ป่าบาลา-ฮาลา
ลักษณะ
ป่าบาลา-ฮาลา เป็นป่าดงดิบชื้นผืนสุดท้ายที่เหลืออยู่ของประเทศไทย ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เป็นแหล่งรวมความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ป่าบาลา-ฮาลาเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสุไหงโกลก แม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำปัตตานีอันเป็นเหมือนเส้นชีวิตของผู้คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ป่าบาลา-ฮาลา ประกอบด้วยป่าสองส่วนคือ
ป่าบาลา อยู่ในพื้นที่อำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอจะแนะ และ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส
ป่าฮาลา อยู่ในอำเภอเบตง อำเภอธารโต และอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
ทั้งสองส่วนประกอบกันเป็นป่าบาลา-ฮาลา มีอาณาเขตโดยรวมคือ
ทิศเหนือจดนิคมกือลอง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา นิคมศรีสาคร อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาสและอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลาง
ทิศใต้จดเขตประเทศมาเลเซีย
ทิศตะวันออกจดนิคมเบตงอำเภอเบตง จังหวัดยะลา
มีเนื้อที่ทั้งหมด ๘๓๖,๐๐๐ ไร่
ความสัมพันธ์กับชุมชน
ป่าบาลา-ฮาลาเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งที่ทำให้เกิดปัจจัย ๔ สำหรับการดำรงชีวิตของคนในบริเวณนี้และทำให้เกิดการก่อตั้งชุมชนอยู่ตามริมแม่น้ำต่างๆ ตลอดสายของแม่น้ำทั้งสามสายคือ แม่น้ำสุไหงโกลก แม่น้ำสายบุรี แม่น้ำปัตตานี กล่าวได้ว่าทุกชีวิต ทุกชุมชนบนบริเวณพื้นที่นี้ล้วนได้รับผลประโยชน์จากความอุดมสมบูรณ์ของป่าบาลา-ฮาลาทั้งสิ้น
เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๓๓ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงทอดพระเนตรเห็นความสมบูรณ์ของป่าและทรงเห็นถึงความสำคัญที่ป่านี้มีต่อพสกนิกรของพระองค์จึงทรงมี พระราชดำริให้มีการอนุรักษ์ป่าบาลา-ฮาลาไว้ให้ดีที่สุด กองทัพภาคที่ ๔ ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่จึงได้จัดตั้งและดำเนินการโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติและสัตว์ป่า สวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ ส่วนที่ ๒ (ป่าบาลา-ฮาลา) เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๓๔ ป่าบาลา-ฮาลา จึงได้รับการดูแลอย่างดีจนถึงปัจจุบัน
ความสำคัญทางเศรษฐกิจ
ป่าบาลา-ฮาลา อุดมด้วยทรัพยากรที่หลากหลายด้วยชีวภาพ มีพันธุ์พืช อันได้แก่ เฟิร์นต่าง ๆ ๒๐ ชนิด หวาย ๖ สกุล รวม ๔๕ ชนิด ไม้ดอกไม้ประดับ ๗๐ ชนิด ไม้ยืนต้น ๑๕๕ ชนิด สมุนไพรจำนวนมากมหาศาล พันธุ์ไม้ทางเศรษฐกิจและไม้ที่สำคัญต่าง ๆ เช่นไม้ตะเคียน ไม้หลุมพอ ไม้สยา ฯลฯ
พันธุ์สัตว์ เท่าที่ได้มีการสำรวจพบสัตว์ป่าในป่าบาลา-ฮาลาพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ๓๒ ชนิด นก ๑๕๔ ชนิด สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ๒๐ ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน ๔๓ ชนิด ปลา ๑๘ ชนิด พื้นที่ป่าบาลา-ฮาลา คลุมพื้นที่เหมืองทองคำโต๊ะโมะ และเหมืองแร่ต่าง ๆ
ป่าบาลา-ฮาลา เป็นต้นน้ำทำให้เกิดเขื่อนบางลางซึ่งผลิตกระแสไฟฟ้าอันทำให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และเป็นพลังงานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
การเดินทาง
การเดินทางจากหาดใหญ่มาตามทางหลวง หมายเลข ๔๓ ผ่านจังหวัดปัตตานี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๒ ถึงอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาสใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๕๕และ ๔๐๕๖ ผ่านอำเภอสุไหงปาดี ี จากนั้นแยกเข้าทางหลวงหมายเลข ๔๐๕๗ ไปอำเภอแว้ง ถึงบ้านบูเก๊ะตา
ก่อนถึงเขตชายแดนจะเห็นป้ายบอกทางไป เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา และน้ำตกสิรินธร เลี้ยวขวาตามทางหลวง หมายเลข ๔๐๖๒ สามารถใช้บริการบ้านพักของเอกชนในตัวอำเภอสุไหงโก-ลก ได้โดยสะดวก หากต้องการค้างแรมในป่า และทำกิจกรรม ในพื้นที่ต้องทำหนังสือล่วงหน้าถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบาลา-ฮาลา ตู้ ปณ.๓ อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ๙๖๑๖๐
หมายเหตุ
ผู้คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเรียกขานป่าผืนนี้ด้วยการนำชื่อชุมชนของตนเองเป็นตัวตั้ง คือ หากเป็นผู้คนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จะเรียกป่าผืนนี้ว่า 'บาลา-ฮาลา' ส่วนคนในพื้นที่จังหวัดยะลา จะเรียกว่า 'ฮาลา-บาลา'
คำว่า บาลา-ฮาลา เป็นภาษามลายู ตามพจนานุกรมภาษารูมี 'บาลา' แปลว่า กลุ่มคน ทหาร หรือหน่วยอื่นๆ 'ฮาลา' แปลว่า ทิศทางมุ่งไปสู่ เช่น ทิศทางน้ำ ทิศทางดิน ทิศทางลม
เมื่อรวมคำทั้งสองเป็น 'บาลา-ฮาลา' หรือ 'ฮาลา-บาลา' จึงแปลว่า ทิศทางการอพยพของกลุ่มคน