หอเกียรติยศ > ชาย เมืองสิงห์
เรื่องราวของชาย เมืองสิงห์ โดยอดีตนักร้องร่วมวงดนตรีจุฬาทิพย์
แก้ว สาริกา:
:teentob:: ทางวัด ก็จัดให้นักร้อง นักดนตรีพักกันอยู่ ในเขตบริเวณวัด บนกุฏิบ้าง ที่ศาลาบ้าง บังเอิญ ผมไปพัก
และนอนห้องเดียวกันกับใครบ้างคน พร้อมเพื่อนนักร้องชายอีกหนึ่งคน เป็นนักร้อง อยู่ วงดนตรี ยงยุทธ เชี่ยวชาญชัย
ตอนนั้น ยังเป็นนักร้องเด็กๆ กันอยู่เลย ไม่รู้จักกัน วงจุฬาทิพย์ 2 คืน วงยงยุทธ 3 คืน สลับกัน ผมกับเพื่อนร่วมกุฏินอน ก็ได้คุยกัน ได้รู้จักกัน แต่ไม่รู้ชื่อ
จนกระทั่งคืนที่ วงยงยุทธ แสดง ผมก็ไปยืนดู โฆษกหน้าเวที ประกาศว่า ต่อไปนี้ ท่านจะได้พบกับนักร้องดาวเสียง
ซึ่งจะเป็นคู่แข่ง ของ ชาย เมืองสิงห์ ในวันข้างหน้า เชิญ พบกับ ลูกหลานของท่านชาวเหนือ โดยกำเนิด
ร้องเพลง "จ๊ะเอ๋" พอแกออกมาร้องเพลง แกก็ร้องไปเต้นไป (เต้นแบบจังหวะม้าย่อง ลองนึกภาพดูนะครับ) ร้องเสียงก็เหมือน
ชาย เมืองสิงห์ เสียด้วย ฮ่ะฮ้า.. โอ๊ะ สนุก ผมดูไปยิ้มไป เอ้า ๆ ๆ ..นี่มันเพื่อนนอนกุฏิเดียวกัน นี่หว่า...หากผมรู้หรือทายอนาคตได้
ว่าท่านผู้นี้ จะกลับกลาย มาเป็น นายห้าง และผู้กว้างขวาง ในระดับเจ้าพ่อวงการลูกทุ่งเมืองไทยแล้วละก้อ
ผมเกาะติดก้นแจ ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปหร๊อก เดินตามแจเลยแหล่ะ หิ้วกระเป๋า ถือเสื้อนอก ขัดรองเท้า ให้ด้วย.. ซิเอ้า
จริงๆ นะ พี่ "มนต์" (มนต์ เมืองเหนือ) ...
ยุทธชาติ เกรียงไกร:
ความจริงผมอ่านยังไม่จบ จะมารีบมาอ่านต่อแน่นอน ด้วยภารกิจที่มากมายเหลือเกิน แต่นาทีนี้ขอชื่นชมกระทู้นี้ด้วยความจริงใจ
ผมสารภาพว่าผมเล่นเว็บเพลงเก่ามาจนถึงทำเว็บ"บ้านเพลงไทย"เอง ผมถือว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้ที่มีคุณค่าต่อวงการเพลงลูกทุ่งมากที่สุด
กราบขอบพระคุณอาจารย์แก้ว สาริกา,ลุงสมภพและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านที่ทำให้เกิดกระทู้นี้ครับ
แก้ว สาริกา:
:42 : ความว่างเปล่า ความหว้าเหว่ ชีวิตที่ขาดเพื่อน จึงทำให้เราอยู่อย่างเดียวดาย จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม เมื่อคืนอยากที่จะนอนแต่หัวค่ำสักคืน ก่อนจะปิดเครื่อง ก็ลองแวะเข้าไปเปิดกระทู้ "บ้านเพลงไทย" สักหน่อยก่อน ก็เหลือบไปเห็น ข้อความที่ "บอสใหญ่" ได้แสดงไว้ อ่านวนไป วนมา อยู่ 2-3 เที่ยว เอ๊ะ!.. กระทู้ที่เรากำลังเขียนอยู่ มีความหมายมากกระนั้นเชียวหรือ ท่านจึงให้ความสนใจ สละเวลาที่จะมานั่งอ่าน ครั้งแรกผมเพียงแต่หวังว่า อยากให้ท่านที่เข้ามาพบมาอ่าน ได้รู้เรื่องราวข้อมูลที่ไม่มีใครบันทึกไว้ แม้แต่ตัวผมเอง เขียนจากความจำล้วนๆ : ก็จะบอกว่า ขอบคุณท่านมากจริงๆครับ
ท่าน "ยุทธชาติ เกรียงไกร" ...
แก้ว สาริกา:
:teentob: : ในเขตพื้นที่ จังหวัด อุทัยธานี วงดนตรี "จุฬาทิพย์" ก็เดินทาง ไปแสดงมาไม่ใช่น้อย อ.เมือง บ้านไร่ หนองขาหย่าง ทับทัน หนองฉาง ไปมาหมด เมื่อก่อนจะไปแสดงแถบ จังหวัดอุทัยธานี ค่อนข้างจะลำบากสักหน่อย ต้องเอารถบัส นักร้อง -
นักดนตรี ไปลงเรือข้ามโป๊ะ ที่ อ.มโนรมย์ จังหวัด ชัยนาท แล้วนั่งเรือโยงข้ามฝาก ไปขึ้นที่ฝั่ง อำเภอ วัดสิงห์
ถึงจะเดินทางต่อไปได้ แต่ก็เพลินดีนะ เพราะต้องใช้เวลาอยู่ในเรือ นานนับชั่วโมง ได้เห็นวิถีชีวิต ของชาวบ้านในระแวกนั้น ปลูกส้มโอริมตลิ่ง ตามคลองร่องริมแม่น้ำ เกษตรกร เลี้ยงปลากระชัง ได้ดูได้เห็นแล้วก็เพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ ซึ่งมันเป็นกลิ่นไอ ของชนบทแท้ๆ (ตอนนี้คงจะหาได้ยากแล้วล่ะครับ)
พอขึ้นฝั่งก็เดินทางต่อ ไปที่จังหวัดอุทัยได้ แต่กว่าจะดั้นด้นไปถึง ที่หนองฉางงี้ ที่บ้านไร่งี้ ที่ทับทันงี้ ตอนขาเดินทาง สองข้างทางมีแต่ก่อไผ่ป่าเต็มไปหมด ขณะรถวิ่ง ฝุ่นงี้ ตะลบอบอวน ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการ ปิดกระจกหน้าต่างรถกันหมด เท่านั้นแหล่ะครับ แป๊บเดียว ในรถมีแต่ขี้ฝุ่นเต็มไปหมด นักร้อง ชาย-นักดนตรี ปีนขึ้นหลังคารถนั่งกันเป็นแถว นักร้องหญิง ขึ้นไม่ได้
คนไทยธรรมเนียมโบร่ำโบราณเขาถือกัน พอไปถึงงานวัด หรือสถานที่งานแสดง ฮา..กันไม่จืด เหมือนฝรั่งตกขี้เถ้ายังไงยังงั้นเชียว มองหน้าจำกันไม่ได้ และน้ำล่ะจะหาที่อาบชำระล้างก็แสนจะยากนะในสมัยนั้นน่ะ แต่ก็มีชาวบ้านใจดี บ้างก็ไปตักน้ำมาให้ พวกเราก็ช่วยกัน สนุกไปอีกแบบ น้ำที่ได้มารู้ไหมครับ ได้จากบ่อน้ำ หรือเรียกกันว่าสระน้ำ และก็บ่อโพรง (บ่อโยก) ที่ชาวบ้านเขาได้ขุดกักเก็บน้ำไว้กิน ไว้ใช้
นี่แหล่ะ น้ำใจของคนไทยเรา "ชาวบ้านนอก" จังหวัดอุทัยธานี
แก้ว สาริกา:
:80 :80: ผมยังนำพาท่านทัวร์ท่องเที่ยว ย้อนอดีต ไปกับ วงดนตรี "ชาย เมืองสิงห์" "ป้วนเปี้ยน อยู่ใกล้ๆรอยเชื่อมต่อ ระหว่าง ภาคกลาง - ภาคเหนือตอนบล่างอยู่ จึงจะขอย้อนอดีตไปยัง จังหวัดพิษณุโลกอีกสักครั้ง ความจริงผมไม่ได้ลืม ความทรงจำตรงนี้เลย แม้แต่สักนิดเดียว แต่ทว่าหากผมเล่าย้อนไปถึงแล้ว เกรงว่าท่านจะว่า ผมเพ้อฝัน หรือเพ้อเจ้อ หรือไม่ก็อาจจะคิดว่าผมปั้นเรื่องมดเท็จ นำมาเล่าให้ท่านฟัง แต่ผมจะบอกกับท่านว่าผมคิดแล้วคิดอีก จึงตัดสินใจว่าเล่าเถอะ เล่าสู่กันฟัง คงไม่เป็นไร ใครเขาคิดว่าเราโกหก ก็คงไม่เป็นไรอีกนั่นแหล่ะ เพราะเราเองก็ไม่ได้อะไร เพียงแต่อาจจะเสียความมั่นใจไปบ้าง
คราวที่ "ชาย เมืองสิงห์" ไปแสดงที่ ในเขตอำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย เป็นรอยเชื่อมต่อ
ระหว่าง อ. กงไกรลาศ กับ จ. พิษณุโลก ผมจำชื่อวัดไม่ได้ แต่ที่วัดดังกล่าวนี้นะครับ พี่ชาย รับที่จะหารายได้ มาสร้างอุโบสถให้แล้วเสร็จเสียที เพราะสร้างค้างคามานานแล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ถ้าจะหาเงินเพียงคืนเดียวได้พอกับการสร้างโบสถ์สักหลัง เอาล่ะครับเรื่องนี้ขอผ่านไป เพราะต่อมา พี่ชาย ก็ได้หาเงินสร้างจนสำเร็จ เรื่องที่ผมจะกล่าวถึงก็คือ หลังจากที่พวกเราเลิกการแสดงในคืนนั้นแล้ว เก็บข้าวเก็บของเดินทางออกจากสถานที่วัดราวๆตีหนึ่งกว่าๆ เดินทางเข้าสู่ตัวเมือง หวังจะมานอนที่พิษณุโลก เพราะมีงานต่อที่ อำเภอวังทอง
ในสมัยนั้นถนนหนทางก็เป็นทางสองเลนไม่กว้างขวางนัก สองฟากทางที่ห่างจากถนนจะเป็นดงกอไผ่ตลอดเส้นทาง ระหว่าง แนวถนนกับดงไผ่ ทั้งสองฟาก ชาวบ้านก็จะทำไร่แตงโม นักร้องนักดนตรี ก็นอนหลับกันมาในรถ มาสะดุ้งตื่น เกือบจะพร้อมกัน เมื่อรถได้จอดสนิทนิ่งอยู่กับที เสียงพี่น้อยโชเฟอร์คนขับรถ ปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้น
แล้วบอกให้ทุกคนลงจากรถยามดึกสงัด บอกพวกเราให้ได้ดู งูครับ งูหลาม ตัวใหญ่มาก ๆ นอนขวางถนนอยู่ ...
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version