บ้านเพลงไทย ความภูมิใจของคนไทยรักษ์เพลง
สโมสรบ้านเพลงไทย => ห้องสันทนาการ => ข้อความที่เริ่มโดย: ชญาดา ที่ มิถุนายน 29, 2013, 10:49:32 AM
-
หน้าที่ 1 - ภาวะหลั่งเหงื่อมาก (Hyperhidrosis)
ด้วยอุณหูมิที่สูงมากขึ้นในช่วงเวลานี้ ทำให้ร่างกายมีการขับเหงื่ออกมาเป็นจำนวนมาก "เหงื่อ" เป็นของเสียที่ร่างกายขับออกมาในรูปของเหลว ประกอบด้วย น้ำ 99% ส่วนอีก 1% ได้แก่ โซเดียมคลอไรด์ ยูเรีย น้ำตาล ไขมัน กรดอะมิโนบางชนิด โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก
(http://image.ohozaa.com/i/8b9/0RXkKg.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wVsDsd5MVHGlR7Wo)
เหงื่อจะถูกขับออกมาทางผิวหนังหรือตามซอกต่าง ๆ ของร่างกาย โดยปริมาณของเหงื่อของแต่ละคนนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งกระตุ้นสองอย่างได้แก่ ความร้อนและอารมณ์ นอกเหนือจากนั้นอาจขึ้นอยู่กับ โรคบางชนิดที่ทำให้ปริมาณของเหงื่อเปลี่ยนแปลงได้ เช่น โรคเครียด ต่อมไทรอยด์เป็นพิษหรือคอพอก วัณโรค เบาหวาน โรคหัวใจ ภาวะใกล้หมดประจำเดือน สิ่งเหล่านี้ทำให้เหงื่อออกมาก ส่วนโรคผิวหนังไม่ว่าจะเป็นผด ผื่น สะเก็ดเงิน ผิวหนังแตกหยาบ ไมเกรนจะทำให้เหงื่อออกน้อย เป็นต้น
(http://image.ohozaa.com/i/e17/8WIzxX.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wVsDKDZfFXNFD1V3)
ร่างกายของเรามีต่อมเหงื่อ (Sweat Glands) อยู่ 2 ชนิด ได้แก่ Eccrine Sweat Glands ต่อมเหงื่อชนิดนี้พบทั่วตามร่างกาย ได้แก่ ผิวหนัง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ซึ่งจะผลิตเหงื่อที่มีลักษณะใสเหมือนน้ำ ไม่มีกลิ่น เพราะร่างกายจะขับเหงื่อชนิดนี้ออกมาเมื่อทำกิจกรรมหนักๆ หรืออยู่ในสภาวะอากาศร้อน ส่วนอีกชนิดหนึ่งคือ Apocrine Sweat Glands ต่อมเหงื่อชนิดนี้กระจายตัวอยู่บางแห่งของร่างกาย เช่น รักแร้ ขาหนีบ ทวารหนัก หัวหน่าว ก้น แผ่นหลัง เหงื่อที่ได้จะมีลักษณะเหนียวใสและมีส่วนผสมของไขมันอยู่มาก จึงทำให้เหงื่อชนิดนี้มีกลิ่น ซึ่งกลิ่นเหล่านี้ทำหน้าที่ในการกระตุ้นอารมณ์เพศจึงเป็นคนละกลิ่นที่เกิดจากการหมักหมมของขี้ไคล
(http://image.ohozaa.com/i/a62/MfV2kb.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wVsE34SIqdYns6sf)
โดยปกติแล้วร่างกายจะมีการขับเหงื่อออกมา เพื่อระบายความร้อนที่เกิดขึ้นจากขบวนการเมตาบอลิซึมของร่างกาย ซึ่งอีกหนึ่งอาการผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับต่อมเหงื่อคือ ภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ หรือเรียกว่า “ภาวะหลั่งเหงื่อมาก หรือภาวะเหงื่อท่วม (Hyperhidrosis)” ได้แก่ ภาวะที่ต่อมเหงื่อชนิด Eccrine สร้างเหงื่อมากผิดปกติจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำประจำวัน โดยมักจะเกิดมากบริเวณฝ่ามือ, เท้า, รักแร้หรือใบหน้า
(http://image.ohozaa.com/i/c8a/DU2MgL.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wVsEiFWITDmVBva5)
สาเหตุของภาวะการหลั่งเหงื่อมากอาจเกิดมาจาก ภาวะความผิดปกติในร่างกาย คือเหงื่อออกมากผิดปกติโดยที่เรารู้สาเหตุ (ภาวะหลั่งเหงื่อมากทุติยภูมิ ; secondary hyperhidrosis) เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ, สตรีในวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่ชัดเจน (ภาวะหลั่งเหงื่อมากปฐมภูมิ ;primary hyperhidrosis) ซึ่งกลุ่มดังกล่าวผู้ป่วยมักมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติเฉพาะบางส่วนของร่างกาย ที่พบบ่อยคือบริเวณมือ, รักแร้, หรือเท้า
(http://image.ohozaa.com/i/9a9/uK8ECI.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wVsEzGVsvpp18OAf)
ในภาวะปกติ สามารถพบช่วงมีเหงื่อออกมากกว่าปกติได้ เช่น ในการออกกำลังกาย อากาศร้อน อากาศอบอ้าว กินอาหารเผ็ดหรืออาหารร้อน ตื่นเต้น เครียด หรือมีไข้ ภาวะหลั่งเหงื่อมาก เป็นภาวะพบได้บ่อย แต่มีผู้ป่วยเพียงบางส่วนเท่านั้นที่มาพบแพทย์ด้วยภาวะนี้ ประมาณว่า ในประชากรทั้งหมดสามารถพบภาวะนี้ได้ประมาณ 0.6-1% โดยพบภาวะนี้ได้ในทุกอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ และพบในผู้หญิงได้บ่อยเท่ากับในผู้ชาย
(http://image.ohozaa.com/i/7d2/YTVG3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/9QEy)
อาการของภาวะหลั่งเหงื่อมาก เมื่อเกิดเฉพาะที่โดยไม่รู้สาเหตุ มักมีเพียงอาการเดียว คือ มีเหงื่อออกมากผิดปกติ เฉพาะจุด ที่พบได้บ่อย คือ ที่รักแร้ รองลงมาตามลำดับ คือ ฝ่าเท้า และฝ่ามือ แต่อาจพบที่ตำแหน่งอื่นได้ แต่น้อยมาก เช่น หลัง หู หรือ หนังศีรษะ ทั้งนี้อาการเกิดขึ้นโดยไม่มีตัวกระตุ้น จะเกิดเวลาใดก็ได้ แต่เกิดเฉพาะเวลากลางวัน ไม่เกิดช่วงกลางคืน ทั้งนี้จะวินิจฉัยว่าเป็นภาวะนี้ได้ ผู้นั้นต้องมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติโดยไม่มีอาการอื่นร่วมด้วยอย่างน้อยนาน 6 เดือน และต้องเกิดร่วมกับอีก 2 ใน 6 ลักษณะ ดังนี้
ต้องมีเหงื่อออกผิดปกติเหมือนๆกันทั้งสองข้างของร่างกาย (คือทั้ง ซ้ายและขวา)
เหงื่อออกมากจนมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
เหงื่อออกมาก เกิดบ่อยอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
อาการเกิดก่อนอายุ 25 ปี
มีประวัติคนในครอบครัวเป็นภาวะนี้
เหงื่อออกช่วงกลางคืนปกติ
อาการภาวะหลั่งเหงื่อมากทั่วตัว จะเกิดเวลากลางวัน หรือกลางคืนก็ได้ หรือเกิดทั้งวัน หรือ เกิดเป็นเวลา ทั้งนี้ขึ้นกับสาเหตุ มักเกิดร่วมกับอาการอื่นๆเสมอ เช่น มีไข้ เบื่ออาหาร ผอมลงโดยไม่รู้สาเหตุ ไอเรื้อรัง หรือ ปัสสาวะมากและบ่อย เป็นต้น ทั้งนี้ อาการร่วมจะเป็นไปตามอาการของแต่ละสาเหตุ ดังนั้นจึงแตกต่างกันไปโดยไม่มีอาการเฉพาะจากภาวะนี้
(http://image.ohozaa.com/i/737/A5fFgp.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/wVsFdoxQgGl85vna)
ภาวะหลั่งเหงื่อมากที่เกิดเฉพาะจุดชนิดปฐมภูมิ คือไม่รู้สาเหตุการเกิดที่ชัดเจน มักเป็นภาวะไม่รุนแรง ไม่ทำให้เสียชีวิต แต่ส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง โดยเฉพาะในการเข้าสังคม จากการอับชื้น และมีกลิ่น เช่น กลิ่นตัวเมื่อเกิดในบริเวณรักแร้ และกลิ่นเท้าเมื่อเกิดที่ฝ่าเท้า เป็นต้น นอกจากนั้น ผิวหนังซึ่งเปียกชื้นเสมอ จะติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียได้ง่าย และเกิดอาการผื่นคันง่าย
ส่วนความรุนแรงของภาวะนี้เมื่อเกิดทั่วตัวโดยรู้สาเหตุ (ชนิดทุติยภูมิ) ขึ้นกับสาเหตุที่แตกต่างกันในแต่ละโรค เช่น เมื่อเกิดจากโรคเบาหวาน ความรุนแรงอยู่ในระดับปานกลาง แต่เมื่อเกิดจากโรคมะเร็ง ความรุนแรงโรคอยู่ในระดับสูง เป็นต้น ส่วนผลข้างเคียงจากอาการเหงื่อออกมาก เช่นเดียวกับในการมีเหงื่อออกเฉพาะที่ แต่เกิดขึ้นทั่วตัว เช่น ขึ้นผื่น การติดเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรีย และการมีกลิ่นตัว
ในการรักษาผู้ที่มีภาวะหลั่งเหงื่อมาก อาจทำได้โดยการผ่าตัด หรือรับประทานยาที่ควบคุมระบบประสาทที่ควบคุมการหลั่งเหงื่อ หรือฉีดโบท็อกซ์ ลดการกระตุ้นของระบบประสาทเฉพาะที่ ดังนั้นผู้ที่มีภาวะผิดปกติในการหลั่งเหงือนี้จึงควรเรียนรู้ที่จะดูแลตัวเองด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย หมั่นทำความสะอาดร่างกาย และไปพบแพทย์อยู่เสมอเพื่อการตรวจรักษาต่อไปค่ะ