พิมพ์

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.
1 ชั่วโมง 1 วัน 1 สัปดาห์ 1 เดือน ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

[ภิรมย์]

     เรื่องฝรั่งชาวอังกฤษถือปืนเข้าไปยิงนกในวัดไทย จนเกิดเป็นเรื่องราว
ทะเลาะวิวาทกับพระสงฆ์ไทยถึงกับเลือดตกยางออก เกิดขึ้น ๒ ครั้ง
     ครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓
     ครั้งสองในสมัยสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔
       พวกฝรั่งเมื่อมีเวลาว่าง  นอกจากตกปลาแล้ว ยังชอบไปยิงนกอีกด้วย
โดยเฉพาะในวัด เมื่อพระสงฆ์ออกมาต่อว่ามาห้าม ฝรั่งก็จะอ้างว่านกพวก
นี้ไม่ใช่ของวัด ตนมีสิทธิ์ยิงได้ เถียงไปเถียงมาก็เกิดเรื่องวิวาทกันทุกที
       ในแผ่นดินของรัชกาลที่ ๓  กัปตันเรืออังกฤษ   นายเวลลาร์  พักอยู่ใน
กรุงเทพ ถือปืนออกไปยิงนกเล่น  จนถึงวัดแห่งหนึ่ง เห็นนกพิราบมากมาย
เกาะอยู่บนต้นไม้ เลยยิงตกลงมาตาย ๒ ตัว
       เสียงปืนทำให้พระภิกษุในวัดแตกตื่นมาดู เมื่อเห็นฝั่งทำบาป ฆ่าสัตว์
ตัดชีวิตในเขตวัด   ก็เข้าห้ามพร้อมกับขอนกที่ตายแล้ว  เพื่อจะนำไปฝังให้
เรียบร้อย แต่ฝรั่งไม่ยอม เกิดการโต้เถียงกันขึ้น
       พระไทยเห็นฝรั่งทำท่ายโสโอหัง ก็เกิดโทสะ ลืมคำสอนในพุทธศาสนา
ต่างถกจีวรตรงเข้ารุมทำร้ายนายเวลลาร์  ทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก แถมฟาด
ด้วยไม้ตะบอง จนฝรั่งล้มเลือดอาบ ปืนก็ถูกแย่งไป
       พวกอังกฤษโกรธมาก  ฟ้องร้องขอให้ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ทำโทษพระ
ในวัดทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะเอาเรือรบมาบุกถล่มวัดให้แหลก  แล้วจะเลยไป
ยิงพระราชวังของกษัตริย์ไทยให้พินาศอีกด้วย
       สมเด็จพระนั่งเกล้าฯ ทรงรับเรื่องร้องทุกข์เชิงข่มขู่ไว้ มีรับสั่งให้เจ้าฟ้า
มงกุฎ(รัชกาลที่ ๔ ขณะนั้นทรงผนวชอยู่)พิจารณา
       ผลการตัดสินในสภาพที่ถูกกดดัน  สรุปว่า พระไทย มีความผิดจริงใหั
ทำโทษด้วยการ ให้นั่งสมาธิกลางแดดเป็นเวลาค่อนวัน ทำความสะอาดใน
วัดอีกหลายชั่วโมง 
       นอกจากนี้ ยังออกกฎห้ามภิกษุไทยแตะต้องตัวฝรั่ง ห้ามทำร้ายฝรั่งไม่
ว่าฝรั่งจะเข้าไปทำความผิดอะไรในวัดก็ตาม   นี่เป็นครั้งแรก
       ครั้งที่ ๒ ในสมัยรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
       ต้นเหตุก็จากการไปยิงนกในวัดอีกเช่นกัน   มีฝรั่งประมาณ ๑๐ คนไป
ยิงนกพิราบที่หน้าอุโบสถของพระอริยมุนี พระสงฆ์ไทยออกมาห้ามดีๆ ก็ไม่
ฟัง  ยังใช้ด้ามปืนกระทุ้งพระที่ไปห้าม  สุดท้ายกลายเป็นวิวาทเกิดชกต่อย
กันขึ้น  และถึงจะเป็นพระ แต่เรื่องฝีมือการต่อสู้อยู่ในสายเลือด พวกฝรั่งก็
พ่ายแพ้ เลือดอาบไปตามๆ กัน
       และก็เหมือนเดิม  ฝรั่งกลุ่มนี้ไม่ยอม จะเอาเรื่องพระไทยให้ได้ ทั้งๆ ที่
ครั้งนี้ ฝ่ายตนเองเป็นฝ่ายผิด ลงมือทำร้ายก่อน ข่มขู่ไทยสารพัดโดยถือว่า
ฝ่ายตนมีกำลังเหนือกว่า
       แต่ครั้งนี้โชคดีที่ กงสุลใหญ่คนใหม่ของอังกฤษ ที่มารับหน้าที่ใหม่เป็น
คนที่มีเหตุผล มีความยุติธรรม 
       อังกฤษได้ออกประกาศเป็นทางการ มิให้คนอังกฤษบุกรุกเข้าไปยิงนก
ในวัดไทยอีกต่อไป
       แต่ถึงกระนั้น ทางไทยเราก็ต้องจ่ายค่าเสียหายให้คนอังกฤษ ๓ ชั่งค่า
ยาค่ารักษาอีกต้องรับผิดชอบทั้งหมด
       ถ้าใครศึกษาประวัติศาสตร์ในช่วงนั้นจะเห็นว่าการเข้ามาของพวกฝรั่ง
นักล่าอาณานิคมเหล่านั้น ต่างเข้ามาเพื่อแสวงอำนาจ  ผลประโยชน์   เป็น
ส่วนใหญ่  เพราะถือว่าชาติตนเอง มีกำลังเหนือกว่า  ไทยเรามักเสียเปรียบ
อยู่เสมอๆ จนหลายครั้งต้องเสียดินแดนของเราไป บางทีคิดๆไปมันน่าเจ็บ
ใจจริงๆ 

จากหนังสือ เรื่องสนุก ในแผ่นดินพระจอมเกล้า ของ น.พ. วิบูล วิจิตรวาทการ

_______________________________________________________________________________________

[ลุงชัยนรา]

สมัยนี้คงไม่มีกรณีเช่นนี้เิกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะฝรั่ง เขาศึกษา ขนบธรรมเนียม ประเพณี ต่างๆมาเป็นอย่างดี แถมบางกรณี ยังรู้ดีกว่าเจ้าของประเทศเสียอีก ขอบคุณน้อง ภิรมย์มากนะครับ ที่นำประวัติศาสตร์ ด้านต่างๆที่ยังไม่ทราบมาฝากกันอ่าน

_______________________________________________________________________________________

[น้องนางบ้านนา]

สมัยนี้คงไม่มีกรณีเช่นนี้เิกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะฝรั่ง เขาศึกษา ขนบธรรมเนียม ประเพณี ต่างๆมาเป็นอย่างดี แถมบางกรณี ยังรู้ดีกว่าเจ้าของประเทศเสียอีก ขอบคุณน้อง ภิรมย์มากนะครับ ที่นำประวัติศาสตร์ ด้านต่างๆที่ยังไม่ทราบมาฝากกันอ่าน

+1 ครับ ประวัติเรื่องราวเมืองเรามีมากเลยต้องเอามาจากฝรั่งเขา..เขาศึกษาจริงจังมาก

....คอยดูเถอะอีกหน่อยตำราสอนมวยไทยและข้อมูลมวยเก่าต้องไปขอฝรั่งเขามาใช้แน่ๆ...

_______________________________________________________________________________________

[เผ่าพงษ์ ปัตตานี]

      ลัทธิการล่าอาณานิคมของฝรั่งชาติตะวันตกสมัยก่อน มีมานานแทบจะเป็นวัฒนธรรมของกลุ่มประเทศทางนู้นเขาเลยครับ  ไทยเราเป็นประเทศที่ล้าหลังหรือป่าเถื่อนในสายตาฝรั่งพวกนี้  ประกอบกับประเทศไทย รวมทั้งประเทศแถบเอเชียทั้งหลายสมัยนั้น แม้กระทั่งจีน ยังต้องเป็นเมืองขึ้นอังกฤษเลยครับ  เรายังไม่มีศักยภาพทางทหารเทียบเท่าเขาครับในยุคนั้น  ที่สำคัญไทยยังไม่ได้มีความสัมพนธ์ที่แนบแน่นกับประเทศมหาอำนาจในยุคนั้น เช่น รัสเซีย เยอรมัน เป็นต้น
     ปัจจุบันลัทธิการล่าอาณานิคมยังมีอยู่ครับ แต่มาในรูปการใช้ระบบเศรษฐกิจที่เหนือกว่าเข้ายึดครองในลักษณะเศรษฐกิจการเงิน การค้า ข้ามชาติ ซึ่งเราก็ยังไม่มีศักยภาพทัดเทียมเขาเหมือนกัน มักจะเสียเปรียบประเทศยักษ์ใหญ่หรือเศรษฐกิจที่เข้มแข็งกว่าเสมอครับ
     ขออนุญาตแจมพอได้เป็นความรู้ (อันน้อยนิด) มาแชร์กันบ้างนะครับ ไม่ได้เจตนาเกี่ยวข้องกับการเมืองการมุ้งใดๆทั้งสิ้นครับ  พูดไปตามเบสิคพื้นฐานทั่วๆไป ที่เราควรรู้ให้เท่าทันโลกบูดๆเบี้ยวๆใบนี้เท่านั้นเองครับ ซึ่งหลายท่านก็พอจะเข้าใจกันอยู่แล้ว

_______________________________________________________________________________________

[ลุงชัยนรา]

ไอ..หย๊ะ...หรอย พ่อถิ๊..น้องบ่าวเรา

_______________________________________________________________________________________

[เผ่าพงษ์ ปัตตานี]

"ฮ้าย....แกล้งทำท่าวไปพั่นนั้นแลลุงชัย  ปล้ำอีโอ้รสมั่งนิ  อากาศร้อนๆพั่นนี้ ไม่โร้อีทำไหรดี" 
        คำแปลสำหรับผู้ที่บ้านอยู่คนละภาคกับลุงชัยครับ
"โอ้ย...แกล้งทำเป็นเก่งไปงั้นแหละลุงชัย  ต้องการจะอวดรู้บ้างซิ  อากาศร้อนๆแบบนี้ไม่รู้จะทำอะไรดี"

_______________________________________________________________________________________