หอเกียรติยศ > ชาย เมืองสิงห์
เรื่องราวของชาย เมืองสิงห์ โดยอดีตนักร้องร่วมวงดนตรีจุฬาทิพย์
สมภพ:
อยากจะรักอยากจะหลงแม่สาวสักคน แต่ว่าพี่มันจนกลัวหน้ามนน้องจะไม่แล
บ้านนอกบอกรัก - ชาย เมืองสิงห์ คำร้อง - เอื้อ อารีย์ เสียงปี่พาทย์ "โชคดี พักภู่" เสียงแซคต์อัลโต้ "ณรงค์ มะกล่ำ" สโลว์ ทำนองเพลง ไทยเดิม ชื่อ "ลาวแพน" .. ผมไม่ได้รู้เองนะ พี่แก้วบอกมา :tab_off:
http://www.banplengthai.com/imagehost/pics/c379515acb26482b3771ccd4416d5b62.swf
แก้ว สาริกา:
:teentob: : ในชีวิตผม อยู่บ้านนอกจนเคยชินกับท้องทุ่ง พบเห็นงู จับงู มาก็เยอะแต่ไม่เคยฆ่างู งูเหลือม จะพบเจอบ่อยกว่า งูหลาม ใหญ่-เล็ก เจอมาไม่รู้เท่าไหร่ แต่เจ้าตัวนี้ ใหญ่จริงๆครับ เด็กรถวิ่งขึ้นไปเอากระสอบป่าน มาหวังจะลองเอาหัวงูตัวดังกล่าวใส่ดู ยกไม่ไหว ใส่ไม่ได้ หัวใหญ่กว่ากระสอบป่าน หัวไปอยู่ยังถนนอีกฝั่ง แต่หางยังอยู่ถนนอีกฟากหนึ่งเลย ลำตัวใหญ่ เท่าๆฝาไม้กระดานที่ปูพื้นเรือนสมัยเก่า เลื้อยคลาน ไปได้ที่ละนิด ที่ละนิดเท่านั้น ใช้ไฟรถ และไฟฉายที่มีอยู่ ส่องตลอดลำตัว จะว่ากินอะไรเข้าไป ก็ไม่พบว่าจะมีสิ่งผิดปกติ ถ้าหากงูได้กินอะไรใหญ่ๆ เข้าไป เช่น แมว สุนัข หรือ สัตว์อะไรก็ได้ที่ใหญ่กว่านั้น ก็จะมองเห็นได้ชัด คือจะป่องกลางที่ลำตัว หรือถ้าขยอกกลืนเข้าไปใหม่ๆ ก็จะคาอยู่แถบแถวกระพุ้งแก้มลำคอของงู หรืออีกอย่างถ้าได้กินสัตว์จนอิ่ม ก็จะนอนนิ่งอยู่กับที่ในที่ ที่ลับตาผู้คน ไม่มีสิ่งกวนใจ แต่นี่มาเลื้อยคลานอยู่กลางถนน พี่ "นิยม มารยาท" แกบอกกับทุกคนอย่าไปทำอะไรเขานะให้ดูเฉื่อยๆ เดี๋ยวเขาก็ไปเอง ขอให้เชื่อผม นี่เป็นคำพูดของพี่ "นิยม มารยาท" แล้วบอก "แก้ว" ไปหาธูปมาให้พี่
16 ดอก ปกติเราก็จะมีธูปประจำกันอยู่แล้ว เพราะใช้ไหว้ ครูอาจารย์ ก่อนการแสดงทุกครั้ง พอได้ธูปมา พี่นิยมก็จุดธูป บอกเล่า พึมพัม ตามแต่เรื่องของแกเป็นการบอกเล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แล้วปักธูปไปยังพื้นดิน จนท้องฟ้าเริ่มสาง
เห็นบรรยากาศรำไร รำไร ชาวบ้านระแวกใกล้เคียง เริ่มออกไปทำไร่ทำนา มีรถที่กำลังจะวิ่งไปไหนต่อไหน ก็จอดนิ่งสงบดูกันอยู่ พอควร สมัยนั้น รถก็มีไม่มาก
ยิ่งกลางคืนแล้ว จะหาสักคันก็แสนจะยาก ผู้เฒ่าผู้แก่ ชาวบ้านก็เริ่มมามุงดูกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ บ้างก็ยกมือท่วมหัว สาธุไหว้สากัน แม้แต่ผมก็ไหว้กับเขาด้วย เพราะโดยส่วนตัวแล้ว ถือเรื่องโชคลางมากอยู่เหมือนกัน ที่นี้พองู เลื้อยผ่านลงจากถนน ลงดินไปได้เท่านั้นแหล่ะ เลื้อยปราด ปราด เร็วมากขึ้น ไร่แตงโม ราบไปเลยก็แล้วกัน พวกเราชาวคณะดนตรี ก็เดินทางต่อ ผ่านค่ายทหาร
"ค่ายสมเด็จพระนเรศวร" และเข้าไปพัก ในตัวเมือง พิษณุโลก
จึงนำมาเล่าสู่กันฟังครับ ...
แก้ว สาริกา:
:42 :42 : ก่อนที่กระผมจะเขียน ย้อนอดึตเรื่องราว ของ วงดนตรี "จุฬาทิพย์" ของ "ชาย เมืองสิงห์" :
ต่อไปอีกสักหน่อย ยังเดาใจท่านไม่ถูก ว่าจะอ่านต่อ หรือเบื่อแล้ว กระผมก็พยายาม ที่จะติดตามเพื่อนๆ เพื่อนำมาปะติดปะต่อ ให้เรื่อง ที่จะถ่ายทอดออกไปให้ได้สิ่งที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จากเพื่อน ร่วม ชายคา "จุฬาทิพย์" มาด้วยกัน ที่ยากสักหน่อย ก็ด้วย อายุไข วัยและสังขาร ที่ร่วงโรยไปตามกาล และเวลา ที่อาศัยอยู่ในโลกใบนี้มายาวนาน ลูกศิษย์ ของ "จุฬาทิพย์" นั้นมีไม่มาก แต่หากว่าถ้าได้รวม จาก "หลังเขาประยุกต์ / จุฬาทิพย์ / พ่อหม้ายพัฒนา / ลูกทุ่งขนานแท้ 1000 เปอร์เซ็น ชาย เมืองสิงห์ /
ลูกทุ่งพันทาง ชาย เมืองสิงห์ / รวมกันแล้ว มีไม่ไช่น้อยเลยทีเดียว...
จากรุ่น สู่รุ่น และอีก หลายๆ รุ่น ท่านคงได้รับรู้ บ้างแล้ว จาก บทความที่ได้เรียบเรียงมาตั้งแต่ต้น ...
วงดนตรีฉบับกระเป๋า "หลังเขาประยุกต์ จนมาถึงเปิดกรุ "จุฬาทิพย์" ช่วงแรก ๆ ทั้งชื่อ นักร้อง นักดนตรี และโฆษก-ดาวตลก ขอเรียนท่านว่า ผมได้พบ นักร้องรุ่นน้อง ซึ่งเป็นตัวละครอันสำคัญ ในชุดละครเพลง "อนุทินชีวิตรักสลายของ ชาย เมืองสิงห์" แต่ด้วยยังไม่สะดวกในการเดินทางไปพบ จึงเรียนกับท่านว่า ขอเวลาอีกสักนิดนะครับ คงไม่นานนัก เจ้าของ เสียงเพลง " ลูกไม่มีแม่ "
(น้ำหยดทีละน้อย น้ำย้อยทีละหยด จะไหลมากหรือไหลน้อย ไหลบ่อยๆ เดี๋ยวมันก็หมด วันหนึ่งกว่าเขาจะรู้ว่าเรานั้นมีค่า ก็ต่อเมื่อน้ำตาเขาหยด เมื่อเราเกิดมาเป็นลูกผู้ชาย จะร้องไห้ไปทำไม ร้องบ่อยๆ คนเขาจะหาว่า "เจ้าน้ำตา" รู้ไหม เจ้าจงเก็บน้ำตาหยดสุดท้ายเอาไว้ให้กับตนเอง ตอนที่ไม่มีปัญญา จะหาเลี้ยงตัวเอง ให้รอดเสียก่อน เถิดลูกรัก)
เป็นบทความคำพูด ที่ ชาย เมืองสิงห์ ได้สร้าง หยาดรอยน้ำตา ไว้บนใบหน้าของท่านผู้ชม ยากที่จะรู้ลืม
ผู้แสดงตัวลูก อย่าง "บุญมั่น ขวัญยืน"
แก้ว สาริกา:
:teentob: : กระผมเอง อยากจะขอเรียนเชิญท่านที่เคารพ มาฟื้นฟูความจำกันกับ "แก้ว สาริกา" ย้อนรอยอดีต นับจากอดีตที่ผ่านมา แสนที่จะยาวนานแสน...นาน มาช่วยกันต่อเติมเสริมสร้าง ให้กับชนรุ่นหลัง ที่สนใจได้รับรู้กับเรื่องเก่าๆ สิ่งเก่าๆ ที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะ นิยาม กับคำว่า "เพลงลูกทุ่ง" เสียก่อน ก่อนที่ผมจะเขียน ย้อนรอยอดีตเรื่องราว "จุฬาทิพย์" วงดนตรีลูกทุ่งที่โดดเด่น และโด่งดัง มา สามยุค สามสมัย
ผมพยายามนึก และทบทวนถึงเหตุการณ์ วันและเวลา ที่ล่วงเลยมาสุดแสนจะยาวไกล จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี
จากปีเป็นสิบปี และจนถึงปัจจุบันกว่าหกสิบปีแล้ว ที่ผมได้สัมผัส ยืนอยู่บนโลกใบนี้ ถึงแม้จะรู้ได้ว่ามันช่างแสนยุ่งเหยิงสับสน
แต่ก็ยังอยากที่จะอยู่ดูไปเรื่อยๆ แต่นี่ก็เต้มที แหล่ะ กะว่าครบ 108 ปี เมื่อไหร่ ก็จะลาแล้ว ค ร๊ า บ :yuri1:...
จากยุคหนึ่ง มาสู่อีกยุคหนึ่ง และอีกหลายๆยุคต่อมา วงการเพลงลูกทุ่งได้เปลี่ยนแปลงสถานะภาพไปมาก จนเกือบจะลืมไปว่า
เอ..นี่เราอดีตก็เป็นนักร้องลูกทุ่งกับเขาเหมือนกันนะเนี้ยะ แต่ก็ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ เห็นเพื่อนๆ หลายคนได้ดิบได้ดี บ้างเป็นนายทุน บ้างเป็นนายห้าง บ้างเป็นนักจัดรายการ ทั้งวิทยุ-โทรทัศน์โด่งดัง บางคนก็เป็นนักแต่งนักประพันธ์เพลง คนก็นิยมยกย่องเรียกขานว่าท่านเป็นครูเพลง ไอ้บ้างก็เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานอยู่กับบ้าน ไปไหนไม่ไหวแล้ว ที่เห็นดีก็มีอยู่หลายท่าน ได้อาศัยพึ่งใบบุญอยู่ภายใต้ร่มเงาของพระศาสนา อยู่ภายใต้ร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นธงชัยของพระอรหันต์ทุกพระองค์ บวชจำพรรษาอยู่ในสมณเพศ จนได้เป็น ท่านเจ้าคณะตำบล เป็นพระอุปัฌชาย์จารย์ ก็หลายท่าน
และ หรืออีกหลายคน ขี้เกียจอยู่ดูโลกอันแสนจะสับสนวุ่นวายของบนโลกใบนี้ ลาโลกขี้เกียจหายใจ เสียชีวิตไปเสียก็มาก
ผมจึงเรียนกับท่านว่ามาเถอะครับ มีเรื่องที่ อีกหลายๆแง่มุม ที่ยังไม่รู้ และเรื่องราวอีกมากมาย ที่อยากจะรู้
สมภพ:
พี่แก้วกลับาต่อกระทู้แล้ว หลังจากไปเที่ยวสารทจีนมาหนึ่งวัน :52 :52
นำร่อง
[0] ดัชนีข้อความ
[#] หน้าถัดไป
[*] หน้าที่แล้ว
Go to full version