อาชีพตำรวจเป็นอาชีพที่มีเกียรติ แต่ก็มีคนเกลียดเช่นกัน โดยเฉพาะ
ตำรวจที่ทุจริตในหน้าที่ ไม่แต่ปัจจุบันเท่านั้นที่มีตำรวจนอกแถว ในอดีต
ตำรวจชั่ว ตำรวจนอกแถวก็มีให้เห็นเช่นกัน เรียกว่ามีกันมาช้านานแล้ว
แต่ก็มีตำรวจชั่วเพียงน้อยเท่านั้น ไม่งั้นบ้านเมืองคงพังไปแล้ว
ในบันทึกประวัติศาสตร์ไทยสมัยรัชกาลที่ ๕ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่
เกิดเหตุการณ์ที่บรรดาตำรวจนอกแถวทั้งหลาย ทำความผิดจนถึงขนาดที่
พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ ทรงพิโรธ ต้องออกมามีพระราชดำรัสถึงตำรวจ
นอกแถวอยู่บ่อยๆ
อย่างเช่น ครั้งหนึ่ง สารวัตรพร้อมพลตระเวนสองสามนาย ออกตรวจ
ดูความเรียบร้อย พอมาถึงที่ตำบล สะพานยศเส ได้เข้าไปร่วมกินเลี้ยงกับ
พวกแขกครัว ไทยและจีน รวมหลายสิบคน กินกันไปกินกันมาแขกกับแขก
ก็เกิดวิวาททะเลาะกันใหญ่โตถึงขนาดยิงกันตายเลยทีเดียว
ความทราบถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงมีพระราช
หัตถเลขา ถึงกรมหมื่นนเรศวรวรฤทธิ์ เสนาบดีกระทรวงนครบาล ความว่า
...ความเรื่องนี้ก็ปรากฏว่า “โปลิศเวลาอยู่ยามเป็นอย่างไร เวลาออก
ยามเป็นอย่างไร เวลาอยู่ยามคอยจับคนที่ถือไม้ เวลาออกยามตัวถือไม้เอง
โปลิศเป็นผู้คอยเฝ้าจะจับคนซึ่งเป็นผู้เลี้ยงโต๊ะเข้าอั้งยี่ เวลาออกยามไปนั่ง
โต๊ะเอง โปลิศมีตั้งพันว่าอย่างน้อย คงประพฤติอย่างนี้เสียเกือบครึ่ง ก็พอ
ที่จะใหความร้ายกำเริบขึ้นได้เปนอันมาก...ถ้าการตรวจตรา..ยังอ่อนแออยู่
เช่นนี้ ถึงจะเติมโปลิศสักเท่าใด ก็เห็นหามีประโยชน์อันใดไม่...”
อีกเรื่องหนึ่ง..”ค่ำคืนหนึ่ง มหาดเล็กคนหนึ่งกลับจากช่วยงานศพกำลัง
จะเข้าพระบรมมหาราชวัง ได้ถูกโปลิศนอกเครื่องและในเครื่องแบบ ๖ คน
จับกุมที่หน้าประตูวิเศษไชยศรี โดยโปลิศทั้ง ๖ รุมทำร้ายทั้งยังแย่งเอานาฬิ
กาพกไปทั้งสาย พอดีทหารยามรักษาประตูผ่านมาจึงช่วยไว้ได้ทัน”
อีกเรื่องหนึ่งซึ่งร้ายแรงกว่า...คือ
ได้มีคณะละครสัตว์มาตั้งเต็นท์แสดงที่ข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมือง พระ
เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ จึงโปรดให้กรมหลวงสรรพสาสตร์ กับกรมหลวงประ
จิณกิติบดี(พระองค์เจ้าชายประวิตรวัฒโนดมพระราชโอรส)พาพระองค์เจ้า
ชายและพระองค์เจ้าหญิงไปทอดพระเนตรละครสัตว์ แล้วเกิดมีมือมืดเอา
ก้อนอิฐขว้างเข้าไปในโรงละครสัตว์หลายก้อน กรมหลวงประจิณฯ ได้เสด็จ
ไปแจ้งนายโปลิศ นายโปลิศกลับพูดว่า ไม่ทราบว่ามีการเล่นละคร..”
เมื่อความทราบถึงพระเจ้าอยู่หัว ทรงพิโรธโปลิศมาก ได้ทรงมีพระราช
หัตถเลขา ไปถึงเสนาบดีที่กระทรวงนครบาลว่า...
"เห็นว่าความระยำของโปลิศเกินระยำยิ่งนักเสียแล้ว ไม่ได้รู้สึกความ
รับผิดชอบอันใดเลย ใครจะทำอะไรไม่บอกก็ไม่รู้เช่นนี้ประพฤติตัวเปนตระ
จาการอย่างไทยไปหมด เห็นว่าเลี้ยงหมายังจะรู้จักเห่า ดีกว่านายโปลิศตัว
โปลิศอีก การเปนเช่นนี้ ถ้าไม่ลงโทษเสียบ้างแล้ว ก็ไม่เปนบ้านเปนเมือง
แล้ว มันไปเล่นแห่งใดก็ไม่มีเหตุ มาเล่นจนประตูบ้านเจ้าเมืองแล้วยังเปน
ไปเช่นนี้ได้ เสียเกียรติยศแผ่นดินนัก ขอให้ไต่สวนในวันนี้ ให้ได้ฟังคำตัด
สินในพรุ่งนี้ให้จงได้ ถ้าไม่ตลอดไปได้ จะต้องถอดเจ้าพนักงานผู้ใหญ่ใน
กรมกองตระเวนในพรุ่งนี้......”
จะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงพิโรธอย่างมาก ถึงขนาดคาดโทษไว้ ถ้าไม่จัด
การให้เรียบร้อยในวันรุ่งขึ้น
ส่วนเรื่องที่โปลิศนอกแถวทั้งหลาย ต้องโทษอะไรบ้าง ในหนังสือไม่ได้
ลงไว้ แต่ดูแล้วน่าจะหนักทีเดียว
จากหนังสือ เล่าเรื่องไทยๆ เล่ม ๒ ของ เทพชู ทับทอง