« เมื่อ: เมษายน 06, 2013, 07:37:51 PM »
เครดิต...เลิศชาย คชยุทธ
เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 1
ตั้งชื่อเรื่องว่า เพลงสัปดน ไม่รู้ว่า ท่านผู้อ่านจะเข้าใจว่า ผมเป็นคนสัปดนหรือเปล่าก็ไม่รู้ เรื่องที่เขียนมีมากมายก่ายกอง แต่ทำไมดันมาเขียนเรื่องแบบนี้
ขออภัยครับ คนเราก็ต้องมีบ้าง จะให้เรียบร้อยแบบผ้าพับไว้ ไม่มียับยู่ยี่เลยแม้แต่นิดเดียว อยากรู้เหมือนกันว่าผ้าชั้นดีเลิศแบบนี้มีขายที่ไหน
นักเขียนการ์ตูนชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ นามว่า ประยูร จรรยาวงศ์ เคยเขียนข้อความไว้ที่ภาพการ์ตูนของตัวเองว่า
สัปดนวันละนิด จิตแจ่มใส
ที่บอกว่า สัปดน วันละนิด มันมากน้อยขนาดไหนก็ไม่รู้เหมือนกัน และจะเว้นว่างสักวันสองวัน ไม่ออกกิริยาอาการที่เข้าลักษณะ สัปดน จิตจะขุ่นมัว ไม่สดใส รื่นเริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ครั้นจะไปสอบถามหาความกระจ่างจาก ประยูร จรรยาวงศ์ ก็ทำไม่ได้เพราะท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว
เข้าเรื่องดีกว่า คำว่า สัปดน ตามความเข้าใจของชาวบ้านก็จะคิดและเข้าใจไปว่า ความสัปดนคือ การแสดงออกไม่ว่าจะเป็นการพูด การร้อง การเขียน การวาดรูป การละเล่น กิริยาท่าทางต่างๆ ฯลฯ ที่ส่อไปในเรื่องเพศ มีลักษณะหยาบโลน
แต่ถ้าพลิกไปดูความหมายในพจนานุกรมก็จะได้รับทราบว่า สัปดน อ่านว่า สับ-ปะ-ดน หมายถึง หยาบโลน เช่นพูดหยาบโลน สองแง่สองง่าม อุตรินอกแบบนอกแผน
บางทีก็พูดติดกันว่า สัปดี้สีปดน ซึ่งหมายถึง หยาบโลน
แล้วคำว่าทะลึ่งละ เหมือนกันหรือเปล่า เพลงสองแง่สองง่าม เรียกว่าเพลงทะลึ่งใช่หรือเปล่า
พูดกันตามศัพท์ ความหมายจริงๆ ของทะลึ่งก็คือ การแสดงกิริยาหรือวาจาอันไม่สมควรในเรื่องที่มิใช่ธุระของตัวหรือในเวลาที่เขาไม่ต้องการ ดังคำพูดที่ว่า ไม่ใช่เรื่องของตัวเองสักหน่อย แต่ดันทะลึ่งไปยุ่งเรื่องของชาวบ้าน
แต่ไม่รู้ไปยังไง มายังไง คำว่าทะลึ่งถึงได้ถูกเพิ่มความหมายจนเข้าใจไปว่า การทะลึ่ง คือการกระทำ (การพูด การแสดงออกต่างๆ) ที่ออกไปในลักษณะหยาบโลนและเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ "เรื่องอย่างว่า" (เรื่องเพศนั่นแหละ)
ไม่เหมือนกับคำว่า ลามก ความหมายคำนี้ชัดแจ้งว่า เป็นเรื่องอุจาดบัดสี น่าอับอาย เกี่ยวกับเรื่องเพศ หรืออวัยวะเพศทั้งหญิงหรือชาย หรือการร่วมเพศของมนุษย์ซึ่งแสดงออกผ่านการพูด ภาพหรือช่องทางการสื่อสารอื่นๆ
อธิบายความหมายมาพอสังเขป เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนจะไปพูดถึงเพลงสัปดนว่า เป็นอย่างไรและมีเพลงอะไรกันบ้าง
เท่าที่ผมสืบค้น เพลงลูกทุ่งที่มีเนื้อร้องสัปดนก็ไม่ได้มีมากมายนักหรอกครับ แต่ก็พอจะหาฟังกันได้ ส่วนมากจะเป็นเพลงเก่าๆ เช่น เพลง จุดเทียนเวียนวน เป็นเพลงร้องคู่ระหว่าง อดุลย์ กรีน กับ มานี มณีวรรณ แต่งโดย พยงค์ มุกดา
"จุดเทียนเวียนวน เรามาสองคนวนเอ๋ยวนเวียน หมุนกลับสลับเปลี่ยน เรามาดับเทียนเวียนเอ๋ยเวียนวน
นี่เป็นคำสร้อยของเพลง
จากนั้นเนื้อร้องที่นักร้องชาย-หญิงคู่นี้ ร้องตอบโต้กัน ก็กล่าวถึงเรื่องมะพร้าว ว่าวจุฬากับว่าวปักเป้า
เพลง ยายฉิมเก็บเห็ด ร้องโดย เตือนใจ บุญพระรักษา จากการแต่งของ ชะลอ ไตรตรองศร
"ฝนตกหยุมหยิม ตัวฉันยายฉิมจะไปเก็บเห็ด ได้เห็ดมามากมาย ฉันจะเอาไปขายที่เมืองเพชร มีทั้งเห็ดหมากและเห็นโคน ยายฉิมตะโกนร้องขายเห็ด เอ๊อ...เอ่อ เออ เอ๊อ เออ เงิง เอย"
คำร้องขึ้นต้นไว้ดังนี้ จากนั้นเตือนใจก็ร้องต่อไปกล่าวถึงเห็ดพันธุ์ต่างๆ ทั้งเห็ดหมาก เห็ดโคน เห็ดอีกลอย เห็ดมะม่วง ฯลฯ ยายฉิมก็ร้องตะโกนขายเห็ด...เห็ดแม่เอ๊ยยยยยย....
แต่ระหว่างกลับบ้านนี่สิ ขโมยมันมาตั้งสองร้อยยี่สิบเอ็ด มันจะมาไล่...เป็ด (เฮ้อ...ยายฉิมเลยรอดตัวไป)
"ขายเห็ดกลับมาบ้าน เสียงคนจุ้นจ้านคุยกันเอ็ด ไอ้ขโมยมันมาไม่น้อย มาตั้งสองร้อยยี่สิบเอ็ด ยายฉิมร้องว้าย?ช่วยด้วยโว้ย ไอ้พวกขโมยมันมาไล่เป็ด เอ๊อ เอ่อ เออ เอ๊อ เงิง เงย
เงินทองมันก็ไม่เอา ไอ้ขโมยมันเมา มันจะเอาแต่เห็ด..."
เพลงยายฉิมเก็บเห็ดที่ลงท้ายด้วยสระเอ็ด...ถูกนำไปร้องกันต่อเป็นที่สนุกสนาน แต่คนชื่อยายฉิม ถ้ามีตัวตนก็คงไม่สนุกสนานด้วย เพราะคำที่ลงท้ายสระเอ็ดนั้นถูกเปลี่ยนแปลงเสียใหม่
หลังจากเพลงยายฉิมเก็บเห็ดสร้างความฮือฮาในหมู่นักฟังเพลงโดยเฉพาะแฟนเพลงหนุ่มๆ ซึ่งทำให้เลือดในกายฉีดพล่านทุกครั้งเมื่อได้ฟังและชมการแสดงรีวิวของหางเครื่องสาวประกอบเพลงที่ขับร้องโดยนักร้องหญิงที่นำเพลงนี้มาร้องหน้าเวทีตามวงดนตรีต่างๆ ความครึกครื้น ต่อมา สุรพล สมบัติเจริญ ราชาเพลงลูกทุ่งได้แต่งเพลง ตาโฉมงมหอย โดยใช้ทำนองเดียวกับเพลง ยายฉิมเก็บเห็ด
เรื่องราวของเพลงก็ว่าด้วย การออกไปหาหอยของตาโฉม จากนั้นก็สาธยายว่ามีหอยอะไรบ้าง ตัวเล็ก ตัวน้อย ตัวกระจี้รี่ และจบท้ายว่า งมหอยจนเหนื่อยจึงกลับบ้าน พบว่าหอยที่งมมาได้นั้น ใหญ่สู้หอยที่บ้านไม่ได้
อยากฟังเพลงที่กล่าวถึงมานี้ก็ลองกดเข้าไปกูเกิ้ลหรือยูทูบดูนะครับ
ฉบับหน้ามาว่ากันต่อครับ
_______________________________________________________________________________________
ผู้เขียน
หัวข้อ: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 1 (อ่าน 3633 ครั้ง)