สโมสรบ้านเพลงไทย > ห้องสันทนาการ

หว้า

<< < (2/3) > >>

ลุงชัยนรา:
   ครับ..ท่านเผ่าฯ ตานี ผมชอบเรื่องต้นไม้ ต้นล่าย มักจะสงวน และแสวงหา ไม้พื้นเมืองโบราณ ที่ไม่มีค่าทางเศรษฐกิจ แต่มีค่าแห่งความทรงจำ นำมาปลูกและเว้นไว้ในสวน เพื่อระลึกถึงความทรงจำดีๆ และให้ลูกหลานได้รู้จัก รับรู้ ว่าต้นไม้ทุกต้นมีนิทาน(แห่งชีวิตตัวเอง)เอาไว้เล่าสู่กันฟัง...ยามชรามากแล้ว 5 5 5
   วิทยาลัยเกษตร ป่าไผ่ นั้นปัจจุบัน เป็นแต่เพียงคณะๆ หนึ่ง ใน ม.นราธิวาส เท่านั้นเอง ก่อนหน้านั้น พรรคพวก น้องๆ ที่ไม่ยอมเข้าระบบมหาลัย ได้จัดงาน"ไผ่แตกกอ" ขึ้น มีน้ำ้ตาท่วมงาน เพราะคนที่ไม่เข้า ก็ต้องย้ายกันออกไป ลุงชัยได้เป็นพิธีกร ในงานนี้ จนใกล้ คนออกตัดยาง (ตี 2 สมัยก่อนไม่มีเหตุการณ์อะไร)
   ลุงชัยได้รับเกียรติจาก วิทยาลัย ได้เป็น วิทยากรสมทบ นิเทศน์ ปฐมและ ปัจฉิม นักศึกษา หลายรุ่น และยังได้เป็นวิทยาการ ออกหน่วยร่วมกับคณาจารย์ สอนชาวบ้าน ตามหมู่บ้านต่างๆ ในเรื่อง การเรียนรู้พึ่งตนเองระยะสั้น 5 วัน ไม่ว่า การทำอาหารสัตว์ การขยายพันธ์ต้นไม้ การเลี้ยงปลา สอนวิธีวัดค่า กรดด่างของน้ำ้ด้วยตัวเอง  การแปรรูปอาหาร ทำปลาส้ม ผลไม้กวน น้ำผลไม้พร้อมดื่ม(ลูกหว้าด้วย) ทำไวน์จาก ลองกอง สับปะรด ลูกเม่า หม่อน กล้วย โอ๊ย ย ย จาระนัยไม่หมด แต่...นั่นคือ อดีต....ปัจจุบัน คณะเกษตรศาสตร์ ยังเชิญไปร่วมงานบ้าง เช่นเป็นกรรมการ ตัดสินประกวดสวนหย่อม การจัดซุ้มดอกไม้ ของ ม.นร. แต่ที่ชอบมาก ก ก กที่ซู๊ ด ด ด.. คืองาน"คาวบอยไนท์ "ได้แต่งชุดคาวบอย และร้องเพลง "เมื่อฉันขาดเธอ" ของ เพชร พนมรุ้ง ทบทวนอดีต(เล่ายาว...ไปมั๊ยนี่ 5 5 5 )

ภิรมย์:
   เป็นผลไม้ประจำจังหวัดเพชรบุรีก็จริง แต่เชื่อมั๊ยครับผมเคย
ขี่รถออกดู ว่ามีตรงไหนเค้าปลูกกันบ้าง หาไม่เจอสักต้น หรือ
ผมหาผิดที่ก็ไม่รู้
   ต้องขอบคุณ พี่ลุงชัย โดยเฉพาะการทำน้ำลูกหว้า ไว้ได้ลูก
หว้ามาก่อน ต้องพึ่งสูตรลุงชัยแน่นอน

ดาวเรือง:
ผมชอบกินลูกหว้า เมื่อสมัยเด็กๆลูกหว้าหาง่าย แต่ทำไมเดี๋ยวนี้หายากจัง
น้ำลูกหว้าที่ทำใส่กระป๋องก็ยังไม่เคยเห็นเลยครับ

ลือ:
1.น้ำลูกหว้าแช่เย็น น่าจิบครับ
         มีรสชาติเฉพาะตัว สีก็ชวนดื่ม...
    แต่ถ้าไวน์ลูกหว้า เคยชิม จะรสฝาดๆ
        ผมมันฝั่งพวกชอบกินขนม... เลยชอบไวน์สับปะรดมากกว่า เพราะหวานฉ่ำ และมึนเร็วครับ

2.สมัยเด็กๆ....

  1. "ต้นหว้า"ที่มีชื่อเสียงของพวกผม จะอยู่ในค่ายทหารฯ ครับ มีทั้งหมด  3 ต้น....
          - ที่ข้างบึงน้ำ อยู่ด้านซ้าย(เวลาเดินเข้า)ของประตูเข้าค่าย หน้าสนามบิน 1 ต้น...
          - ที่ริมถนนเส้นใน เข้าทางประตู สร.ไป แล้วค่อยเลี้ยวซ้าย กลางๆค่าย 1 ต้น...
          - และริมรั้วลวดหนาม หลัง สร. ก็อีก 1 ต้น....
       ที่จริง ในตลาดนัด หน้า สร. ก็มีอีกต้นครับ  แต่ต้นไม่ใหญ่อย่างในค่าย
  ( ลูกหว้าทางใต้จะเล็กๆ กลมๆ...ที่เชียงใหม่จะลูกใหญ่ และรีๆ ไม่กลม -ดูแล้ว ก็เหมือนรูปที่พี่ชัยวางข้างบน)
      2. ถ้า"ยาร่วง"(มะม่วงหิมพานต์)  ต้องที่สวนครูเทือง เพราะมีหลายต้น ที่ผลจะมีรอยมดไต่เป็นเส้นๆ...เนื้อผลแน่นๆ
     กัดแล้วหวานชุ่มคอ...แต่ต้องแอบขโมยเอานะครับ
       3. ถ้า"มะขาม" ต้องหลังบ้านจ่าวิจิตร ที่เล่นฉีโพกัน...ต้นใหญ่  ฝักก็ใหญ่ แต่เปรี้ยว แมงยาบชอบมาเกาะเยอะมากครับ...ขย่มที ร่วงกราว หล่นใส่ตะเกียงเจ้าพายุ
       4. ถ้า"ลูกยางพารา"-สวยๆ ทน ไม่แตกง่าย ต้องที่สวนครูนวล หลังโรงสีข้างวัด ทางไปค่ายลูกเสือ
       5. แต่ถ้า จะกินลูกหยีสด... ลูกเตียน(กระท้อนพันธุ์ลูกเล็ก-อร่อยมากๆ)...ลูกกำชำ หรือ ยอดสะเดา   
     ต้องไปที่วัดสุวรรณากร เท่านั้นครับ....

                ว่าแล้ว  ก็อยากกินลูก"ลังแข"....อยากเห็นต้นของมันครับ ไม่เคยเห็น
                                  ..."จำปูลิ่ง" ด้วยนะครับ

ลุงชัยนรา:
  ข้อเขียนของครู ทำให้ความทรงจำของผมในค่าย "อิงคยุทธบริหาร" เจิดจ้าขึ้นมาอีกครั้ง ทุกๆเรื่อง ที่เกิดขึ้น เกี่ยวข้อง กับตัวลุงชัย ไม่เคย ลืมเลือน ทุกข์ สุข โศก เศร้า เคล้ากับกับความเหน็ดเหนื่อย หยาดเหงื่อ หยาดน้ำตาและหยดเลือด ภายใต้ร่มเงา ของ"พ่อขุนอิงค์"

ลูกหว้ามี 2 ชนิดครับ
1.หว้าหิน ลูกใหญ่(ในภาพ)
2.หว้านา ลูกเล็ก (ไม่มีถาพ)

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version