ก็คงชอบนั่นแหล่ะ แล้วตอบง่ายๆ เออเอา อยากเป็นนักร้องก็จะรับไว้ .. เริ่มงานแรก ไม่ได้ร้องเพลงหรอกนะครับ พี่ชายบอก โน่นหลังจากนี้ ออกบุ๊คสายงานการแสดงของวง หลังจากที่ตกร่องปล่องชิ้นรับศิษย์คนใหม่แล้ว พวกเราๆทั้งหลายมารับรู้จากพี่ชายว่า ไอ้เจ้าคนนี้มันขับรถเป็น จะให้คอยขับรถ เพื่อวิ่งต่างจังหวัดออกบุ๊คสายตามโรงหนังต่างๆ เพราะ ในวงทุกคนสมัยนั้นหาคนขับรถเป็นไม่มีเลย ก็เห็นมี มิสเตอร์โปสเตอร์ คนเดียวที่ขับรถได้ ต่อจากนั้น นับจากวันเป็นเดือน และเพียงไม่กี่เดือน นักร้องใหม่ นามว่า "สมาน" ชาวบ้านบางมะยม ท่าวุ้ง ลพบุรี เมื่อทำงานเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ เหมือนจะเป็นคนโปรดของ ชาย เมืองสิงห์ ซ่ะด้วย พี่ชาย ให้ใช้ชื่อ "บุตร บุญธรรม" ก็ได้ร้องเพลงบันทึกเสียงลงแผ่นไว้สองเพลง เพลงแรก "ดีใจด้วย" เนื้อร้อง/ทำนองเพลง นักแต่งเจ้าเดิมเจ้าเก่า "อัมพร สนธยา" อีกเพลง "ผมล้อเล่น" เนื้อร้อง/ทำนอง วัฒนา ศรีเฟื้องฟุ้ง (นักแต่งเพลงท่านนี้ เป็นพี่ชายแท้ๆ ของ พี่ "ศักดิ์ สุดา" โฆษก นักจัดรายการวง จุฬาทิพย์ คู่กับ พี่ "ดาวฤกษ์ เรวดี") แต่งเพลงเล่นๆ กลับดีเพราะซ่ะด้วย ผมเรียกง่ายๆสั้นๆ ว่าพี่ วนา
สุดท้ายที่ผมเจอ พี่วนา บวชเป็นพระอยู่ที่ จ. สุพรรณบุรี แล้วก็ไม่ได้ข่าวอีกเลย ...
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version