กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

ผู้เขียน หัวข้อ: ทุเรียนเทศ  (อ่าน 3361 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ลุงชัยนรา

  • ความเปลี่ยนแปลง เป็นนิรันดร์
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 3715
  • กระทู้: 910
  • Thank You
  • -Given: 3245
  • -Receive: 3715
  • ชีวิตนี้ยอมพลี เพื่อแผ่นดิน
ทุเรียนเทศ
« เมื่อ: กันยายน 02, 2013, 01:18:14 AM »
             ทุเรียนเทศ หรือ ทุเรียนน้ำ (อังกฤษ: Soursop, Prickly Custard Apple; ชื่อวิทยาศาสตร์: Annona muricata L.) ชื่อเรียกอื่น ๆ คือ ทุเรียนแขก (ภาคกลาง) หมากเขียบหลด (ภาคอีสาน) และ มะทุเรียน (ภาคเหนือ) เป็นพืชในวงศ์เดียวกับน้อยหน่าและกระดังงา ใบเดี่ยว กลีบดอกแข็ง มีกลิ่นหอมตอนเช้า ผลมีรูปร่างคล้ายทุเรียน มีหนาม เปลือกสีเขียว เนื้อสีขาว ฉ่ำน้ำ รสหวานอมเปรี้ยว เมล็ดแกสีดำ ปลูกมากในแถบอเมริกากลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพืชที่ชอบที่ที่มีความชื้นสูง
            ทุเรียนเทศใช้กินเป็นผลไม้สด และนำมาแปรรูปเป็นผลไม้กวน เยลลี่ ไอศกรีมและซอส ในมาเลเซียนำไปทำน้ำผลไม้กระป๋อง เวียดนามนิยมทำเป็นน้ำผลไม้ปั่น เมล็ดมีพิษ ใช้ทำยาเบื่อปลาและเป็นยาฆ่าแมลง

ในเม็กซิโกและโคลัมเบีย เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานและใช้ทำขนม เช่นเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่ม agua fresca ซึ่งเป็นน้ำผลไม้ผสมนม ไอศกรีมทำจากทุเรียนเทศเป็นที่นิยม ในอินโดนีเซีย dodol sirsak ทำจากทุเรียนเทศโดยนำไปต้มในน้ำ เติมน้ำตาลจนกว่าจะแข็ง และนำไปทำน้ำผลไม้ปั่น ในฟิลิปปินส์เรียกทุเรียนเทศว่า guyabano ซึ่งน่าจะมาจากภาษาสเปน guanabana ซึ่งนิยมกินผลสุกและทำน้ำผลไม้ สมูทตี และไอศกรีม บางครั้งใช้ทำให้เนื้อนุ่ม ในเวียดนาม ทางภาคใต้เรียก mãng cầu Xiêm ส่วนทางภาคเหนือเรียก mãng cầu ใช้กินสดหรือทำสมูทตี ในมาเลเซียนิยมกินเป็นผลไม้เช่นกัน
ในทางโภชนาการ ทุเรียนเทศมีคาร์โบไฮเดรตมาก โดยเฉพาะน้ำตาลฟรุกโทส วิตามินซี และวิตามินบี ผล ใบ และเมล็ดมีฤทธิ์ทางยา ใช้เป็นยาสมุนไพร

                           
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

แบ่งปันข้อมูลนี้ก่อนแล้วอ่านในภายหลัง ช่วยชีวิตผู้อื่น ด้วยการแบ่งปันเรื่องนี้ให้มากที่สุดเท่าที่คุณสามารถทำได้
" แรงกว่า 10,000 เท่า ฆ่าเซลล์มะเร็งได้มากว่าการคีโม Chemo เสียอีก"
ร่วมแบ่งปันข้อมูล จะสามารถช่วยชีวิตหลายชีวิตให้ความหวังและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ป่วย
ผลไม้รสเปรี้ยวหรือผลไม้จากต้นไม้ Graviola(ทุเรียนน้ำ)
เป็นต้นไม้มหัศจรรย์จากธรรมชาติ
ที่เป็นฆาตกรเซลล์โรคมะเร็งได้10,000 เท่าดีกว่าคีโม Chemo
ทำไมเราจึงไม่รู้เรื่องนี้ ? เพราะบริษัทยาขนาดใหญ่ต้องการที่จะทำเงินหลังจากการต้องทุ่มเทเวลาอยู่หลายปีกับงานวิจัยในการพยายามสังเคราะห์ผลผลิตออกมาเป็นยาเพื่อขายโดยเฉพาะดังนั้น ตอนนี้คุณรู้แล้วว่าคุณสามารถช่วยเหลือเพื่อนที่เจ็บป่วย
โดยการบอกให้เขารู้ว่าหรือเพียงแค่ดื่มน้ำผลไม้รสเปรี้ยวเป็นประจำ เพื่อเป็นการป้องกันรสชาติก็ไม่เลวมากนักหลังจากเคยชินเพราะเป็นผลไม้จากธรรมชาติโดยสมบูรณ์และแน่นอนไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายหากคุณมีพื้นที่ดินว่างในบริเวณบ้านให้ลองปลูกสักหนึ่งต้นส่วนอื่น ๆ ของต้นไม้นี้ก็มีประโยชน์เช่นกันในครั้งต่อไปถ้าต้องการดื่มน้ำผลไม้
ให้ดื่มน้ำผลไม้นี้มีกี่คนแล้วที่ตายเปล่าไปในขณะที่ผู้ผลิตยาทำเงินกว่าพันล้านดอลลาร์จากการปกปิดความลับที่เป็นเรื่องมหัศจรรย์ของ Graviola
  ต้นไม้ต้นนี้เป็นต้นไม้ที่มีความสูงไม่มากนักและถูกเรียกว่า Graviola ในบราซิล Guanabana ในสเปนและมีชื่อที่รู้จักกันว่า "ทุเรียนเทศ" หรือ“ทุเรียนน้ำ” ในพื้นที่บางแห่งของประเทศไทยเป็นผลไม้ที่มีขนาดใหญ่มากและมีกรดเล็กน้อยเยื่อขาวหวานที่กินได้เลยหรือทำเป็นผลผลิตที่แตกต่างกว่าปรกติ
มักจะทำเป็นทำเครื่องดื่มผลไม้เครื่องดื่มผสมรสผลไม้ หรือทำนองเดียวกัน
ความสนใจหลักเกี่ยวกับต้นไม้นี้เป็นเพราะผลในการต่อต้านเซลล์มะเร็งเป็นอย่างมากแม้ว่ามันจะมีประสิทธิภาพที่นับจำนวนครั้งได้ตามเงื่อนไขทางการแพทย์มันมีผลต่อต้านเซลล์เนื้องอกแต่ที่น่าสนใจมากที่สุด Gaviola
ได้พิสูจน์แล้วว่า รักษาโรคมะเร็งได้ทุกประเภทนอกเหนือจากการรักษาโรคมะเร็งGraviola มีสเปกตรัม(ขอบเขตการรักษา)กว้างมากเหมือนยาปฏิชีวนะ
สำหรับรักษาการติดเชื้อ ทั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราและมีผลดีกับการกำจัด พยาธิภายในและหนอนช่วยลดความดันโลหิตสูง และถูกนำมาใช้สำหรับรักษาความผิดปกติอาการเครียด ซึมเศร้า และโรคประสาทเคยมีกรณีตัวอย่างที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ ?เกี่ยวกับประโยชน์ของต้นไม้ต้นนี้
ทำไม สถ​​าบันวิทยาศาสตร์สุขภาพยังจำเป็นที่จะต้องมีอยู่ต่อไปหรือไม่
สำหรับชาวอเมริกันเช่นคุณ ?มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ
เพราะมีเบื้องหลังเกี่ยวกับ Graviolaความจริงก็เป็นเรื่องง่าย ๆ
ลึกเข้าไปในป่าดงดิบอเมซอนการเติบโตของต้นไม้นี้จะเป็นการปฏิวัติอย่างแท้จริงในสิ่งที่ตัวคุณเอง หมอของคุณและคนส่วนที่เหลือของโลกคิดเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็งและไม่มีโอกาสอยู่รอดอนาคตไม่เคยมองเห็น
เริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้าง (มีแนวโน้มดีขึ้น)
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าสารสกัดที่ได้จากจากต้นไม้มหัศจรรย์นี้ในขณะนี้และที่อาจเป็นไปได้คือ

* โจมตีเซลล์มะเร็งได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการรักษาจากผลผลิตตามธรรมชาติทั้งหมด
ที่ไม่ก่อให้เกิดอาการคลื่นไส้อย่างรุนแรงสูญเสียน้ำหนักและเส้นผมหลุดร่วง
* ป้องกันระบบภูมิคุ้มกันและหลีกเลี่ยงการติดเชื้อร้ายแรง
* รู้สึกถึงความแข็งแรงและมีสุขภาพดีมากขึ้นตลอดช่วงเวลาของการรักษา
* เพิ่มพลังงานชีวิตและปรับปรุงสภาพร่างกายภายนอกของคุณแหล่งที่มาของข้อมูลนี้ไม่เพียงแต่น่ประหลาดใจเพราะข้อมูลมาจากหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตยาในสหรัฐอเมริกาที่ใหญ่ที่สุดจากผลการทดสอบผลไม้นี้ในห้องทดสอบปฏิบัติการมากกว่า 20 แห่ง
ที่ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 1970 ผลการทดสอบเหล่านั้นเผยผลลัพท์ที่ทำให้นักทดลองต่างต้องตกตะลึงและมึนงงไปตาม ๆ กันเลยสารสกัดจากต้นไม้แสดงให้เห็นว่า

* มีประสิทธิภาพตามเป้​​าหมายและฆ่าเซลล์โรคมะเร็งได้ถึง 12 ชนิด
ได้แก่ ลำไส้ใหญ่ เต้านม ต่อมลูกหมากมะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น

* สารประกอบต้นไม้พิสูจน์ให้เห็นว่าแรงมากกว่า 10,000 เท่าในการลด
อัตราการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งให้ช้าลงเหนือกว่า Adriamycin ยารักษาโรคมะเร็งที่ใช้กันทั่วไปเป็นยาเคมีบำบัด

* มีอะไรเพิ่มเติมที่แตกต่างจากยาเคมีบำบัดสารสกัดที่คัดเลือกแล้วจาก Graviolaมีเพียงเซลล์มะเร็งเท่านั้นที่ถูกฆ่าโดยที่มันไม่เป็นอันตรายต่อเซลล์ทั่วไปของร่างกายคุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็งที่น่าประหลาดใจนี้จาก Graviolaทีได้มีการทำการวิจัยอย่างกว้างขวางแต่ทำไมพวกเราถึงไม่เคยได้ยินได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยถ้า Graviola  มีประโยชน์จริงตามนี้

เพราะหนึ่งในบริษัทผลิตยายักษ์ใหญ่ที่มียอดขายต่อปีมากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐได้เริ่มต้นค้นหายาสำหรับการรักษาโรคมะเร็งและการวิจัยที่มีเป้าหมายรวมศูนย์อยู่  Graviolaต้นไม้ที่มีตำนานใช้ในการรักษาโรคตามคำบอกเล่ามาจากชาวบ้านในป่าดงดิบอเมซอน

ส่วนต่าง ๆ โดยรวมทั้งหมดของ Graviola เปลือก ใบ ราก ผล และ เมล็ด
มีการใช้งานมานานหลายศตวรรษแล้วโดยหมอยา และคนพื้นเมืองอินเดียนในละตินอเมริกาใช้ในการรักษาโรคหัวใจ โรคหืด โรคที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับและโรคข้ออักเสบแต่สิ่งที่พบเห็นและที่เป็นอยู่ในตอนนี้คือมีเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยมากเพราะบริษัทยาได้ทุ่มเทเงินและทรัพยากรลงไปในการทดสอบคุณสมบัติการป้องกันรักษามะเร็งจาก Graviola
แต่พบกับเรื่องที่น่าตื่นตะลึงและตกใจว่าผลการทดสอบคือ Graviola ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าจะเป็นระเบิดไดนาโมในการฆ่าโรคมะเร็งแต่แล้วเรื่องของ Graviolaก็เกือบจะสิ้นสุดลงไปหรือหายเงียบไปเลยบริษัทยาต้องเผชิญหน้ากับปัญหาหนักอีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ Graviola เพราะมันเป็นผลผลิตจากธรรมชาติอย่างแท้จริงและภายใต้กฎหมายของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาทำให้ไม่สามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรหรือทรัพย์สินทางปัญญาจึงไม่มีทางที่จะทำกำไรอย่างมหาศาลได้จาก Graviolaเรื่องที่มีการเปิดเผยออกมาก็คือบริษัทยาได้ลงทุนไปเกือบเจ็ดปีในการพยายามที่จะสังเคราะห์บางส่วนของ Graviola
โดยเลือกจากสองส่วนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเป็นส่วนผสมหลักในการรักษาป้องกันโรคมะเร็งถ้าสามารถแยกแยะ/สกัดออกมาได้และผลิตซ้ำแบบจำลองรูปแบบคงเดิมเหมือน Graviolaที่ให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลเช่นนั้นบริษัทยาจะสามารถจดสิทธิบัตรได้และจะทำเงินกลับคืนมาได้อย่างมหาศาลแต่บริษัทยากลับต้องหัวชนฝา (ก้าวข้ามปัญหาไม่ได้)เพราะส่วนผสมตามธรรมชาติดั้งเดิมของ Graviolaไม่สามารถจำลองแบบสมบูรณ์ได้เลยไม่ว่าจะด้วยกระบวนการหรือกรรมวิธีใดๆ ก็ตามทำให้บริษัทยาไม่สามารถปกป้องผลกำไรหรือแม้แต่ทำเงินกลับคืนบริษัทยาเป็นล้านๆ เหรียญสหรัฐ
จากการลงทุนอย่างมหาศาลในงานวิจัยความฝันหวานที่จะทำกำไรอย่างมหาศาลล่องลายหายไปในอากาศ
ผลการทดสอบใน Graviolaนำมาสู่การหยุดชะงักโครงการอย่างชั่วคราว
และเรื่องที่เลวร้ายที่สุดคือบริษัทยามีมติแขวนโครงการทั้งหมดไว้ก่อน
และเลือกที่จะไม่ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการวิจัยครั้งนี้แต่อย่างใดแต่โชคดีที่มีนักวิทยาศาสตร์นายหนึ่งในทีมวิจัย Graviola ในบริษัทยายักษ์ใหญ่
มีสามัญสำนึกที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจที่โหดร้ายผิดมนุษย์มนาของบริษัทยาเพื่อไม่ให้ผิดต่อจรรยาบรรณวิชาชิพเขาจึงได้ติดต่อกับหน่วยงานที่ทุ่มเทให้กับการเก็บเกี่ยวพืชที่เป็นยาสมุนไพรได้จากป่าดงดิบอเมซอน
และเริ่มต้นให้ข้อมูลบางส่วนผลกระทบที่รุนแรงอย่างมหัศจรรย์
เมื่อนักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพได้รับการแจ้งเตือนถึงข่าวใหม่เกี่ยวกับ Graviolaพวกเขาเริ่มต้นติดตามผลการวิจัยต้นไม้ฆ่าเซลล์มะเร็ง
หลักฐานของความมีประสิทธิผลที่น่ามหัศจรรย์ของ  Graviolaทำให้ต้องตกตะลึงกับผลที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในด้านความรวดเร็วและดุเด็ดเผ็ดมันของมันเป็นอย่างมากสถาบันมะเร็งแห่งชาติดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกในปี1976 ผลการศึกษาพบว่า Graviola
"ใบและลำต้นพบที่มีประสิทธิภาพในการโจมตีและทำลายเซลล์มะเร็ง"
แต่กลายเป็นเรื่องปกปิดภายในรายงานที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่เฉพาะภายในหน่วยงานและไม่เคยปล่อยให้ถึงมือประชาชน(ให้ประชาชนรับทราบเรื่องนี้เลย)ตั้งแต่ปี1976 งานวิจัยเกี่ยวกับ Graviolaได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า
เป็นสารฆ่าเซลล์มะเร็งที่มีศักยภาพอย่างมหาศาลผลจากห้องปฏิบัติการทดสอบอิสระจำนวน 20 แห่งแม้ว่าจะยังไม่มีการทดสอบแบบคู่ขนานในคลินิกทดลองทางการแพทย์คือ มีกลุ่มควบคุม กลุ่มทดลองมีการใช้ ยาจริงยาปลอม
ในการให้การรักษาโรคมะเร็งแต่กระแสหลักที่เป็นมาตรฐานชี้วัดทางการแพทย์ทั่วไปและวารสารต่างๆได้การตัดสินแล้วว่าผลการรักษานี้มีคุณค่ามากกว่ายาประเภทอื่น ๆผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติจากการติดตามผลการศึกษาล่าสุดที่ดำเนินการโดย มหาวิทยาลัยคาทอลิกของเกาหลีใต้ระบุว่าหนึ่งในสารเคมีของ Graviolaที่ค้นพบคือ การเลือกฆ่าเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ที่มากกว่า10,000 เท่าของความแรงมากกว่ายาเคมีบำบัดที่ใช้กันทั่วไปที่ชื่อว่า Adriamycinส่วนหนึ่งที่สำคัญที่สุดจากรายงานของมหาวิทยาลัยคาทอลิกของเกาหลีใต้ได้รายงานว่า Graviola
แสดงให้เห็นถึงการกำหนดเป้​​าหมายกำจัดเฉพาะเซลล์มะเร็งแยกออกจากเซลล์ทั่วไปของร่างกายเซลล์ปกติจะไม่ถูกแตะต้องซึ่งแตกต่างจากยาเคมีบำบัดทั่วไปที่ไม่แยกแยะเป้าหมายเซลล์แต่อย่างใดแต่มีผลอย่างแรงต่อเซลล์อื่นๆ ด้วยเช่นกันทั้งหมด(เช่น กระเพาะอาหาร และเซลล์เส้นผม)
ทำให้เกิดการทำลายล้างอย่างมากมักจะมีผลข้างเคียงจาก อาการคลื่นไส้และผมร่วงในผู้ป่วยโรคมะเร็งผลการศึกษาที่มหาวิทยาลัย Purdue เมื่อเร็ว ๆ นี้
พบว่าใบจาก Graviola ฆ่าเซลล์มะเร็งภายในร่างกายมนุษย์ได้ถึงหกประเภท
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประสิทธิภาพกับต่อมลูกหมาก ตับอ่อน และมะเร็งปอดหลายปีแห่งความเงียบของเรื่องนี้ในที่สุดมันก็จะจบลงที่นี่

เรื่องของชายที่รักษามะเร็งให้ภรรยาด้วยการใช้ ทุเรียนเทศ

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ

อขอบคุณข้อมูลและภาพจาก วิกิพีเดีย และ http://www.oknation.net
ขอขอบคุณ อ. ลือ ผู้ฝึกสอนการวางภาพ


ชบาบาน

  • ชาวบ้านเพลงไทยอาวุโส
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 382
  • กระทู้: 95
  • Thank You
  • -Given: 412
  • -Receive: 382
Re: ทุเรียนเทศ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 13, 2013, 08:39:04 AM »
ทุกอย่างต้องฟังแบบฟังหูไว้หู  อะไรจะขนาดนั้น 


บันทึกการเข้า

ลือ

  • ฟังดนตรีเถิด ชื่นใจ...
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 4066
  • กระทู้: 864
  • Thank You
  • -Given: 3919
  • -Receive: 4066
  • ชอบเพลงลูกกรุงเก่าๆครับ
Re: ทุเรียนเทศ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กันยายน 16, 2013, 10:58:50 PM »
ตอนยังอยู่ที่ จ. ปัตตานี ภาคเหนือของมาเลเซีย....
          ผมชอบทานทุเรียนเทศสุก จิ้มน้ำปลา

       รู้สึกคล้ายๆเรากินน้อยหน่า...คือ มีกลิ่นแรงอย่างนั้นเลยครับ
             คนชอบว่าหอม คนไม่ชอบก็ว่ากลิ่นไม่ถูกจมูก

                .... แต่ผลน้อยหน่าสุก เนื้อจะร่วน
               ส่วนทุเรียนเทศสุก เนื้อจะแน่น และเหนียว
                   รสออก หวานๆ เปรี้ยวๆ อ่อนๆ...

                   ผมจึงต้องฉีกเนื้อทุเรียนเทศ จิ้มๆ แตะๆน้ำปลาทิพรสในถ้วยเล็กๆ
                                เสริมรสเค็มอ่อนๆ....


บันทึกการเข้า