หอเกียรติยศ > ชาย เมืองสิงห์

เรื่องราวของชาย เมืองสิงห์ โดยอดีตนักร้องร่วมวงดนตรีจุฬาทิพย์

<< < (28/34) > >>

แก้ว สาริกา:
                                               
                                :teentob: :teentob: :teentob: :teentob:
                                                       มรกต เมืองกาญจน์

                                   http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/72f303cd5e0503c2733942c48af9daef.swf
                                      เพลง สะบัดสะบิ้ง  มรกต เมืองกาญจน์ ขับร้อง
 
   :78 : ถึงคิวซะที กับ มรกต เมืองกาญจน์ นักร้องหนุ่มหน้ามน คนขี้อาย จาก เมืองกาญจนบุรี : :78
 
     มรกต เมืองกาญจน์ เป็นคนกาญจนบุรีโดยกำเนิด ชื่อจริง-นามสกุลจริง แพรว เสมแก้ว เกิดที่บ้านพังตรุ อ. พนมทวน
จ. กาญจนบุรี เข้าสู่วงการเพลง โดยการชักนำพา ของญาติผู้น้อง แมน เนรมิตร ฝากให้มาอยู่ วงจุฬาทิพย์ เมื่อ ชาย เมืองสิงห์
ก่อตั้งวงใหม่ๆ ปี พ.ศ. 2510 นับว่าเป็นนักร้องที่ พี่ชายโปรดและไว้วางใจในด้านการเงิน จึงมอบหมายให้เป็นผู้มีหน้าที่จำหน่ายบัตรผ่านประตูทุกครั้งที่จัดงาน หรือ เช่าสถานที่ทำการแสดง เก็บเงิน-เก็บทอง ขนเครื่อง-ขนของ ร้องเพลง อยู่มาไม่นานพี่ชายก็หาเพลงให้ร้องบันทึกแผ่นเสียง โดยได้ เพลง "สะบัดสะบิ้ง" แต่งโดย พนม สุกแสง (บรรพต สุกแสง) และเพลง "รักถลำ"
แต่งโดย "มนต์ เมืองสิงห์" บันทึกเสียงไว้สองเพลง กาลต่อมา  แมน เนรมิตร ออกจากจุฬารัตน์ มาทำวงช่วงปลายปี พ.ศ. 2511
มรกต เมืองกาญน์ เข้าไปกราบลา พี่ชายก็ให้ออกมาช่วยศิษย์รัก แมน เนรมิตร แล้วบอกว่า อยากจะกลับมาเมื่อไหร่ ก็ให้กลับมา เมื่อครั้นมาอยู่ กับ แมน เนรมิตร ญาติผู้น้อง เจ้าแพรว (มรกต) ได้บันทึกเสียงไว้อีกหนึ่งเพลง คือ เพลง "พี่ขอจอง" ด้วยฝีมือการแต่ง ของ "ราเชนทร์ เรืองเนตร" แล้ว มรกต เมืองกาญน์ ก็ยังได้โชว์ฝีมือการแต่งเพลงให้ แมน เนรมิตร ขับร้องบันทึกเสียงไว้
อีกสองเพลง เพลง "ก่ายหน้าผาก" กับ เพลง "กลับบ้านดีกว่า"
     หลังจาก แมน เนรมิตร เลิกวง มรกต เมืองกาญจน์ ก็มาโผล่ให้ผมเห็นที่งานฤดูหนาว เมืองลพบุรี วงดนตรี "พ่อหม้ายพัฒนา" ของ ชาย เมืองสิงห์ พร้อมๆ กับผมผู้เล่าเรื่อง นี่แหล่ะ ครับ..
    ณ. ปัจจุบัน ไอ้เจ้าแพรว หรือ มรกต เมืองกาญจน์ ด้วยวัย 70 กว่านิดๆ ใช้ชืวิตอยู่อย่างมีความสุข พร้อมครอบครัว
และลูกหลาน พำนักพักกาย อยู่แถวๆ โพรงมะเดื่อ จ. นครปฐม ด้วยฐานะที่มั่นคง ...
   
   / ปล. ไอ้แก้ว เฮ้ยๆ.. นี่มึงจะเอาประวัติกูเขียนลง "บ้านเพลงไทย" เล่าดีๆ นะมึง มึงต้องเอารูปตอนกูหนุ่มๆ หล่อๆลงนะโว้ย
ไอ้ฉิบหาย ตอนเอาเพลงกูลงใน ยูทูป เอารูปกูลงซ่ะแก่เลย แล้วใครเค้าจะฟัง บ้านเพลงไทย กูก็ชอบพอ กะ คุณชัยยุทธ เขียนดีๆ เขียนไม่ดี กูจะตามมาเตะมึง ถึงวิเศษเลยคอยดู /
     55555... ฟังสอง ฒ. ผู้เฒ่า เค้าคุยกัน มึงๆ กูๆ ตามประสา คนบ้านนอก เอ๊ะ ๆ ๆ.. ไม่ใช่ซิ คนต่างจังหวัด เน๊อะ
                     555 เหน่อเมืองกาญจน์ กับ เหน่ออ่างทอง มันส์ ๆ ๆ พะยะค่ะ ...
  หมายเหตุ: โปรดสังเกตุ ตัวหนังสือ ที่เขียนเป็นตัวหวัดแกมบรรจง บนรูป มกรต เมืองกาญจน์ เป็นลายมือ ของ ชาย เมืองสิงห์

พี่ขอจอง - มรกต เมืองกาญจน์
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/37fc76f3c042b0fca2393fd7cf223af5.swf

แก้ว สาริกา:
                                    :teentob: :teentob:
                                                    ดาวฤกษ์ เรวดี

                               http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/d1dfa89be1c166212d26685573abd809.swf
                                    เพลง  ตาหวาน  ดาวฤกษ์ เรวดี  ขับร้อง
   
           :42 : ดาวฤกษ์ เรวดี น้องร้อง นักจัดรายการ นักประพันธ์เพลง ผู้มากฝีมือ : :42

     ดาวฤกษ์ เรวดี มีขื่อจริง-นามสกุลจริง "อภิรัตน์ เพ็งพูนสุข" เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2485 ที่บ้าน ต. บางลี่ อ. อัมพวา จ. สมุทรสงคราม เดินเข้าสู่วงการเพลงก็ด้วยฝีมือ ของ ครูฉลอง วุฒิวัย ไปดึงมาจากคณะ ลิเก แมน ลือนาม
ที่รักใคร่ชอบพอกัน จากสถานีวิทยุ ป.ช.ส.7 อยู่ใต้ถุนสภานพุทธ
  ดาวฤกษ์ เรวดี เป็นทั้ง นักร้อง นักแต่งเพลง โฆษกนักจัดรายการ ผู้มากความสามารถ ที่ผ่านเวทีมาโชกโชนทุกยุทธภพ เริ่มจากเป็นสามเณร สอบได้จนกระทั่งได้เป็นนักธรรมเอก เป็นสามเณรนักเทศน์ฝีปากเอก แล้ว บวชพระ เป็นพระนักเทศน์ นักปาฐกถาธรรม โด่งดังไปทั่วทั่ง อ. อัมผวา ในเขตรย่าน น่านน้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสงคราม ก็นามกระฉ่อนกระเดื่องเรืองนาม เป็นคนชาว
อ. อัมพวา สมุทรสงคราม โดยกำเนิด ชรอยคงจะหมดบุญที่จะอยู่ครองผ้ากาสาวภัตร์ จึงสึกออกมา ร่อนเร่ ไปรับจ้างเป็นโฆษกนักโฆษณาขายสินค้า ตามคูหาห้างร้านบินกะแด (แบกะดิน) งานกีฬาเล่นว่าวท้องสนามหลวง งานวังสราญรมย์ ได้ค่าจ้าง 20 บาทบ้าง 30 บาทบ้าง 50 บาท ก็เคยมีได้เหมือนกัน พูดเก่งเสียงดี พูดไป ร้องเพลงไป เผลอๆ เทศน์ให้เค้าฟังกันซ่ะอีก พอนึกได้
ก็หัวเราะ แล้วก็โฆษณา ขายของต่อ หมดฤดูงาน ก็ไปเป็นโฆษก เก็บฉากลิเก ให้คณะ "แมน ลือนาม" ที่สถานีวิทยุ ป.ช.ส.7
ใต้สพานพุทธ วงดนตรี ฟ้าบางกอก ไปแสดงที่นั่น ก็เลยตามขึ้นไปร้องเพลงด้วย แล้วมาอยู่ กับครูฉลอง ซะเลย  ร้องบันทึกเสียง เพลงแรก "สัจจะรักของลูกทุ่ง" ที่ห้องบันทึกเสียง "อัศวิน" แผ่นเสียง 78 ตรา "ฟ้าบางกอก" ยัง.. ยังไม่เท่านั้น ช่วงพี่ชาย
ตั้งวง จุฬาทิพย์ พี่ชาย จัดรายการเอง หนักๆ เข้าไม่ไหว บอกพี่หลอง หาโฆษกจัดรายการให้หน่อย นั่นแหล่ะครับ
  ครูฉลอง จึงส่ง ดาวฤกษ์ มาเป็นใส้ศึก เอ้ย ๆ ๆ 555.. มาเป็นนักจัดรายการวิทยุที่ สถานีวิทยุกองพล ป.ต.อ. สี่แยกเกียกกาย (สมัยนั้น) และก็ได้เพื่อนโฆษกคู่ใจเพิ่มมาอีกคนเลยจัดรายการคู่กัน กับ พี่ "ศักดิ์ สุดา"  และได้มีโอกาสขึ้นร้องเพลงหน้าเวทีบ้างเป็นครั้งคราว คราใดที่วงดนตรี แสดงแถวแทบใกล้เคียง ที่พอจะเดินทางตามไปได้ แต่ส่วนมาก ก็จะอยู่จัดรายการวิทยุ ซ่ะมากกว่า 
    พี่ดาวฤกษ์ มีพรสวรรค์ ของการเป็นนักประพันธ์เพลง แต่งเพลง "เอกา" กับ เพลง "ใบสมัครรัก" ให้ ชาย เมืองสิงห์ ร้องบันทึกแผ่นเสียง ในยุคแผ่นคลั่ง สปีด 78
     ในช่วงยุคสมัยก่อนๆ เวลาบันทึกเสียงเพลง นักร้อง - นักดนตรี จะต้องบันทึกเสียงลงใน มาสเตอร์เทป พร้อมๆกัน ก่อนที่จะมาตัดเป็นแผ่นเสียง จะมีนักร้องสักกี่ท่านล่ะครับ ที่จะร้องเพลงได้เที่ยวเดียวแล้วติด หรือใช้ได้เลย ค่อนข้างยากมากๆ แต่.. นักร้องท่านนี้ครับ "ดาวฤกษ์ เรวดี" ร้องอัดเสียง เพลง "ตาหวาน" เที่ยวเดียวติด ใช้ได้เลย แต่พี่ชาย อยากจะให้ได้ดีกว่านี้ จึงให้ร้องอีกเที่ยว เผื่อจะดีกว่าเที่ยวแรก ให้เก็บที่ร้องเที่ยวแรกไว้ก่อน พี่ "ดาวฤกษ์" ร้องเที่ยวที่สอง ปรากฏร้องมาแล้ว ฟังๆดู สู้เที่ยวแรกไม่ได้ เลยนำที่ร้องเที่ยวแรกมาตัดแผ่นเสียง นั่นถือว่าร้องเที่ยวเดียวติด ครับ
   ที่แรก พี่ชาย จะให้ชื่อ "ฤกษ์ เรวดี" พี่ดาวฤกษ์ เถียงหัวชนฝา ผมจะเป็นดาว ต้องดาวฤกษ์ ถ้าเป็นฤกษ์ คนจะเรียกกันว่า เลิก
มันก็จะเป็น เลิก ด้วยเหตุผล พี่ชายจึงยอมให้เป็น "ดาวฤกษ์ เรวดี" เหมือนเดิม
   ดาวฤกษ์ เรวดี บันทึกเสียงเพลง ครั้งอยู่วงจุฬาทิพย์ ไว้ สองเพลง"ตาหวาน" กับ เพลง "ตาคม" โดยร้องเอง แต่งเอง เพลงที่สร้างชื่อจนกระฉ่อนเมือง คือ เพลง "บ้านเช่าข้าวซื้อ"
                   
                  นะ ปัจจุบัน พี่ดาวฤกษ์ ก็ยังจัดรายการเพลงลูกทุ่งเก่าๆ อยู่บ้างครัย ภายใต้ชื่อ "ดาว ฤกษ์ดี"

อีกสองเพลง ครับ


เพลงที่สอง - บ้านเช่าข้าวซื้อ เพลงดังสร้างชื่อ ของ ดาวฤกษ์ เรวดี
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/1137ae0f2916439664f8ee1471f777b0.swf

เพลงที่สาม ใบสมัครรัก - ชาย เมืองสิงห์  คำร้อง/ทำนอง ดาวฤกษ์ เรวดี
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/d1c9310e1a311c65b7d60a0d3545c07a.swf

แก้ว สาริกา:
 :teentob: :51  :teentob:: การที่จะเป็นครูคน หรือให้คนเรียกคำว่าครูนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ "ครูต้องปราชณ์เปรื่องเรื่องความรู้ ความสามารถ ครูต้องเป็นผู้ให้ อย่าได้นึกถึงผลประโยชน์ส่วนตน ยึดถือคุณธรรมเป็นที่ตั้ง มีความจริงใจด้วยสุจริตใจ ไม่มีเลศนัยเจือปนหรือแอบแฝง"
    ยังมีอีกเยอะ ที่จะเรียก คำว่าครูได้เต็มปาก แต่ผม "แก้ว สาริกา" ขอเรียนว่า ผมไม่มีภูมิปัญญาพอ ถึงขั้นนั้นหรอกครับ แม้แต่ คำว่าอาจารย์ ที่เขาเรียกใครต่อใคร กันจนฮิตติดปากกับ คำว่าอาจารย์ ผมยังมิบังอาจเอื้อม ที่จะให้ใครมาเรียกได้ ขอบคุณท่านผู้ใช้นามว่า "คนเมืองลพ" ก็น่าจะเป็นคนลพบุรี หากเป็นไปได้ อยากให้ใช้คำอื่นเรียกแทน ครับ / เรื่องตั้งกระทู้นั้น เรา ผมหมายถึงคุณสมภพ กับผมได้คุยกันว่า ผมเข้ามาเป็นสมาชิกบ้านเพลงไทย สามปีจวบสี่ปีเข้าไปแล้ว ไม่ได้ทำอะไรให้เป็นประโยชน์ไว้เลย จะวางเพลงก็ยังวางไม่เป็น เรียนรู้อะไรก็ยาก แก่เกิน ถึงได้เกิดกระทู้นี้ขึ้นมา ขอเรียนว่า เพียง วงจุฬาทิพย์ - วงฟ้าบางกอก เท่านั้น
วงอื่นๆ ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ใครก็ได้ที่เก็บรายละเอียดข้อมูลเก่งๆ โปรดเก็บเกี่ยวไว้เถิดครับ ผมเชื่อของผมอย่างนี้นะครับ จะไม่มีใครที่จะมาเขียนมาเล่าอีก (รึไง) เพียงเก็บข้อมูลไว้ และเมื่อสักวันหนึ่งผมไม่อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องคิดว่า
   "กล้วยตานี ปลายหวีเหี่ยว หิ้วหวีไป หิ้วหวีมา" พอเข้าใจกับคำๆนี้ นะครับ  กล้วยตานี ฯ ความจริงเรื่องของนักเพลง - นักร้อง เกล็ดเล็ก เกล็ดน้อย หรือจะเกล็ดใหญ่ ไล่ตีกัน ฟันแทง นักเลงไล่กระทืบ กระทืบนักเลง วิ่งหนีช้างป่า ถูกตามล่า ถูกล้อมวิก 
จิ๊กโก๋เบ่งเข้าฟรี จิ๊กกี๋ปล้ำนักร้อง คนท้องตามหาผัว มั่วกันอยู่กับคณะดนตรี..
    โอ้ย.. สารพัดที่จะมี เล่นดนตรี ร้องเพลงอยู่ดีๆ ดนตรีเลิก มีคนสั่งห้ามออกจากโรงหนัง
    มีคนนอนตายเพราะถูกยิง อยู่ข้างหน้าโรงหนัง เยอะ ๆ ๆ ไปถามนักร้อง-นักดนตรีเก่าๆ ที่ชอบเดินสายต่างจังหวัด ดูเห่อะ ...

แก้ว สาริกา:
                                             
                         :teentob:  :teentob: :teentob: :teentob:
                                        บรรพต สุกแสง - บุญ บรรดาล
   
  :74: เกิดหนองหญ้าไทร อ. สามชุก จ. สุรรณบุรี บวชเณรวัดสามชุก อยู่วัดเดียวกับ พระมงคล หอมระรื่น ๆ
 ศึกจากพระ ไปเป็นนักร้องดัง คือ ก้าน แก้วสุพรรณ ๆ ศึกจากพระไปดัง เราก็สึกจากเณร ให้พ่อพาไปสมัครวงดนตรีจุฬารัตน์ 
นที นพพร  บอกครูมงคล ครูไม่รับเพราะไม่รู้ใครรับลิงไว้ตัว 1 เมียครูเห็นตกใจล้มแขนหักกำลังโกรธมาก คือเจ้าสังข์ทอง สีใส  เลยพยายามมาสมัคร วงดนตรี ศรีไพร ใจพระ  อยู่ ป.ช.ส.7 สพานพุทธ อยู่บ้านเลี่ยงลูกให้ พี่ศรีไพร สองคน สองปี เราไปใหนไม่ถูกขอกลับสุพรรณ ศรีไพรบอก มาเป็นนักร้องจะกลับทำใม เดือนหน้าจะอัดแผ่น ดีใจเอาเพลง "ติ๊งโหน่ง" ที่แต่งไว้มาซ้อม 
ครูนคร ถนอมทรัพย์ ฟั่งแล้วบอกว่าเพลงดังแน่ สรวง เลยขอเราแลกกับ เพลง "นอนเถิดนะน้องนะ" แนวแหล่ให้แลกเพลงกัน
พอเราอัดเสียงกันแล้ว  เพลง "หนิ่งหน่อง" เปิดตามสถานี ไม่รู้ว่าเขาเอาเพลงไปแปลงได้อย่างไร เรียกมีการขโมย ศรีไพรบอกเลย เพลงเราคงเดี๊ยง  สรวง สันติ น้อยใจเลยไปสมัครจุฬารัตน์ ไปกับนาย พนาวัลย์ ลูกเมืองชล ก็คือ พนม  นพพร เพลง สุขีเถิดที่รัก สรวงแต่งครูมงคลรับ เราอยู่กับศรีไพร ต่อมาสถานีวิทยุห้ามโฆษณา เลยยุบวงไปอยู่พี่ชาย แต่งเพลงไปเยอะ พี่ชายรับ อัดเพลง "ร่อนเร่"  "เมียเช่า"  พี่ชายอัดเพลง "แม่ช่อชะบา" เราแต่งไม่รู้อยู่ใหน  เพลงเหมือน ยอด ธงชัย ร้องเพลงเรา เพลง "ฉันไม่วอรี่"  เพลง "ไม่ต้องหรอกพี่" พี่ติ๋มร้อง เพลง "สะบักสะบอม" พี่ชายร้อง เราแต่งเองอีกหลายเพลง อัดเสร็จ แม่ให้คนตามไปบวช พี่ชายเป็นเจ้าภาพไปหลายคนหนองหญ้าไทร รถเข้าไม่ได้ จอดรถไว้ดอนเจเดีย์ ขี่มอเตอร์ไปสองเที่ยว  ห้าเทียวมี ดวงใจ  ณรงค์  เปี๊ยกทรัมเปท  บวชแล้วติดทหารสึกไปทหาร 2 ปี อยู่ จ. น่าน อีก 1 ปี อยู่ลาวกลับมาเพลง "พ่อแก่แม่เฒ่า" ดัง ถ้าเราอยู่เมืองไทยเพลงเราคงได้อัดตามอีกเยอะ มีอะไรถามมานะเพื่อนคิดถึง ...
                     
                       แก้ว  :  จำปี พ.ศ. ได้ รึ เปล่า ตอนมาอยู่ ศรีไพร ใจพระ
                    บรรพต  :  ปี พ.ศ.2506 ปี 08  อัดแผ่น อายุ 18-19 ปี
   
    : ท่านผู้อ่านที่เคารพ ครับ ผมได้พูดคุย กันกับ บรรพต สุกแสง เมื่อวันวาน (ที่ 13 กันยายน 2558) เพื่อถามถึงข้อมูลเบื้องต้น ก่อนที่จะเข้ามาอยู่ วงจุฬาทิพย์ ผมได้นำมาเปิดเผย เพื่อประกอบไว้ในบทความนี้ครับ แบบสดๆ ร้อนๆ
เลยทีเดียว :
 
  บรรพต สุกแสง - บุญ บรรดาล หรือชื่อจริง "พนม สุกแสง"
        นักร้อง/นักประพันธ์เพลง ผู้มีความสำคัญ ของ วงจุฬาทิพย์   
ติดตาม ศรีไพร ใจพระ มาด้วย  ศรีไพร ก็เลย บอกฝากให้อยู่  วงจุฬาทิพย์ มีเหตุการณ์ ที่น่าจดจำ คืนที่ พี่ชาย จัดงานสวนสนุกที่สระโกสินารายณ์ บรรพต ก็ช่วยงานอยู่ตลอด กลางดึกของคืนวันนั้น บรรพต  ถูกงูแมวเซากัด เกือบตาย ชาย เมืองสิงห์ ให้ความเมตตา เป็นพิเศษ นำส่งโรงพยาบาล จ่ายค่ารักษาจนปลอดภัยเกื้อหนุน จุนเจือ เปลี่ยนชื่อ จาก บรรพต สุกแสง เป็น บุญ บรรดาล ๆ แต่ง เพลง พ่อแก่แม่เฒ่า, สะบักสะบอม, แม่ช่อชบา, ให้ ชาย เมืองสิงห์ ร้องบันทึกเสียง, เพลง " พ่อแก่แม่เฒ่า"
                   
สุดท้ายก่อนที่จะยุติวงการเพลง ไปประจำอยู่ วงดนตรี "พิณศรีวิชัย" ด้วยความรู้ความสามารถ ตามอายุขัยอันสมควร
          ปัจจุบันเปิดสำนักงาน อาจารย์ "ลือชา สุกแสง" อยู่หน้าวัด "พระแท่นดงรัง" จังหวัด กาญจน์บุรี


สองเพลงครับ
 
เพลงแรก เมียเช่า - บุญ บรรดาล
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/0f7e795894e7607036a726c0a17f7c1b.swf

เพลงที่สอง ร่อนเร่ - บุญ บรรดาล
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/6c5a245eb044ed40e4433e2cd2dba1e3.swf



                               
                               

สามเค:
มาติดตามอ่านตลอดครับอาแก้ว   ขออนุญาติเพิ่มเติมเพลงที่เคยเห็นจากแผ่นเสียงของนักร้องหญิง นารี สุจริต อีกเพลงคือ ห่วงพี่  แผ่นตราจุฬาทิพย์ครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version