1.ภาษาอังกฤษในประเทศไทย เรียนเพื่อรู้ และสอบ
ไม่มีภาคสนามมารองรับให้ได้ใช้จริง อย่างประเทศอื่น...
เปลี่ยนชั่วโมง สมองก็ปิดรับ...หันไปเปิดกลไกด้านภาษาไทยต่อ...
พูดไปเหมือนเก็บดาบเล่มที่ชื่อว่า Englishเข้าฝักตลอดเวลา ...ชักออกมาจะใช้ สนิมก็จับเขรอะเสียแล้ว
2.ไวยากรณ์ในภาษาอังกฤษ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่ครูจะต้องสอน และนักเรียนจะต้องรู้ และจำ
สมัยก่อน... - เ้ด็กกลัวสอบตกซ้ำชั้น จึงขยันเรียนรู้ ขยันฝึกทำการบ้าน ครูสั่งที 80 ข้อก็มี ก็ทำจนเสร็จ
และขยันท่องจำคำศัพท์ และกฎเกณฑ์...
สมัยนี้... - เด็กรู้แกว ไม่ท่องสักอย่าง... ให้การบ้าน 20 ข้อ -ร้องโวยวาย และรู้ว่าถ้าตก ก็ซ่อม และผ่านอยู่แล้ว
ที่ว่า ไวยากรณ์ของภาษาอังกฤษ ต้องสอน และเด็กต้องท่องจำด้วย ถึงจะนำไปใช้ได้ถูกต้องนั้น
เพราะคำในภาษาไทย จะพูดตอนไหน ลักษณะอย่างไร คำก็ไม่เปลี่ยนแปลงรูป...
แต่คำในภาษาอังกฤษ จะเปลี่ยนรูป ตามกาลเวลา(หรือ Tense)
และหรือตามลักษณะการพูด(วาจก หรือ Voice) ว่าประธานกระทำเอง หรือประธานถูกผู้อื่นกระทำ เด็กไทยจึงต้องท่อง กริยา 3 ช่องได้ให้มากที่สุด...เพื่อรองรับการเปลี่ยนกริยาตาม Tense
และต้องจำโครงสร้างของ active voice กับ Passive Voice เป็นสำคัญครับ... แต่เด็กไทยทั่วไป ติดการคลิกเม้าส์....
การท่องจำ นี่....ไม่เอา ไม่ยอมกระทำ ไงครูก็ลงโทษตีไม่ได้ เขาสั่งห้าม
ขืนมาบ่นมาก...หมดเวลาสอนไปสิ เป็นเช่นนี้
พอจะนำไปใช้จริง สมองวิ่งมาหาข้อมูลศัพท์ที่ร่องลึก...ปรากฎว่า Blank คือ ว่างเปล่า
ไม่มีร่องรอยการสั่งสมความจำบันทึกไว้เลย....
เชื่อไหมครับ เด็กไทยจำนวนมาก จะมักง่าย ดื้อใช้ภาษาอังกฤษแบบคาราโอเกะ กับศัพท์ที่ตนไม่รู้คำในภาษาอังกฤษ
(คาราโอเกะ คือ มีแต่การเลียนเสียง แต่ไร้ความหมายใดๆ.. สื่อกันได้ ในเฉพาะหมู่เดียวกัน
...ไม่ครอบคลุมโลกสากล- global )
เช่น ให้เขียนคำว่า
ข้าวผัด เด็กไทยส่วนใหญ่ใช้ kow pad/kaw phad/ kaw phud ฯลฯ....
คำนี้ ที่ถูกต้อง และเข้าใจในระดับสากล คือ " fried rice"
แปลตามรูปศัพท์ คือ ข้าวที่ถูกผัด
( fry... fried.... fried (กริยา 3 ช่องของ fry) แปลที่ละช่อง คือ ผัด..ผัดเรียบร้อยแล้ว...ได้ผัดแล้ว/ถูกผัด
...เลือกเอาช่องที่3 ที่แปลว่า ถูกกระทำการผัด
มาขยายคำว่า rice.... โดยวางไว้ข้างหน้าคำที่จะขยาย
เด็กที่ เรียน -รู้ -จด และจำ .....ก็จะนำไวยากรณ์ที่จดจำ ออกจากสมองมาใช้สร้างคำนี้ได้ครับ)
เป็นต้น....อิ อิ
ก็คงเมื่อเราเข้าเป็นอาเซียน ....ที่คนในชาติอาเซียนด้วยกัน สามารถเข้ามาแย่งงานดีๆในประเทศต่างๆได้ตามมติ....
ก็คงจะทราบชัดว่า มีงานดีๆ ตำแหน่งสูงๆ -เพราะสามารถสื่อสารกับต่างชาติได้อย่างมีมาตรฐาน
เหลือให้คนไทยสักมากน้อยแค่ไหน....
ที่อ่านพบมา เขาเล็งว่า เป็นงานลักษณะลูกจ้าง หรือ งานระดับล่าง...ยังไม่ปักใจเชื่อครับ
ก็คงต้องดูกันตอนนั้น...