หอเกียรติยศ > ชาย เมืองสิงห์

เรื่องราวของชาย เมืองสิงห์ โดยอดีตนักร้องร่วมวงดนตรีจุฬาทิพย์

<< < (30/34) > >>

แก้ว สาริกา:
                   
                :78 :teentob: :teentob:   :teentob::teentob:  :78
                                            อัมพร สนธยา - อ. สถิตย์พงษ์ สถาพร
 
    : แด่กาลก่อน เป็นระยะเวลาที่วงดนตรีลูกทุ่งกำลังเฟื่องฟู ทำให้เกิดวงดนตรี วงเล็กวงน้อย เกิดขึ้นมากมายเป็นดอกเห็ด ใครที่พอจะมีชื่อเสียงหน่อย ทางจัดรายการวิทยุ ก็มักจะตั้งเป็นวงเฉพาะกิจขึ้นมาร้องเพลงเป็นบ้างไม่เป็นบ้าง รับงานวัดงานวา งานหาเท่านั้น พอหมดฤดูหน้างาน ก็พับวงเก็บเข้าตู้ไว้ก่อน พอเริ่มย่างเข้าฤดูหน้างาน ก็เปิดตู้ งัดวงขึ้นมาโชว์กันอีกครา ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่อย่างนี้
    ท่านที่ติดตามอ่านข้อเขียนนี้ คงเคยได้ยินชื่อ วงดนตรีลูกทุ่ง คณะ "ศักดิ์ สนธยา" กันบ้างนะครับ หรือไม่เคยเลย แต่นั้นไม่ใช่มูลเหตุที่ผมจะนำมาเขียน แต่บุคคลที่ผมจะนำมาบันทึกและเขียนไว้ในหัวข้อกระทู้นี้ คือ ครูเพลงมือทอง  ปัจจุบันท่านรู้จักกันดีในนาม ครูผู้นักประพันธ์เพลง "ส่งแอ๋วเรียนราม" "รักนี้มีกรรม" และชุดเพลงหวานที่กำลังท๊อปฮิตดังไม่หยุดชุดไม่อยู่ ในเวลานี้
ชุด "ที่สุดแห่งรัก" ที่ครูเพลงท่านนี้ได้บรรจงแต่ง และ "สันติ ดวงสว่าง" บรรจงร้อง ไว้อย่างไพเราะเหลือเกิน
        อัมพร สนธนยา หรือ อาจารย์ "สถิตย์พงษ์ สถาพร"

   : กว่าจะได้มาเป็น "สถิตย์พงษ์ สถาพร" เดินตามหาชื่อตัวเอง อยู่นับสิบๆปี จาก ดอกรัก แดนพระร่วง, ผ่อน บังใบ,
      อาภรณ์ ฉิมพลี, อัมพร สนธยา, จนถึง สถิตย์พงษ์ สถาพร ...
      หนุ่มน้อยหน้าตาดี จากจังหวัดสุโขทัย มีนามกรจริงๆ อันระโหฐาน ว่า "อัครพล บังใบเจริญ"
      เดินทางจากสุโขทัย มุ่งเข้ากรุงเทพฯ มาทำงาน ไปรษย์ณี-โทรเลข ได้สักระยะ ก็หันเหมาใช้ชีวิตรับราชการเป็นข้าราชการตัวเล็กๆ เงินเดือนไม่กี่ร้อยบาท ก็พยามขวนขวายหาอาชีพอื่นเพื่อมารองรับ จึงใช้เวลาที่ว่างจากงาน ไปขึ้นเวทีร้องเพลง ของวงดนตรี "ศักดิ์ สนธยา" ใช้ชื่อการเป็นนักร้อง "ดอกรัก แดนพระร่วง"  มีพรสวรรค์ฉายแวว ของการเป็นนักแต่งเพลง ชื่อ "ผ่อน บังใบ"
เมื่อ ปี พ.ศ. 2510 เกิดวงดนตรีขึ้นมาใหม่อีกวง วงดนตรี "จุฬาทิพย์" ของ ชาย เมืองสิงห์ จึงเดินทางนำตัวเองเข้าพบ
ชาย เมืองสิงห์ โดยในมือถือสมุดมาด้วยหนึ่งเล่ม มาขอสมัครเป็นนักร้อง ได้เสนอตัวเองเป็นนักแต่งเพลงอย่างเปิดเผย พี่ชายก็รำพึงออกมาเบาๆ "นานๆถึงจะมีคนมาสมัครเป็นรัอง-นักแต่งเพลงสักคน คุยกันอยู่ครู่ใหญ่  พี่ชายขอดูเพลงในสมุดที่นำมา พี่ชายไปสดุดใจอยู่หลายเพลง หนึ่งในจำนวนนั้น มีเพลง "พ่อม่ายลูกติด" กับ เพลง "ไกวเปล" รวมอยู่ด้วย พี่ชายบอกเมื่อกลับไปแล้ว ให้แต่งเพลงเพิ่มและขอเพลงผู้หญิงหลายๆเพลงหน่อย เขียนเพลงร้องแก้กันมาด้วยยิ่งดี เกิดแรงบรรดาลใจ มีที่หมายและเป้าหมาย พร้อมโอกาสอำนวย กอปรกับ ตัวเองที่มีพรสวรรค์ จึงแต่งเพลงออกมาอีกนับหลายสิบเพลง เพียงสองวัน ก็นำเพลงมาให้พี่ชาย เท่าที่จำได้ ก็นับเป็นสิบเพลง มีเพลง  แม่หม้ายทรงเครื่อง, หน้าเนื้อใจเสือ, หน้าไหว้หลังหลอก, ดีใจด้วย, ไม่เป็นไร, ไม่สำคัญ,
เลิกแล้วเจ้าชู้, และอีก ฯ
   พี่ชาย เปิดทางผ่านให้ กับ "อัครพล"อย่างเต็มที่ ใช้นามแฝงของการเป็นนักแต่งเพลง "อัมพร สนธยา" แต่งเพลง ป้อนเพลงให้นักร้องใหม่ๆ ของ จุฬาทิพย์ ให้ได้เกิด รวมถึงกระผมผู้เขียนด้วย พี่ชายก็เปิดโอกาส ให้ "อัมพร สนธยา" เป็นนักร้องประจำวง
โดยใช้ชื่อในการร้องเพลง "อาภรณ์ ฉิมพลี" อยู่วงจุฬาทิพย์ ได้สักสองปีกว่าๆ ก็ลาจากไป กลายเป็นนักจัดรายวิทยุ
ที่สถานีวิทยุ ว ป ถ 8 กระทุ่มแบน สมุทรสาคร และอีกหลายที โดยมีสปอนร์เซอร์ "โรงเรียนแสงทองวิทยุ-โทรทััศน์ ของ
อ. สญชัย อึ้งสมรรถโกษา, ห้างศรีไพบูลย์ บางแค ของ คุณมาลิณี-คุณแดง เจ้าของแผ่นเสียง-เทป ตรามะลิวัลย์ เป็นหัวเรือใหญ่ ใช้ชื่อการจัดรายการ "สถิตย์พงษ์ สถาพร" จัดรายการ-แต่งเพลงให้นักร้องมานานนัก ไม่เคยประสพผลสำเร็จสักที
ิ  จนกระทั่ง ปี พ.ศ. 2522
คนเราพอชะตาขึ้นดวงเปิด แต่งเพลง "ส่งแอ๋วเรียบราม" เพลงออกวางตลาด ดังเปรี้ยง แผ่นเสียงตรามะลิวัลย์ แวกตลาดวงการเพลง แทรก แผ่นเสียงตรา "เอื้อ อารีย์" ที่เป็นเจ้าพ่อวงการแผ่นเสียง-เทป ที่ยึดถือครองระบบนายทุนอยู่ มีนายทุนใหญ่ๆหลายคน ได้อย่างเหลือเชื่อ
ชื่อ "สถิตย์ สถาพร" จึงถูกยอมรับและเป็นที่กล่าวขานกันมาก จนถึงปัจจุบัน...
     ร้องบันทึกเสียงเพลงลงแผ่นไว้หลายเพลง มีเพลง น้ำท่วมหลังเป็ด,  วาสนาเหมือนไม้โสน, ดวงใจที่รัก, นิราศรักซากูระ,
บอกฉันสักคำ, ระวังกรุงเทพฯ, ใช้ชื่อการร้อง "ดอกรัก แดนพระร่วง" ชื่อนักแต่ง "ผ่อน บังใบ"
    แต่งเพลงที่สร้างชื่อเสียง "ส่งแอ๋วเรียนราม"  ศรเทพ ศรทอง ร้อง  "รักนี้มีกรรม"  สันติ ดวงสว่าง ร้อง
             
              และที่กำลังโด่งดังขณะนี้รวมเพลงชุด "ที่สุดแห่งรัก" นักร้องเพลงหวาน "สันติ ดวงสว่าง"

                                  :teentob: :teentob: :teentob: :teentob:

                                                  ครูเพลง อ. สถิตย์พงษ์ สถาพร

แก้ว สาริกา:
                                 
                                    :teentob: :teentob: :teentob: :teentob:

  : นักร้องหญิงอีกท่าน ของ วงดนตรี "จุฬาทิพย์" นามเธอ "เยาวมาลย์ มิ่งมิตร" นักร้องท่านนี้ เป็นชาวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออก จังหวัด จันทบุรี ครับ มีชื่อจริง "ปราณี" นามสกุล ไม่เคยจำใครได้สักคนผมอ่ะ หน้าตาสวยเลิด ร้องเพลงก็โอเคนะจัดว่าเยี่ยมยอดทีเดียว มาอยู่ร่วมวง ปี 2515 ช่วง พี่ชาย ใช้ชื่อวง "ชาย เมืองสิงห์" บางท่านหรือหลายท่าน ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน กับ "ดวงมาลย์ มิ่งมิตร" หรือ "ดวงมาลย์ เนรมิตร" และหรือ "กลอย มิ่งขวัญ" ไม่ใช่ครับ ขอเรียนว่า "เยาวมาลย์ มิ่งมิตร" เป็นนักร้องหญิง อีกคนหนึ่งครับ ของวง ง่ายๆนะครับเป็นที่เข้าใจกันได้ ว่า "เยาวมาลย์" เป็นนักร้องสาวคู่ใจ (คนสนิท) ของ "เอื้อ อารีย์" เลยทีเดียว ผมใคร่ขอนำเพลงของเธอที่ดูเหมือนจะมีเพลงเดียวที่ร้องบันทึกเสียงไว้ ลองๆดูนะครับ
ไม่ค่อยแน่ใจสักเท่าไร เพราะผมเผ่นออกมาเสียก่อนอีกรอบ ...
                   เพลง "ฉันกลัวคุณจัง" "เยาวมาลย์ มิ่งมิตร" ขับร้อง คำร้อง/ทำนอง วิรวด ปานเจริญ (เอื้อ อารีย์) ....

http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/adc5063bff2bcfbdd3fbd241deb7b02e.swf

สามเค:
เพิ่มเติมข้อมูลสำหรับนักเพลงท่านนี้ครับ
รักเธอยิ่งกว่าใคร   อัมพร สนธยา  คำร้องทำทองดอกรัก แดนพระร่วง   วงจุฬาทิพย์
หนุ่มน้อยคอยรัก ดอกรัก แดนพระร่วง  คำร้องทำนอง สมานเกตุวิไล   วงไวพจน์ เพชรสุพรรณ
เธอลืมฉันเร็วเกินไป  ดอกรัก แดนพระร่วง คำร้องทำนองสมาน เกตุวิไล วงไวพจน์ เพชรสุพรรณ
ไปเสียแหละดี ดอกรัก แดนพระร่วง

สามเค:
เรียนอาแก้ว สาริกาที่นับถือ ผมติดตามอ่านข้อเขียนเกี่ยวกับนักร้องวงจุฬาทิพย์มานานพอสมควร นับว่ามีสาระและประโยชน์อย่างยิ่ง จากการสะสมเเละเล่นแผ่นเสียงของผมมานับสิบปีทำให้พบและเห็นแผ่นเสียงตราจุฬาทิพย์เป็นจำนวนพอสมควรมีทั้งนักร้องดังๆและไม่ดังมากมายดังที่อาแก้ว สาริกาได้หยิบยกมาเล่ามากล่าว และอีกมากมายที่ยังไม่ได้กล่าวถึงก็คงต้องติดตามกันต่อๆไป แต่อย่างที่อาแก้วได้บอกไว้แต่ต้นว่า ไม่ได้จดบันทึกเป็นรูปเล่มเอาไว้ แต่ใช้ความทรงจำ มาเขียนเล่าให้ฟังแต่ด้วยเวลาที่ผ่านมามากขนาดนั้นผมว่าสุดยอดแล้วหละครับ ความหลังบางเรื่องที่มันผ่านไปนานๆมันก็จำกันไม่ค่อยได้ หากไม่มีการกระตุ้นเตือนความจำหรือพูดคุยในเชิงสนทนาถาม-ตอบ  กันบ้างเพื่อเป็นการต่อเติมความทรงจำในอดีตให้ลุกโชนขึ้นมา อาแก้ว คลุกคลีอยู่กับวงการมานานย่อมมีประสพการณ์เกี่ยวกับวงดนตรีการทำเพลงในยุคนั้นเขาทำอย่างไร ยกตัวอย่างเช่นการแต่งเพลงให้นักร้องนำไปบันทึกเสียงมีค่าตอบแทนเพลงละเท่าไหร่ เขาจ่ายกันยังไงเป็นต้นครับ 
ด้วยความนับถือ

สมภพ:
ขอบคุณท่านนายกฯ (สามเค) ที่ได้เข้ามาช่วยเพิ่มเติมข้อมูลครับ

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version