กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อแรกมีการบินในประเทศไทย  (อ่าน 6870 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ภิรมย์

  • รักเมืองไทย
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2321
  • กระทู้: 480
  • Thank You
  • -Given: 2121
  • -Receive: 2321
  • คุณลูกกับคุณแม่
เมื่อแรกมีการบินในประเทศไทย
« เมื่อ: เมษายน 18, 2013, 10:28:14 PM »
               เมื่อแรกมีการบินในเมืองไทย
      เมื่อเสียงเครื่องยนต์ของเครื่องบิน ดังกระหึ่มสักครู่  เครื่องบินก็ค่อยๆ  วิ่งไป
ตามสนามแล้วเชิดหัวบินขึ้นสู่อากาศอย่างช้าๆ.....
      เครื่องบินดังกล่าว  คือเครื่องบินเครื่องแรกที่มาแสดงการบินครั้งแรกในประ
ไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔  (ต้นรัชกาลที่ ๖) ที่สนามม้าสระประทุม  โดยชาวฝรั้งเศส
เป็นคนนำมาแสดง ให้ประชาชนชมโดยเก็บเงินค่าผ่านประตู
      เครื่องบินลำนั้นชื่อ  “ออร์วิลล์ไรท์”  เป็นเครื่องบินที่มีปีก  ๒  ชั้น  ลำตัวมีแต่
โครงเปล่าๆ    ไม่มีแพนหางเสือสำหรับเลี้ยว    มีเครื่องยนต์ติดตั้งอยู่กลางลำตัว
ใกล้ชายปีกชั้นล่าง เป็นเครื่องยนต์ ๕๐ แรงม้า  ซึ่งให้แรงดันขับตัวเครื่องบิน  พุ่ง
ไปข้างหน้าในอัตราความเร็ว  ๕๐  กิโลเมตรต่อชั่วโมง   มีฐานกางมีล้อคล้ายล้อ
รถจักรยานข้างละ ๒ ล้อ   ตอนหัวประกอบด้วยไม้ยาว  ๔  อันยื่นออกไปบรรจบ
กันกับแพนเล็กๆ อันหนึ่งที่ขยับขึ้นลงได้  ที่นั่งคนขับอยู่บนปีกชั้นล่างหน้าเครื่อง
ยนต์

เครื่องบินชื่อ  “ออร์วิลล์ไรท์”

      หลังจากบินอยู่ชั่วครู่  ก็ลงจอดบนสนาม ต่อจากนั้นฝรั่งจึงได้เชื้อเชิญให้คน
ไทยได้ทดลองนั่งดูบ้าง  ปรากฏว่ามีนายทหารที่กล้าขึ้นไปทดลองนั่งเป็นคนแรก
คือ นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ผู้บังคับกองพันพิเศษกองพันที่ ๕ หรือพลอา
กาศโทพระยาเฉลิมอากาศ(สุณี สุวรรณประทีป) เจ้าเวหาคนแรกของไทยนั่นเอง
      เมื่อ นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ ได้นั่งบนเครื่องบินคู่กับฝรั่ง บินวนไปมา
อยู่สองสามรอบ จึงได้ลงจอดบนพื้น
      เมื่อลงมาแล้ว นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ  จึงได้เล่าให้คนอื่นฟังว่า  เมื่อ
อยู่บนเครื่องบินไม่ได้รู้สึกอะไรเลย  สบายเหมือนนั่งบนรถยนต์

นายพันตรี หลวงศักดิ์ศัลยาวุธ
      ด้วยเหตุนี้ทำให้มีคนที่กล้าขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินอีกมาก  ทำให้มีรายได้เพิ่ม
เพราะมีการเก็บค่าโดยสารอีกคนละ ๕๐ บาท ๕๐ บาทสมัยนั้นมากแค่ไหนลอง
คิดดูค่าก๋วยเตี๋ยวอย่างดีๆ สมัยนั้นชามละ ๕ สตางค์เท่านั้นเอง

      นับแต่ที่ชาวฝรั่งเศสได้นำเครื่องบินมาแสดงบินโชว์ ให้คนไทยได้ชมเป็นครั้ง
แรก  ไทยเราจึงได้แลเห็นถึงความสำคัญของการบิน  จากนั้นจึงได้มีการตั้งกรม
อากาศยาน(ปัจจุบันคือกองทัพอากาศ)ขึ้น  โดยมี  พลอากาศโทพระยาเฉลิมอา
กาศ เป็นเจ้ากรมคนแรกของไทย
      ก่อนที่จะมีการตั้งกรมอากาศยาน    ทางกองทัพไทยได้มีการสั่งชื้อเครื่องบิน
มาสองแบบเพื่อใช้ในการฝึกบิน โดยใช้สนามม้าที่วังสระประทุมเป็นที่ฝึก
      ในการฝึกบินนั้นมีหลายครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัช
กาลที่ ๖ ได้เสด็จทอดพระเนตร การฝึกบินอยู่บ่อยครั้ง
      เครื่องบินที่ไทยเราสั่งซื้อมาสองแบบแรกก็คือ
      ๑.เครื่องบินแบบเบร์เกต์ปีก ๒ ชั้นจำนวน ๔ เครื่อง
      ๒.เครื่องบินแบบนิเออปอรต์ปีกชั้นเดียวจำนวน ๔ เครื่อง
เครื่องบินแบบเบร์เกต์ปีก ๒ ชั้น


เครื่องบินแบบนิเออปอรต์ปีกชั้นเดียว

      หลังจากนั้นกองทัพอากาศของไทยก็ได้พัฒนาขีดความสามารถขึ้นเรื่อยๆ มี
การเสริมกำลังเครื่องบินให้ทันสมัยอยู่เสมอๆ ในระดับภูมิภาคเราไม่แพ้ใคร  แต่
ในระดับโลกจริงๆ ต้องยอมรับว่าเรายังห่างอีกไกล


จากหนังสือ เล่าเรื่องไทยๆ เล่ม ๒ ของ เทพชู ทับทอง
และจากhttp://www.encyclopediathai.org/aircraft/Fighter/nieuport01/nieuport01.htm





บันทึกการเข้า
 :42ดนตรีคือ สื่อภาษาสากล :42

** กระทู้แรกที่ควรอ่านเมื่ออยู่บ้านเพลงไทย **