สโมสรบ้านเพลงไทย > ห้องสันทนาการ

เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2

(1/4) > >>

น้องนางบ้านนา:
เครดิต...ลูกทุ่งเศรษฐี-เลิศชาย คชยุทธ

เพลงทะลึ่ง-สองแง่สองง่าม แว่นวิเศษ-หมากัด ตอนจบ

ฉบับที่แล้วนำเสนอบทเพลงประเภทสัปดี้ สัปดน ไปแค่สองสามเพลง เช่น เพลงจุดเทียนเวียนวน เพลงยายฉิมเก็บเห็ด และเพลงตาโฉมงมหอย

เพราะถือหลัก สัปดนวันละนิด จิตแจ่มใส ทำให้ยังมีบทเพลงตกค้างที่ต้องมาคุยกันต่อในฉบับนี้

อันว่าเพลงทะลึ่ง ที่เนื้อร้องมักจะวกเข้าเรื่องพรรค์อย่างว่า นั่นก็คือ

เรื่องอวัยวะสำคัญของมนุษย์เรา ที่มีไว้ใช้ ฉี่ก็ได้ ใช้สืบพันธุ์ก็ได้

และเรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างหญิงและชาย ภาษาสุภาพของชาวบ้านเรียกว่า "มีอะไรกัน" ถ้าเป็นภาษาอังกฤษที่ฟังแล้วไม่รู้สึกหยาบโลนก็คือ "มีเซ็กซ์"

เพลง แว่นวิเศษ เพลงนี้เป็นเพลงเก่า สุชาติ เทียนทอง แต่งเองและบันทึกแผ่นเสียงเอง

เนื้อหาของเพลงเป็นเรื่องราวของหนุ่มอีสานคนหนึ่งเก็บแว่นตาได้ขณะไปทำนา ใส่ดูก็พบว่าเป็นแว่นวิเศษเพราะเมื่อใส่แล้ว มองผ้าถุง มองเสื้อกระโปรง เห็นทะลุปรุโปร่งเข้าไปถึงข้างใน จากนั้นจึงเดินทางเข้าเมืองกรุง ใส่แว่นดูนักร้องหญิงออกมาเต้นโชว์ เห็นก้นขาวโล่และเห็นอกโตงเตง

"แว่นวิเศษ วิเศษนักหนา มองเสื้อผ้าทะลุลอดได้ มองผู้หญิงที่ผ่านไปมา เหมือนเดินแก้ผ้าช่างน่าอับอาย บ้างก้นขาว ก้นด่าง ก้นดำ บ้างก้นเป็นจ้ำ ก้นเล็กก้นใหญ่ สาวบางคนก้นไม่ค่อยมี ก็เอาสำลีเข้ามาใส่ไว้ โอ่ โอ๊ โอ โอ๊ โอ โอ๊ โอ่ บ้างก็ขี่ม้าโชว์ เดินผ่านหน้าไป" ตอนหนึ่งของเพลงที่สุชาติ เทียนทอง ร้องไว้

สุดท้ายเมียที่อยู่บ้านนอก เดินทางมาตามถึงกรุงเทพฯ และเกิดการยื้อแย่งแว่นตากันขึ้น ในที่สุดก็แย่งไปได้สำเร็จ เอาไปใส่เพื่อมองนิโกร

ในยุคที่สุชาติ เทียนทอง ร้องเพลง แว่นวิเศษ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ใครๆ ได้ฟังเพลงต่างก็ถามหาแว่นวิเศษว่ามีจริงหรือ มีขายที่ไหนช่วยบอกหน่อย จะไปซื้อมาสักร้อยอัน คนร้องน่ะ มีแว่นวิเศษใช่ไหม ขอยืมมาใส่หน่อย เดี๋ยวดูเสร็จจะคืนให้ ไม่ชักดาบหรอก

สุชาติ เทียนทอง บอกว่า ไม่มี เพลงนี้แต่งขึ้นมาและร้องกันสนุกๆ เท่านั้นแหละ อย่าไปคิดมาก และอย่าไปดิ้นรนหาแว่นวิเศษเลย ไม่มีหรอก

ถ้ามีคนผลิตแว่นวิเศษแบบนี้ได้จริงๆ คงจะขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

มาถึงยุคปัจจุบัน เป็นโลกของสื่อสมัยใหม่ มีทั้งกล้องวิดีโอที่แอบถ่าย แอบติดไว้ในห้องน้ำ การแอบถ่ายคลิปด้วยกล้องขนาดจิ๋ว ด้วยโทรศัพท์มือถือ ภาพลับเฉพาะถูกเผยแพร่ในคอมพิวเตอร์ ในยูทูบจนเป็นคดีความ ตำรวจไล่จับไม่หวาดไม่ไหว

แม้จะไม่ใช่แว่นวิเศษเหมือนในเพลง แต่ความวิเศษของอุปกรณ์การถ่ายภาพและบันทึกภาพก็ทำเอาหนุ่มสาวสะท้านไปตามๆ กัน

มาถึงเพลง หมากัด ทำนองเพลงพื้นบ้านที่เรียกว่าอีแซว ขับร้องโดย เอกชัย ศรีวิชัย เชื่อว่าทุกคนเคยฟังกันมาแล้วทั้งนั้น เนื้อร้องลงท้ายสัมผัสด้วยคำสระอวยและสระอี คล้ายกับจะให้คนฟังเข้าใจว่า หมายถึงคำนั้นๆ แต่เวลาร้อง เอกชัยกลับไปร้องอีกคำหนึ่งซึ่งไม่ได้สัมผัส เพราะต้องการเลี่ยงคำ ไม่เช่นนั้นจะถูกหาว่า ร้องเพลงลามกอนาจาร หยาบโลนที่ผู้คนส่วนหนึ่งฟังไม่ได้

หลังจากเอกชัย ร้องเพลง หมากัด ดวงจันทร์ สุวรรณี ก็มาร้องแก้ด้วยเพลง หมาไม่กัด

ดีแล้ว ที่หมาไม่กัด อวัยวะสำคัญอย่างว่า ถ้ากัดขาดละก็ เสียดายแย่เลย

ทีนี้ก็มาถึงเพลง พี่ไปหลายวัน ชาย เมืองสิงห์ ขับร้อง

ทำไมพี่ต้องไปหลายวัน ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ ก่อนพี่จะไปและไปหลายวันเสียด้วยนี่ เหตุใดน้องแต๋น เมียรักของพี่จึงไม่เข้าใจว่า คนเรารักกัน ก่อนจากกัน เราสองคนผัวเมียควรจะทำยังไง

หลังจากชาย เมืองสิงห์ ร้องเพลง พี่ไปหลายวัน แสงเดือน เปรื่องสุวรรณ ก็ร้องแก้ด้วยเพลง ฉันไปสามวัน

เนื้อร้องของเพลงที่ฝ่ายหญิงเอ่ยตอบ กลับเป็นคนละเรื่องกับนักร้องชายที่อุตส่าห์พูดเป็นนัยๆ ว่าต้องไปหลายวัน แต่สาวเจ้ากลับบอกไม่รู้ ไม่ชี้

ในเนื้อร้องของเพลง ฉันไปสามวัน เป็นเรื่องราวที่เมียสาวบอกแฟนหนุ่มนาม "พี่ตึ๋ง" ว่า จะไปหาป๋าที่ต่างจังหวัดสัก 3 วัน

สุดท้ายกลายเป็นเรื่องของการต่างคนต่างไป?ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สืบค้น ตรวจสอบไปถึงบทเพลงลูกทุ่งที่ร้องๆ กันอยู่ว่ามีเพลงอะไรบ้างไหมที่สื่อความหมายไปถึงคำว่า มีเซ็กซ์ ก็พอประมวลคำสแลงได้ เช่น

คำว่า ดิงดอง ก็ใช่

คำว่า ติงนัง ก็ใช่

พูดถึงเรื่อง การทะลึ่งตึงตัง หรือชอบพูดจาหยาบโลน สองแง่สองงาม ออกจะเป็นลักษณะนิสัยของคนไทยมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ เหมือนกับคนไทยชอบเล่นการพนันขันต่อ การชอบของมึนเมา จำพวก เหล้า บุหรี่ ใบกระท่อม ฝิ่น กัญชา อุ สาโท เหล้าขาว...ปัจจุบัน หนักข้อขึ้นกว่าอดีตหลายเท่า เพราะมีทั้ง เฮโรอีน ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี ยาเลิฟ ฯลฯ

เพลงลูกทุ่งสืบสายธารมาจากเพลงพื้นบ้าน จำพวก อีแซว ฉ่อย เพลงเรือ ลำตัด เต้นกำรำเคียว พวงมาลัย ฯลฯ ซึ่งมีพ่อเพลงแม่เพลงมาร้องตอบโต้กัน ก็มักจะออกมาในลีลาทะลึ่ง หยาบคาย ไม่สุภาพ โดยหวังจะด่าว่าอีกฝ่ายหนึ่งให้เจ็บปวดและเพื่อให้สะใจคนดูที่เป็นพวกเดียว ฝ่ายเดียว และเพศเดียวกับตน

บางทีก็เลี่ยงหลบไปใช้คำผวนเพื่อมิให้ระคายหูคนดูคนฟัง

เพราะคนดูคนฟังมีหลายระดับ แตกต่างกันในด้านอายุ มีทั้งเด็ก ทั้งวัยรุ่น ทั้งหนุ่มสาว ทั้งคนเฒ่าคนแก่ ในแง่ของระดับการยอมรับคำจำพวกนี้ก็แตกต่างกัน บางคนก็รับได้ บางคนก็รับไม่ได้

แล้วท่านล่ะ ยอมรับได้แค่ไหน กับบทเพลงลูกทุ่งที่มีเนื้อร้องสัปดน สองแง่สองง่าม

ลือ:
อยากให้คุณเหมยขาบพูดถึงเพลงนี้ ตามทัศนะครับ
   -เดือนคว่ำ เดือนหงาย
            ตอนนี้   ที่นึกออก ก็แค่นี้ครับ....
 

ดาวเรือง:
เพลงหมากัด ผมว่าคนที่ร้องคนแรก คือ ชินกร ไกรลาศ นะครับ ไม่ใช่ เอกชัย ศรีวิชัย

แต่คนมักพูดถึง เอกชัย (แสดงว่าเอกชัยร้องเพลงนี้ดังกว่า)

ภิรมย์:
   เพลงแนวนี้ผมว่ามีอยู่ทั้งในลูกทุ่ง ลูกกรุงครับ เพียงแต่ว่า
ในลูกทุ่งใช้ภาษาที่ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายกว่า ส่วนลูกกรุงนี่
ใช้ภาษาที่สละสลวยกว่า ต้องคิดให้ลึกขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง

ลือ:
  จริงครับ คุณภิรมย์
      1.  ลูกกรุงก็ใช่ย่อย เรื่องแฝงบทอัศจรรย์ไว้ในบทเพลง...
         " กอดพี่ ให้แน่นหน้ามล...
              เดี๋ยวฝนจะโปรยลงมา "
           จากเพลง"อ่าวอารมณ์"-ธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง
      2. ที่จริงในวรรณคดีไทย ก็มีลักษณะ"สัปดน" ที่เป็นโวหาร เชิงพังเพย อุปมาอุปมัย มานานแล้ว
            เช่น...
         -"เกิดกุลา คว้าว่าว ปักเป้าติด..."
              (นางผีเสื้อยักษ์แปลง ปล้ำพระอถัยมณีในถ้ำ จนสำเร็จสมดังหมาย)
         -"อิเหนา ตอนฉายกริช"
              (อิเหนาแอบซุ่มดูนางบุษบา แล้วควักกริชของตัว ออกมากวัดแกว่งล้อแสงอาทิตย์ ให้นางบุษบาเห็น)
                  มีผู้ถอดความแนวหวาน ใสบริสุทธิ์ ก็เป็นไปซื่อๆ ตามคำบรรยายนั้น...
            แต่ก็มีผู้ถอดความแนวอีโรติก ว่านี่คือการบรรยายเชิงอุปมาอุปมัย สะท้อนถึงอารมณ์ที่กำลังใฝ่เสน่หาของอิเหนา
                เช่น ในข้อเขียนของ "ศศิวิมล" (อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต)ที่ผมเคยอ่านเจอ

                            :61 :61 :61 :61 :61

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

Go to full version