...เนื่องจากโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะ ประเทศไทยเรา ร้อนระอุไปด้วย "ไฟ" ที่เผาผลาญ ทั้ง อารมณ์ และตัวตน... ลุงชัย ขอนำน้ำแห่ง ธรรมะ มาหล่อเลี้ยง ช่วยล้าง ให้ไฟในอารมณ์ เพื่อนร่วมบ้าน เพลงไทย....อ่อนแรง..และดับหายไป.....ธรรมคือดวงประทีป
โลก คือมนุษน์เรานี้ตกอยู่สภาวะมืดตลอดมา ไม่เห็นความจริงครั้นได้ประทีปที่พระพุทธเจ้าตรัส
ไว้ดีแล้วจึงมีแสงสว่างเหมือนคนได้ ประทีปในยามค่ำคืนส่องทาง ผู้มีตาดีก็เห็นชัดมาก การเห็นนั้น
เกิดขึ้นได้ก็ด้วยปัญญา ปัญญานี้คือ ความเข้าใจธรรมชาติว่ามันต้องแปรปรวน เปลี่ยนแปลง ไม่อยู่ใต้
อำนาจการบังคับบัญชาหรือเป็นไปตาความปรารถนาของใครผู้ใดทั้งสิ้น
ความทรงจำธรรมเป็นสิ่งจำเป็น
แรกคนเราจะกระทำสิ่งถูกต้อง แก้ไขปัญหาได้ก็เพราะมีสัญญา หรือความทรงจำหลักการก่อนได้
นั่นเอง ผู้แสวงหาแสงสว่างทำลายความมืด สัญญาความจำได้ในสัจจธรรมที่ทรงสอนไว้จะเป็นเครื่อง
ช่วยยับยั้งความหลงผิดได้ มากบ้างน้อยบ้างสุดแท้แต่กำลังสติและปัญญาสำคัญที่ใจ
"ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จแล้วด้วยใจ ถ้าบุคคลมีใจร้ายแล้ว จะพูดหรือจะทำ ทุกข์ย่อมติดตามผู้นั้นไป เพราะเหตุนั้น เหมือนอย่างล้อไปตามรอยเท้าโคที่ลากเกวียนไปฉะนั้น" สามัญชนมักจะเข้าใจว่า ความสุข ความทุกข์ ของตนเกิดจากเหตุภายนอก เพราะคนอื่นบ้าง เพราะ เหตุการณ์ต่างๆ บ้าง ไม่ได้เกิดจากใจตน เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่เห็นทุกข์แก้ทุกข์ไม่ได้ ผู้มีความโลภใน ทรัพย์ของผู้อื่น มีความโกรธแค้นเขา มีความหลงผิดเรื่องใดแล้วก็ตาม เขาก็ย่อมได้รับทุกข์ด้วยตนเอง
แน่แท้ ส่วนผู้ที่ได้รับปองร้ายเบียดเบียนจากเขาผู้โลภเป็นต้นนั้นยังพอหลีกเลี่ยงจากทุกข์ ส่วนผู้คิดร้ายย่อมเป็นทุกข์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากหนังสือ "ธรรมบริหารจิต" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก