กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อท่านดี วาจาสิทธิ์  (อ่าน 14000 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ลุงชัยนรา

  • ความเปลี่ยนแปลง เป็นนิรันดร์
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 3715
  • กระทู้: 910
  • Thank You
  • -Given: 3245
  • -Receive: 3715
  • ชีวิตนี้ยอมพลี เพื่อแผ่นดิน
พ่อท่านดี วาจาสิทธิ์
« เมื่อ: มีนาคม 21, 2013, 11:56:08 AM »
                                    พ่อท่านดี วัดสังฆสิทธาราม
                                    (วัดตันหยงมัส)"วาจาสิทธิ์"

 ประวัติวัดสังฆสิทธาราม
                                 
     วัดสังฆสิทธาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ 7 เลขที่ 120 เป็นวัดมหานิกาย มีเนื้อที่ 12 ไร่ 2 งาน
ได้สร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อ พ.ศ. 2481 เดิมมีนามว่า“ วัดตันหยงมัส ” ได้เปลี่ยนนามวัดเมื่อ พ.ศ. 2482  เป็นวัดสังฆสิทธาราม ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2492 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 8.77 เมตร  ยาว  20.40  เมตร
ตำแหน่งเจ้าอาวาสมีดังนี้
     1.หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับฉายาว่า พระครูการุญญโสภณ เป็นเจ้าอาวาสองค์แรก
     2.หลวงพ่อเจ  กิตติวณ∙โน ได้รับฉายาว่า พระครูสังฆสิทธิพิทักษ์ เมื่อ พ.ศ. 2520 เป็นเจ้าอาวาสจนถึงปัจจุบัน
ประวัติหลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ 
     นามเดิมชื่อ นายดี ทองเครือ เกิดวันพฤหัสบดี ปีมะเมีย เดือนมิถุนายน พ.ศ.2436 ที่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส บิดาชื่อนายหนู ทองเครือ  มารดาชื่อ นางเหล่ ทองเครือ มีพี่น้องกี่คนไม่ปรากฏหลักฐาน การศึกษาอ่านออกเขียนได้ ได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2458 ขณะอายุได้ 22 ปี ณ วัดพระพุทธ  ตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส
โดยมีพระธมโชโต เป็นอุปัชฌาย์
พระปุญสุวณโน เป็นพระกรรมวาจาจารย์   
พระสีสุสวณโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
   พระดี ได้รับฉายาว่า พุทธสโร  และได้ศึกษาพระธรรมวินัย สอบได้เป็นนักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2473
ก่อนที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์จะย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม  หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้ย้ายไปอยู่วัดต่างๆ ดังนี้
มิถุนายน  พ.ศ. 2477  ย้ายไปอยู่ที่วัดราษฎร์สโมสร  อ.รือเสาะ
สิงหาคม พ.ศ. 2479  ย้ายไปอยู่ที่วัดปริมังคลาวาส อ.สุไหงปาดี
กรกฎาคม พ.ศ.2480  ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดลอยประดิษฐ์  อ.สุไหงปาดี
สิงหาคม พ.ศ. 2483  ย้ายเป็นเจ้าอาวาสวัดสังฆสิทธิธาราม  อ.ระแงะ
     หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูการุญญโสภณ (ไม่ปรากกฏหลักฐานเมื่อไร) พร้อมทั้งได้รับตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอระแงะ  จนกระทั่งได้ถึงแก่มรณภาพ อาพาธด้วยโรคชรา เมื่อพ.ศ.2518 รวมศิริอายุได้ 82 ปี 60  พรรษา เหตุผลที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ เป็นที่กล่าวขานและนับถือของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปว่าหลวงพ่อดีมีวาจาสิทธิ์ เพราะลิ้นของหลวงพ่อดีมีปานดำในอุ้งปากมาแต่กำเนิด ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าผู้ที่มีลิ้นดำเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะเป็นดังคำที่พูดอภินิหารที่ชาวบ้านได้พบเห็นและมีประจักษ์พยานที่อ้างได้  ดังนี้
     ประการที่ 1 สมัยที่วัดสังฆสิทธารามยังไม่มีรั้วรอบขอบชิด  ท่านได้ปลูกมะพร้าวไว้ แต่ต้นมะพร้าวเอนไปยังดินของชาวบ้าน สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้าน จะให้หลวงพ่อดีโค่นก็ไม่กล้าบอกกล่าวเวลามะพร้าวสุกจะตกลงในที่ดินชาวบ้าน  ชาวบ้านไม่พอใจ  จึงได้ให้คนเอาน้ำมันก๊าดราดที่ยอดมะพร้าวของวัดจึงตาย ท่านได้เดินไปดูพอรู้ว่าชาวบ้านเป็นผู้ทำลายมะพร้าวของท่านตายจึงเสียดายมาก ท่านจึงชี้ไปที่ต้นไม้ที่ปลูกชิดกับมะพร้าวที่ตายว่า เมื่อต้นมะพร้าวกูตาย ต้นไม้(ที่เป็นต้นทุเรียน) ของมึงต้องตายด้วย ไม่ช้าต้นไม้นั้นก็ตาย ซึ่งเป็นอภินิหารในวาจาของท่านว่าวาจาสิทธิ์ชาวบ้านจึงมีความกลัวกับคำกล่าวเป็นอันมาก จากคำบอกเล่าของผู้ที่ประสบด้วยตนเอง
     ประการที่ 2 สมัยที่ท่านกำลังสร้างอุโบสถ มีท่านผู้บังคับกอง อำเภอระแงะ อาสาไปซื้อไม้มาทำประตูพระอุโบสถแล้วขอเบิกเงินไป แต่ไม่ซื้อไม้มาทำตามที่พูดไว้ อยู่มาไม่นานได้ป่วยเป็นอัมพาตและมีหนี้สินมากมายก่อนตายปากคอและลิ้นเป็นผุพอง พูดไม่ได้และตามอย่างทรมาน เงินจัดการศพก็ไม่มี ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าด้วยอภินิหารหลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ จึงดลบันดาลให้เป็นเพราะไม่ทำตามสัญญาที่ตกลงไว้
     ประการที่ 3 ได้รับคำบอกเล่าจาก ร.ต.ต. พงษ์เทพ เทพบัวแก้ว ที่เรียกว่า(หมวดรวย) ท่านเล่าให้ฟังว่าหลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ได้สั่งว่าเวลาออกไปปราบผู้ร้ายและยิงผู้ร้ายตายก่อน  กลับบ้านให้แวะมาหาท่านก่อน   ร.ต.ต. พงษ์เทพ  เทพบัวแก้ว  ก็ปฏิบัติตาม เมื่อวิหารเล่าให้ท่านฟัง หลวงพ่อดีก็สั่งให้ตีระฆังแล้วสวดขับไล่จัญไรและสิ่งเลวร้ายออกไปจึงให้กลับบ้านทุกครั้ง ร.ต.ต. พงษ์เทพ  เทพบัวแก้ว ก็ถือปฏิบัติเสมอมาจนท่านมรณภาพ
     ประการที่ 4 ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิต เวลาจัดงานในวัดฝนจะไม่ตกในวัด จะตกแต่บริเวณใกล้เคียงเท่านั้นจนงานแล้วเสร็จ  แม้เมื่อท่านมรณภาพไปแล้วจะมีชาวบ้านที่มีความเชื่อ เวลาจัดงานพิธีต่างๆ หรืองานใดๆ จะนิยมมาบนหลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์เสมอและประสบผลสำเร็จส่วนใหญ่ จึงมีความเชื่อถือกันมาก พอเสร็จงานจะมีการเซ่นไหว้โดยถวายขนมโค 99 ลูก และจุดประทัดถวายแก้บน
     ประการที่ 5 ในการก่อสร้างถาวรวัตถุถาวร เช่นสร้างซุ้ม สร้างวิหาร สร้างกองอำนวยการ สร้างกำแพงวัด ทั้งๆ ที่ไม่มีเงินแต่ได้ประกาศบนหลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์  ขอให้สร้างให้แล้วเสร็จและต่อเนื่องงานก็แล้วเสร็จ  ตามต้องการทุกครั้งจนทำให้ผู้ก่อสร้างอุปสมบทถวายหลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์
  เหตุผลที่หลวงพ่อดีวาจาสิทธิ์ เป็นที่กล่าวขานและนับถือของชาวบ้านและประชาชนทั่วไปว่า หลวงพ่อดีมีวาจาสิทธิ์ เพราะลิ้นของหลวงพ่อดีมีปานดำในอุ้งปากมาแต่กำเนิด ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าผู้ที่มีลิ้นดำเวลาพูดอะไรออกไปแล้วจะเป็นดังคำที่พูด ถือเป็นพระดีเมืองนราฯ ครับ
       
            ลุงชัย  มีความใกล้ชิดกับท่านมาก เพราะท่านเป็นน้องชาย คุณตาภรรยา ในช่วงที่ท่าน ยังมีชีวิตอยู่ เราจะไปกราบท่านบ่อยๆ ท่านก็จะให้เราหยิบ พระเครื่ืองที่ท่านใส่ไว้ในบาตร ข้างๆที่ท่านนั่ง ให้หยิบเอาตามสบาย แล้วแต่จะต้องการ รวมทั้งตะกรุด เราก็เอาพอควร มาถึงตอนนี้ก็นึกถึง สุภาษิตที่ว่า"ใกล้เกลือกินด่าง" เพราะถือว่าท่านยังอยู่มาเอาเมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อคราวที่ท่านป่วย ก่อนมรณภาพ พวกเราลูกหลานก็มาเฝ้า ดูแล สรงน้ำ เช็ดตัว ซักสบง จีวร และต้องอยุ่เวร เฝ้า สบง จีวรที่ซัก ไม่อย่างนั้น จะมีคนมาเอาไป เพราะแม้แต่ผ้าเช็ดเท้า ที่
กุฏิท่านก็ไม่เหลือ โดยเฉพาะหลวงพ่อดี วาจาสิทธิ์ ท่านก็มีความเก่งกาจในด้านพุทธาคม ไม่แพ้องค์อาจารย์หลวงพ่อครน เจ้าอาวาสวัดบางแซะ ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย  ท่านสร้างพระเครื่องที่มีชื่อเสียง สามารถสืบทอดวิชาอาคมต่างๆ มาได้ครบถ้วน ปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆออกมาแจกบรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือ ปรากฏอภินิหารเป็นที่เลื่องลือกันไปทั่ว ขนาดผ้าเช็ดเท้าของหลวงพ่อยังยิงไม่ออก เหตุที่มีผู้เอาผ้าเช็ดเท้าของท่านไปยิงก็เพราะความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว จึงมีคนอยากจะลองดี ไปหาหลวงพ่อเพื่อไปขอตะกรุดมาลองยิง หลวงพ่อบอกให้ยิงผ้าเช็ดเท้าให้ออกซะก่อนแล้วค่อยมาเอาตะกรุดของข้าไปยิง ไอ้หนุ่มคนนั้นก็ไม่รอช้า  คว้าผ้าเช็ดเท้าออกไปยิงทันที ปรากฏว่ายิงไม่ออก ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆ และชาวบ้านที่มามุงดู หลังจากนั้นเพียงแค่อึดใจเดียวที่กุฏิของหลวงพ่อก็แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่มุ่งหน้ามาขอวัตถุมงคล ซึ่งหลวงพ่อก็มีเพียงผ้ายันต์และตะกรุด เพราะช่วงนั้นยังไม่ได้มีการสร้างเหรียญ ปัจจุบันวัตถุมงคลของต่างๆ ของท่านได้รับความนิยมและเป็นที่เสาะหาของลูกศิษย์และบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกแทบจะไม่มีหลุดออกมาหมุนเวียนในตลาดพระเครื่องเลย
         เรื่องทั้งหมดที่เล่ามาก็ขอให้อยู่ในดุลยพินิจ ของทุกท่านที่จะพิจารณา ว่าเชื่อหรือไม่ เพียงแต่ลุงชัย ต้องการ ให้ทุกท่านได้รับทราบว่า ยังมีพระดี ในนราธิวาส อยู่อีกองค์หนึ่งเท่านั้นเอง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 24, 2013, 09:35:51 AM โดย ลุงชัยนรา »
บันทึกการเข้า

** กระทู้แรกที่ควรอ่านเมื่ออยู่บ้านเพลงไทย **

มหาสุ

  • **แก้ไข**
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 749
  • กระทู้: 135
  • Thank You
  • -Given: 323
  • -Receive: 749
Re: พ่อท่านดี วาจาสิทธิ์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มีนาคม 26, 2013, 12:56:52 PM »
หามาให้อ่านกันเรื่อยๆนะลุง


บันทึกการเข้า

โชค

  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 1001
  • กระทู้: 496
  • Thank You
  • -Given: 1046
  • -Receive: 1001
Re: พ่อท่านดี วาจาสิทธิ์
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มีนาคม 29, 2013, 09:58:17 PM »
คนนราธิวาสใครมั่งที่ไม่รู้จักพ่อท่านดี
ว่างๆ หาประวัติ หลวงพ่อครน เจ้าอาวาสวัดบางแซะ มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะลุงชัย
อีกทั้งหลวงพ่อเปาะเลาะวัดเขากงนะลุงนะ .. ขอบคุณครับ ...


บันทึกการเข้า

เผ่าพงษ์ ปัตตานี

  • ชาวบ้านเพลงไทยอาวุโส
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2009
  • กระทู้: 507
  • Thank You
  • -Given: 3223
  • -Receive: 2009
Re: พ่อท่านดี วาจาสิทธิ์
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มีนาคม 30, 2013, 11:02:21 AM »
เหรียญนี้สวยงามเข้มขลังมากนะครับท่านโชค เก็บไว้ดีๆ ครับ


บันทึกการเข้า

ชบาบาน

  • ชาวบ้านเพลงไทยอาวุโส
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 382
  • กระทู้: 95
  • Thank You
  • -Given: 412
  • -Receive: 382
Re: พ่อท่านดี วาจาสิทธิ์
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 10, 2013, 02:13:28 AM »
ทางจังหวัดแถบนี้มีของดีอยู่เสมอ ขอชคุณลุงชัยมากๆ


บันทึกการเข้า