กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

ผู้เขียน หัวข้อ: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2  (อ่าน 9031 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

น้องนางบ้านนา

  • การศึกษาของไทยคือ-อะไรก็ได้ที่ง่ายๆ แล้วได้ปริญญา
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2617
  • กระทู้: 546
  • Thank You
  • -Given: 2027
  • -Receive: 2617
เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« เมื่อ: เมษายน 06, 2013, 07:38:58 PM »
เครดิต...ลูกทุ่งเศรษฐี-เลิศชาย คชยุทธ

เพลงทะลึ่ง-สองแง่สองง่าม แว่นวิเศษ-หมากัด ตอนจบ

ฉบับที่แล้วนำเสนอบทเพลงประเภทสัปดี้ สัปดน ไปแค่สองสามเพลง เช่น เพลงจุดเทียนเวียนวน เพลงยายฉิมเก็บเห็ด และเพลงตาโฉมงมหอย

เพราะถือหลัก สัปดนวันละนิด จิตแจ่มใส ทำให้ยังมีบทเพลงตกค้างที่ต้องมาคุยกันต่อในฉบับนี้

อันว่าเพลงทะลึ่ง ที่เนื้อร้องมักจะวกเข้าเรื่องพรรค์อย่างว่า นั่นก็คือ

เรื่องอวัยวะสำคัญของมนุษย์เรา ที่มีไว้ใช้ ฉี่ก็ได้ ใช้สืบพันธุ์ก็ได้

และเรื่องของความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างหญิงและชาย ภาษาสุภาพของชาวบ้านเรียกว่า "มีอะไรกัน" ถ้าเป็นภาษาอังกฤษที่ฟังแล้วไม่รู้สึกหยาบโลนก็คือ "มีเซ็กซ์"

เพลง แว่นวิเศษ เพลงนี้เป็นเพลงเก่า สุชาติ เทียนทอง แต่งเองและบันทึกแผ่นเสียงเอง

เนื้อหาของเพลงเป็นเรื่องราวของหนุ่มอีสานคนหนึ่งเก็บแว่นตาได้ขณะไปทำนา ใส่ดูก็พบว่าเป็นแว่นวิเศษเพราะเมื่อใส่แล้ว มองผ้าถุง มองเสื้อกระโปรง เห็นทะลุปรุโปร่งเข้าไปถึงข้างใน จากนั้นจึงเดินทางเข้าเมืองกรุง ใส่แว่นดูนักร้องหญิงออกมาเต้นโชว์ เห็นก้นขาวโล่และเห็นอกโตงเตง

"แว่นวิเศษ วิเศษนักหนา มองเสื้อผ้าทะลุลอดได้ มองผู้หญิงที่ผ่านไปมา เหมือนเดินแก้ผ้าช่างน่าอับอาย บ้างก้นขาว ก้นด่าง ก้นดำ บ้างก้นเป็นจ้ำ ก้นเล็กก้นใหญ่ สาวบางคนก้นไม่ค่อยมี ก็เอาสำลีเข้ามาใส่ไว้ โอ่ โอ๊ โอ โอ๊ โอ โอ๊ โอ่ บ้างก็ขี่ม้าโชว์ เดินผ่านหน้าไป" ตอนหนึ่งของเพลงที่สุชาติ เทียนทอง ร้องไว้

สุดท้ายเมียที่อยู่บ้านนอก เดินทางมาตามถึงกรุงเทพฯ และเกิดการยื้อแย่งแว่นตากันขึ้น ในที่สุดก็แย่งไปได้สำเร็จ เอาไปใส่เพื่อมองนิโกร

ในยุคที่สุชาติ เทียนทอง ร้องเพลง แว่นวิเศษ เมื่อ 40 กว่าปีก่อน ใครๆ ได้ฟังเพลงต่างก็ถามหาแว่นวิเศษว่ามีจริงหรือ มีขายที่ไหนช่วยบอกหน่อย จะไปซื้อมาสักร้อยอัน คนร้องน่ะ มีแว่นวิเศษใช่ไหม ขอยืมมาใส่หน่อย เดี๋ยวดูเสร็จจะคืนให้ ไม่ชักดาบหรอก

สุชาติ เทียนทอง บอกว่า ไม่มี เพลงนี้แต่งขึ้นมาและร้องกันสนุกๆ เท่านั้นแหละ อย่าไปคิดมาก และอย่าไปดิ้นรนหาแว่นวิเศษเลย ไม่มีหรอก

ถ้ามีคนผลิตแว่นวิเศษแบบนี้ได้จริงๆ คงจะขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

มาถึงยุคปัจจุบัน เป็นโลกของสื่อสมัยใหม่ มีทั้งกล้องวิดีโอที่แอบถ่าย แอบติดไว้ในห้องน้ำ การแอบถ่ายคลิปด้วยกล้องขนาดจิ๋ว ด้วยโทรศัพท์มือถือ ภาพลับเฉพาะถูกเผยแพร่ในคอมพิวเตอร์ ในยูทูบจนเป็นคดีความ ตำรวจไล่จับไม่หวาดไม่ไหว

แม้จะไม่ใช่แว่นวิเศษเหมือนในเพลง แต่ความวิเศษของอุปกรณ์การถ่ายภาพและบันทึกภาพก็ทำเอาหนุ่มสาวสะท้านไปตามๆ กัน

มาถึงเพลง หมากัด ทำนองเพลงพื้นบ้านที่เรียกว่าอีแซว ขับร้องโดย เอกชัย ศรีวิชัย เชื่อว่าทุกคนเคยฟังกันมาแล้วทั้งนั้น เนื้อร้องลงท้ายสัมผัสด้วยคำสระอวยและสระอี คล้ายกับจะให้คนฟังเข้าใจว่า หมายถึงคำนั้นๆ แต่เวลาร้อง เอกชัยกลับไปร้องอีกคำหนึ่งซึ่งไม่ได้สัมผัส เพราะต้องการเลี่ยงคำ ไม่เช่นนั้นจะถูกหาว่า ร้องเพลงลามกอนาจาร หยาบโลนที่ผู้คนส่วนหนึ่งฟังไม่ได้

หลังจากเอกชัย ร้องเพลง หมากัด ดวงจันทร์ สุวรรณี ก็มาร้องแก้ด้วยเพลง หมาไม่กัด

ดีแล้ว ที่หมาไม่กัด อวัยวะสำคัญอย่างว่า ถ้ากัดขาดละก็ เสียดายแย่เลย

ทีนี้ก็มาถึงเพลง พี่ไปหลายวัน ชาย เมืองสิงห์ ขับร้อง

ทำไมพี่ต้องไปหลายวัน ไม่ใช่ปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาก็คือ ก่อนพี่จะไปและไปหลายวันเสียด้วยนี่ เหตุใดน้องแต๋น เมียรักของพี่จึงไม่เข้าใจว่า คนเรารักกัน ก่อนจากกัน เราสองคนผัวเมียควรจะทำยังไง

หลังจากชาย เมืองสิงห์ ร้องเพลง พี่ไปหลายวัน แสงเดือน เปรื่องสุวรรณ ก็ร้องแก้ด้วยเพลง ฉันไปสามวัน

เนื้อร้องของเพลงที่ฝ่ายหญิงเอ่ยตอบ กลับเป็นคนละเรื่องกับนักร้องชายที่อุตส่าห์พูดเป็นนัยๆ ว่าต้องไปหลายวัน แต่สาวเจ้ากลับบอกไม่รู้ ไม่ชี้

ในเนื้อร้องของเพลง ฉันไปสามวัน เป็นเรื่องราวที่เมียสาวบอกแฟนหนุ่มนาม "พี่ตึ๋ง" ว่า จะไปหาป๋าที่ต่างจังหวัดสัก 3 วัน

สุดท้ายกลายเป็นเรื่องของการต่างคนต่างไป?ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สืบค้น ตรวจสอบไปถึงบทเพลงลูกทุ่งที่ร้องๆ กันอยู่ว่ามีเพลงอะไรบ้างไหมที่สื่อความหมายไปถึงคำว่า มีเซ็กซ์ ก็พอประมวลคำสแลงได้ เช่น

คำว่า ดิงดอง ก็ใช่

คำว่า ติงนัง ก็ใช่

พูดถึงเรื่อง การทะลึ่งตึงตัง หรือชอบพูดจาหยาบโลน สองแง่สองงาม ออกจะเป็นลักษณะนิสัยของคนไทยมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ เหมือนกับคนไทยชอบเล่นการพนันขันต่อ การชอบของมึนเมา จำพวก เหล้า บุหรี่ ใบกระท่อม ฝิ่น กัญชา อุ สาโท เหล้าขาว...ปัจจุบัน หนักข้อขึ้นกว่าอดีตหลายเท่า เพราะมีทั้ง เฮโรอีน ยาบ้า ยาไอซ์ ยาอี ยาเลิฟ ฯลฯ

เพลงลูกทุ่งสืบสายธารมาจากเพลงพื้นบ้าน จำพวก อีแซว ฉ่อย เพลงเรือ ลำตัด เต้นกำรำเคียว พวงมาลัย ฯลฯ ซึ่งมีพ่อเพลงแม่เพลงมาร้องตอบโต้กัน ก็มักจะออกมาในลีลาทะลึ่ง หยาบคาย ไม่สุภาพ โดยหวังจะด่าว่าอีกฝ่ายหนึ่งให้เจ็บปวดและเพื่อให้สะใจคนดูที่เป็นพวกเดียว ฝ่ายเดียว และเพศเดียวกับตน

บางทีก็เลี่ยงหลบไปใช้คำผวนเพื่อมิให้ระคายหูคนดูคนฟัง

เพราะคนดูคนฟังมีหลายระดับ แตกต่างกันในด้านอายุ มีทั้งเด็ก ทั้งวัยรุ่น ทั้งหนุ่มสาว ทั้งคนเฒ่าคนแก่ ในแง่ของระดับการยอมรับคำจำพวกนี้ก็แตกต่างกัน บางคนก็รับได้ บางคนก็รับไม่ได้

แล้วท่านล่ะ ยอมรับได้แค่ไหน กับบทเพลงลูกทุ่งที่มีเนื้อร้องสัปดน สองแง่สองง่าม


บันทึกการเข้า
โชคอยู่ที่การแสวงหา วาสนาอยู่ที่การกระทำ
จงโง่บางโอกาส จงฉลาดบางเวลา
-

** กระทู้แรกที่ควรอ่านเมื่ออยู่บ้านเพลงไทย **

ลือ

  • ฟังดนตรีเถิด ชื่นใจ...
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 4066
  • กระทู้: 864
  • Thank You
  • -Given: 3919
  • -Receive: 4066
  • ชอบเพลงลูกกรุงเก่าๆครับ
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 06, 2013, 11:03:30 PM »
อยากให้คุณเหมยขาบพูดถึงเพลงนี้ ตามทัศนะครับ
   -เดือนคว่ำ เดือนหงาย
            ตอนนี้   ที่นึกออก ก็แค่นี้ครับ....
 


บันทึกการเข้า

ดาวเรือง

  • กรรมการบ้านเพลงไทย
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 1932
  • กระทู้: 454
  • Thank You
  • -Given: 3088
  • -Receive: 1932
  • เพลงคือชีวิต
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 02:54:22 AM »
เพลงหมากัด ผมว่าคนที่ร้องคนแรก คือ ชินกร ไกรลาศ นะครับ ไม่ใช่ เอกชัย ศรีวิชัย

แต่คนมักพูดถึง เอกชัย (แสดงว่าเอกชัยร้องเพลงนี้ดังกว่า)


บันทึกการเข้า

ภิรมย์

  • รักเมืองไทย
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2320
  • กระทู้: 480
  • Thank You
  • -Given: 2121
  • -Receive: 2320
  • คุณลูกกับคุณแม่
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 06:45:26 AM »
   เพลงแนวนี้ผมว่ามีอยู่ทั้งในลูกทุ่ง ลูกกรุงครับ เพียงแต่ว่า
ในลูกทุ่งใช้ภาษาที่ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายกว่า ส่วนลูกกรุงนี่
ใช้ภาษาที่สละสลวยกว่า ต้องคิดให้ลึกขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง


บันทึกการเข้า
 :42ดนตรีคือ สื่อภาษาสากล :42

ลือ

  • ฟังดนตรีเถิด ชื่นใจ...
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 4066
  • กระทู้: 864
  • Thank You
  • -Given: 3919
  • -Receive: 4066
  • ชอบเพลงลูกกรุงเก่าๆครับ
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 09:37:15 AM »
  จริงครับ คุณภิรมย์
      1.  ลูกกรุงก็ใช่ย่อย เรื่องแฝงบทอัศจรรย์ไว้ในบทเพลง...
         " กอดพี่ ให้แน่นหน้ามล...
              เดี๋ยวฝนจะโปรยลงมา "
           จากเพลง"อ่าวอารมณ์"-ธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง
      2. ที่จริงในวรรณคดีไทย ก็มีลักษณะ"สัปดน" ที่เป็นโวหาร เชิงพังเพย อุปมาอุปมัย มานานแล้ว
            เช่น...
         -"เกิดกุลา คว้าว่าว ปักเป้าติด..."
              (นางผีเสื้อยักษ์แปลง ปล้ำพระอถัยมณีในถ้ำ จนสำเร็จสมดังหมาย)
         -"อิเหนา ตอนฉายกริช"
              (อิเหนาแอบซุ่มดูนางบุษบา แล้วควักกริชของตัว ออกมากวัดแกว่งล้อแสงอาทิตย์ ให้นางบุษบาเห็น)
                  มีผู้ถอดความแนวหวาน ใสบริสุทธิ์ ก็เป็นไปซื่อๆ ตามคำบรรยายนั้น...
            แต่ก็มีผู้ถอดความแนวอีโรติก ว่านี่คือการบรรยายเชิงอุปมาอุปมัย สะท้อนถึงอารมณ์ที่กำลังใฝ่เสน่หาของอิเหนา
                เช่น ในข้อเขียนของ "ศศิวิมล" (อ.จักรพันธ์ โปษยกฤต)ที่ผมเคยอ่านเจอ

                            :61 :61 :61 :61 :61


บันทึกการเข้า

น้องนางบ้านนา

  • การศึกษาของไทยคือ-อะไรก็ได้ที่ง่ายๆ แล้วได้ปริญญา
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2617
  • กระทู้: 546
  • Thank You
  • -Given: 2027
  • -Receive: 2617
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 10:23:51 AM »
ขอบคุณท่านผู้รู้ทั้งสามท่าน ที่สละเวลานำข้อมูลที่ลํ้าค่ามาร่วมสนุกกับกระทู้นี้...
....ส่วนตัวผมตั้งแต่กลับมาอยู่เมืองไทยท่องเวปเพลงเก่าจะชอบหาข้อมูลทุกอย่างของนักร้องรุ่นเก่า...
....กระทู้ที่ผมเอาเพลงจีนมาลงประกอบ ก็จะพยายามหาเพลงต้นฉบับ หรือเพลงยุคเก่ามาลงทั้งนั้น...
...ส่วนข้อมูลที่เอามาก็เอามาจาก หน้าเวปหนังสือพิมพ์ครับ........
....ท้ายนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านผู้รู้ทั้งสามและเพื่อนสมาชิกจะมาร่วมสนุกกันในเวปนี้ต่อไปจะกั่วโลกจะแตก ครับ....


บันทึกการเข้า
โชคอยู่ที่การแสวงหา วาสนาอยู่ที่การกระทำ
จงโง่บางโอกาส จงฉลาดบางเวลา
-

เผ่าพงษ์ ปัตตานี

  • ชาวบ้านเพลงไทยอาวุโส
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2008
  • กระทู้: 507
  • Thank You
  • -Given: 3223
  • -Receive: 2008
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 12:53:51 PM »
       นอกจากแนวเพลงสัปดนแล้ว  ผมว่าเรื่องราวแปลกๆ เบื้องหลังการแต่งเพลง บางเพลง ของครูเพลงเก่งๆ ทั้งหลายก็น่าสนใจนะครับ  ผมเคยอ่านเจอในประวัตินักแต่งเพลงดังๆ เช่น ครูชาลี อินทรวิจิตร ที่แต่งเพลง "จำเลยรัก" อันโด่งดัง ก็ได้ความคิดจากการนั่งเล่นไพ่รัมมี่ในหมู่พวกกันเอง แล้วครูโดนกันไม่ให้เกิดสักที ไพ่ก็จะหมดแล้ว ภาษารัมมี่เขาเรียกโดนกัก มีโอกาสลบมืด (ลบเค) สูงมาก ถือว่าอันตรายมากแล้วช่วงนี้ จั่วไป ร้องไห้ไป  จึงเกิดคำร้องที่ว่า "กักขังฉันเถิดกักขังไป  ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า  อย่าขังหัวใจให้ทรมา  ให้ฉันเศร้าโศกา  หรือว่าฉันเป็นเช่นดังจำเลย"  ถ้าใครเคยเล่นรัมมี่จะเห็นภาพชัดเป๊ะเลยครับ  แล้วยิ่งได้ สวลี ผกาพันธ์ ขับร้องด้วยแล้ว ช่างได้อารมณ์เศร้าปนแค้นลึกๆ จริงๆ (พวกชอบกักเพื่อน)
       อ.แดน บุรีรัมย์  เล่าเรื่องเบื้องหลังวงการเพลงลูกทุ่งเกี่ยวกับ ครูชลที ธารทอง แต่งเพลงแรกของแกเลยคือ "พอหรือยัง" ที่ภายหลัง ศรคีรี ศรีประจวบ  นำมาขับร้องจนโด่งดัง  แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงเหมือนในเนื้อเพลงนั่นแหละ โดยสมัยนั้นครูชลที  ธารทอง ยังเป็นนักร้องเดินสายวงดนตรีลูกทุ่ง  แล้วเกิดหลงรักนักร้องสาวสวยในวงท่านหนึ่ง  พยายามซื้อข้าวปลาอาหารบริการให้กินอยู่เสมอ คือตามจีบนั่นเอง ทุกวิถีทาง  แต่คนสวยย่อมมีคู่แข่งรุมตอมหลายคนเป็นของแน่ ใครดีใครได้ว่างั้นเถอะ  สุดท้ายผู้หญิงเขาไม่เลือกแก ไปได้กับคนอื่น ก็คือคู่แข่งนักร้องในวงนั่นแหละ  ครูอกหักมากร้องห่มร้องไห้ไม่ยอมทำงานหลายวัน  ก็เลยเขียนจดหมายต่อว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นกลอน "พอทีนะคุณการุณผู้ชายเถิดหนา  อย่าคิดเอาความโสภาพล่าหัวใจผู้ชาย  คุณสวยคุณเด่นใครเห็นเป็นต้องงมงาย  อดรักคุณนั้นไม่ได้ยอมตายแทบเบื้องบาทคุณ.....ฯลฯ" เขียนเสร็จให้นักร้องในวงร้องออกหน้าเวทีเลยแต่ยังไม่ได้อ้ดแผ่น แล้วตอนหลังแกก็ออกจากวงนั้นไป  จนสุดท้ายศรคีรี นำมาร้องจนโด่งดังมาก ผมชอบมากเพลงนี้ แต่ต้องเป็นต้นฉบับ ศรคีรี ศรีประจวบ เท่านั้น  คนอื่นนำมาร้อง ผมว่าไม่ค่อยเพราะนะครับ  ต่างจิตต่างใจ


บันทึกการเข้า

ลือ

  • ฟังดนตรีเถิด ชื่นใจ...
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 4066
  • กระทู้: 864
  • Thank You
  • -Given: 3919
  • -Receive: 4066
  • ชอบเพลงลูกกรุงเก่าๆครับ
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 03:50:42 PM »
ชอบข้อมูลของคุณเผ่าพงษ์ ปัตตานี ทั้ง 2 ประเด็นมากๆครับ
    1.เบื้องหลังเพลง"จำเลยรัก" เป็นงี้เองหรือ...
         เกิดจากการจั่ว แล้วเกิดไม่ได้ซักที.... ไำพ่คงเต็มมือ บานเป็นพัดบ่อสร้าง
    แล้วเพื่อนก็กำลังจะน็อคใส่....ฮิ ฮิ  คงอึดอัด เหมือนถูกขังเป็นเชลยจริงๆ

               ทีนี้ ก็ประสาครูเก่าน่ะนะครับ...ที่ขี้สงสัย
          คุณเผ่าพงษ์จะเหมือนผมไหม ? ที่สงสัยมานาน ว่าไพ่นี้ เรียกว่าอะไรกันแน่?
     เพราะเจอคนเรียกไพ่ชนิดนี้ 2 ชื่อ คือ "รัมมี่" หรือบางที ก็เรียกว่า "ดัมมี่"...

             พอมีคอม มีอินเตอร์เน็ต  ผมก็ค้นจากกูเกิ้ลเลยครับ....สรุปความได้ดังนี้

       -1. "รัมมี่"(Rummy) คือเกมไพ่จับคู่ มีหลายแบบด้วยกัน...
       -2. และ ไพ่รัมมี่ แบบที่นิยมเล่นในเมืองไทยนั้น เป็นไพ่รัมมี่ แบบที่เรียกว่า "ดัมมี่" (Dummy Rummy)
               ตามลิ้งค์นี้ ครับ....

          http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88
            (ข้อความจากลิ้งค์ : รัมมี่ (Rummy) เป็นเกมไพ่จับคู่ ในการเล่นอาศัยการอ่านใจและอ่านไพ่บนมือคู่ต่อสู้ มากกว่าดวง นักคณิตศาสตร์หรือนักสถิติจะได้เปรียบในการแข่งรัมมี่....สิ่งที่สนุกในเกมไพ่รัมมี่ นอกจากการแข่งขันในเกมปกติคือ การกินมืด หรือ น๊อคมืด ซึ่งสิ่งนี้มีผลทางจิตวิทยาในแข่งอีกด้วย
         เกมรัมมี่มีหลายแบบ แบบที่นิยมในประเทศไทยคือ ดัมมี่ รัมมี่ (en:Dummy rummy) หรือคนไทยเรียกว่า "ดัมมี่"]

              ดังนั้น ที่เรียกว่า "รัมมี่" ก็ถูกอยู่นะครับ...แต่กว้างไป ไม่เจาะจงรูปแบบการเล่น
                    แต่ให้ถูกเป๊ะ ตรงเป๊ะ...คือ "ดัมมี่"-ตามแบบวิธีการเล่น

           (คงทำนองเดียวกับอาหาร... เช่น ชวนกันไปกิน"ก่วยเตี๋ยว"-ซึ่งมีหลายชนิด....
                    แต่พอสั่ง ก็เลือกสั่ง" เส้นเล็ก"-ซึ่งเป็นชนิดนึงของก่วยเตี๋ยว เส้นอื่น ไม่เอา)

2. ชอบเพลง"พอหรือยัง"มาก เหมือนกันครับ...
         และแน่นอน ต้องเสียงขับร้องของคุณ"ศรคีรี ศรีประจวบ" เท่านั้นครับ

                  :61 :61 :61 :61


บันทึกการเข้า

น้องนางบ้านนา

  • การศึกษาของไทยคือ-อะไรก็ได้ที่ง่ายๆ แล้วได้ปริญญา
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2617
  • กระทู้: 546
  • Thank You
  • -Given: 2027
  • -Receive: 2617
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 03:53:48 PM »
       นอกจากแนวเพลงสัปดนแล้ว  ผมว่าเรื่องราวแปลกๆ เบื้องหลังการแต่งเพลง บางเพลง ของครูเพลงเก่งๆ ทั้งหลายก็น่าสนใจนะครับ  ผมเคยอ่านเจอในประวัตินักแต่งเพลงดังๆ เช่น ครูชาลี อินทรวิจิตร ที่แต่งเพลง "จำเลยรัก" อันโด่งดัง ก็ได้ความคิดจากการนั่งเล่นไพ่รัมมี่ในหมู่พวกกันเอง แล้วครูโดนกันไม่ให้เกิดสักที ไพ่ก็จะหมดแล้ว ภาษารัมมี่เขาเรียกโดนกัก มีโอกาสลบมืด (ลบเค) สูงมาก ถือว่าอันตรายมากแล้วช่วงนี้ จั่วไป ร้องไห้ไป  จึงเกิดคำร้องที่ว่า "กักขังฉันเถิดกักขังไป  ขังตัวอย่าขังหัวใจดีกว่า  อย่าขังหัวใจให้ทรมา  ให้ฉันเศร้าโศกา  หรือว่าฉันเป็นเช่นดังจำเลย"  ถ้าใครเคยเล่นรัมมี่จะเห็นภาพชัดเป๊ะเลยครับ  แล้วยิ่งได้ สวลี ผกาพันธ์ ขับร้องด้วยแล้ว ช่างได้อารมณ์เศร้าปนแค้นลึกๆ จริงๆ (พวกชอบกักเพื่อน)
       อ.แดน บุรีรัมย์  เล่าเรื่องเบื้องหลังวงการเพลงลูกทุ่งเกี่ยวกับ ครูชลที ธารทอง แต่งเพลงแรกของแกเลยคือ "พอหรือยัง" ที่ภายหลัง ศรคีรี ศรีประจวบ  นำมาขับร้องจนโด่งดัง  แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงเหมือนในเนื้อเพลงนั่นแหละ โดยสมัยนั้นครูชลที  ธารทอง ยังเป็นนักร้องเดินสายวงดนตรีลูกทุ่ง  แล้วเกิดหลงรักนักร้องสาวสวยในวงท่านหนึ่ง  พยายามซื้อข้าวปลาอาหารบริการให้กินอยู่เสมอ คือตามจีบนั่นเอง ทุกวิถีทาง  แต่คนสวยย่อมมีคู่แข่งรุมตอมหลายคนเป็นของแน่ ใครดีใครได้ว่างั้นเถอะ  สุดท้ายผู้หญิงเขาไม่เลือกแก ไปได้กับคนอื่น ก็คือคู่แข่งนักร้องในวงนั่นแหละ  ครูอกหักมากร้องห่มร้องไห้ไม่ยอมทำงานหลายวัน  ก็เลยเขียนจดหมายต่อว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นกลอน "พอทีนะคุณการุณผู้ชายเถิดหนา  อย่าคิดเอาความโสภาพล่าหัวใจผู้ชาย  คุณสวยคุณเด่นใครเห็นเป็นต้องงมงาย  อดรักคุณนั้นไม่ได้ยอมตายแทบเบื้องบาทคุณ.....ฯลฯ" เขียนเสร็จให้นักร้องในวงร้องออกหน้าเวทีเลยแต่ยังไม่ได้อ้ดแผ่น แล้วตอนหลังแกก็ออกจากวงนั้นไป  จนสุดท้ายศรคีรี นำมาร้องจนโด่งดังมาก ผมชอบมากเพลงนี้ แต่ต้องเป็นต้นฉบับ ศรคีรี ศรีประจวบ เท่านั้น  คนอื่นนำมาร้อง ผมว่าไม่ค่อยเพราะนะครับ  ต่างจิตต่างใจ

อ้าวแฟนเพลงลูกทุ่งเนตเวอร์ค เหมือนกันเหรอ 5555 ดีใจมากครับที่เจอกันที่นี่


บันทึกการเข้า
โชคอยู่ที่การแสวงหา วาสนาอยู่ที่การกระทำ
จงโง่บางโอกาส จงฉลาดบางเวลา
-

ชญาดา

  • กรรมการบ้านเพลงไทย
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 3031
  • กระทู้: 959
  • Thank You
  • -Given: 2112
  • -Receive: 3031
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: เมษายน 07, 2013, 05:16:16 PM »
เพลงที่ฟังแล้วมีเนื้อเพลงทำให้คิดเป็็นแนวสัปดน เช่นเพลง ขอให้เหมือนเดิม  ที่ร้องว่า  " ก่อนจากกัน คืนนั้นสองเรา  แนบซบเนาว์  เคล้าคลอพ้อพรอดภิรมย์ " 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 07, 2013, 05:39:36 PM โดย ชญาดา »
บันทึกการเข้า

ภิรมย์

  • รักเมืองไทย
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2320
  • กระทู้: 480
  • Thank You
  • -Given: 2121
  • -Receive: 2320
  • คุณลูกกับคุณแม่
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: เมษายน 08, 2013, 01:32:27 PM »
   รู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก ผมก็อยู่ของผมดีๆ แต่ทำไมต้องมี
ผมไปยุ่งเกี่ยว หลายเพลงด้วยสิ
   ว่าแต่ครูเอื้อ ท่านทราบได้อย่างไรว่าคืนนั้นผมไปแนบซบเนาว์
เคล้าคลอพ้อพลอด...อะไรกับใครอยู่


บันทึกการเข้า
 :42ดนตรีคือ สื่อภาษาสากล :42

ลือ

  • ฟังดนตรีเถิด ชื่นใจ...
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 4066
  • กระทู้: 864
  • Thank You
  • -Given: 3919
  • -Receive: 4066
  • ชอบเพลงลูกกรุงเก่าๆครับ
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: เมษายน 08, 2013, 01:49:18 PM »
 :65 :65 :65 :65
    "......เคล้าคลอพ้อพรอดภิรมย์
            เจอ rate r เข้าอย่างจังครับคุณภิรมย์.... ในเพลงสุนทราภรณ์

               อีกเพลงก็ไม่เบานี่ครับ
    "โอ้เคยภิรมย์ สุขสมจินต์...."

                   :61 :61 :61


บันทึกการเข้า

ชญาดา

  • กรรมการบ้านเพลงไทย
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 3031
  • กระทู้: 959
  • Thank You
  • -Given: 2112
  • -Receive: 3031
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: เมษายน 08, 2013, 01:55:57 PM »
เพลงขอให้เหมือนเดิม มีเฮ...........55555555555  คำว่า ภิรมย์ ไปอยู่ในเนื้อเพลงนี้เสียด้วย ค่ะ


บันทึกการเข้า

เผ่าพงษ์ ปัตตานี

  • ชาวบ้านเพลงไทยอาวุโส
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2008
  • กระทู้: 507
  • Thank You
  • -Given: 3223
  • -Receive: 2008
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: เมษายน 08, 2013, 03:00:24 PM »
       -1. "รัมมี่"(Rummy) คือเกมไพ่จับคู่ มีหลายแบบด้วยกัน...
       -2. และ ไพ่รัมมี่ แบบที่นิยมเล่นในเมืองไทยนั้น เป็นไพ่รัมมี่ แบบที่เรียกว่า "ดัมมี่" (Dummy Rummy)
               ตามลิ้งค์นี้ ครับ....


      1.ตอบท่าน อ.ลือ ครับ...ข้อมูลของ อ.ลือ ถูกต้องแล้วครับ ปกติผมก็เรียก "ดัมมี่" เหมือนกันครับ แต่เผอิญผมเข้าใจว่าภาษกลางเขาเรียก "รัมมี่" น่ะครับ เลยอยากให้เป็นสากลกับเขาบ้าง ทั้งๆที่ถูกอยู่แล้ว  ปัจจุบันผมเลิกหมดแล้วครับ ใครมาชวนให้ครบขาก็ไม่เอา ได้ไม่คุ้มค่าซื้อยาแก้ปวดหลัง
      2.ตอบท่านเหมยขาบครับ...ปกติถ้าว่างๆวันเสาร์,อาทิตย์ช่วงเช้าถึงเที่ยงมักจะเปิดฟังลูกทุ่งเน็ตเวอร์ค เหมือนกันครับ ชอบฟัง อ.แดน บุรีรัมย์ และคุณทิพวรรย์ พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องราวในวงการลูกทุ่งในอดีตได้ความรู้ดีมากครับ  ผมเคยโพสต์ขอเพลงๆหนึ่งที่ชอบ แต่ผอิญ อ.แดน เปิดเพลงมาผิด และลืมฟังด้วย เพราะแกมัวเล่นเฟสบุ๊คเพลิน พอผมท้วงติงไป แกก็หัวเราะขอโทษเรา ก็สนุกดีครับ
      ขอบคุณทั้งสองท่านครับที่คอมเม้นท์มาแชร์กัน   จริงๆ ผมอยากตอบทั้งสองท่านตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ พอดีโดนสแปมหมดโควต้า   ต้องรอทูมอโร่เหมือนเคย  :69


บันทึกการเข้า

น้องนางบ้านนา

  • การศึกษาของไทยคือ-อะไรก็ได้ที่ง่ายๆ แล้วได้ปริญญา
  • ชาวบ้านกิตติมศักดิ์
  • คะแนนอนุรักษ์เพลง 2617
  • กระทู้: 546
  • Thank You
  • -Given: 2027
  • -Receive: 2617
Re: เปิดตำรับเพลงสัปดน ตอนที่ 2
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: เมษายน 08, 2013, 03:10:36 PM »
ผมเองก็ตอบได้แค่3กระทู้ต่อวันเมือ่วานซืนเห็นแก้ไขทีหนึ่งเมื่อวานก็แก้กลับมาเป็น3กระทู้ตามเดิม...
....รายการลูกทุ่งเนตเวิร์ค...ส่วนใหญ่จะฟังรายการดึก...ของอาจารย์อำนวย สะอิ้งทอง+ถนอมจันทร์เกตุ+แดน บุรีรัมย์...
แต่เนื่องจากภาระบางอย่างไม่ได้ฟังนานแล้วครับ...
....เออถ้าจะซื้อกาแฟฟ้าใส...ก็ซื้อกับคุณยุวดี...เพราะเธอสวยดีครับ....


บันทึกการเข้า
โชคอยู่ที่การแสวงหา วาสนาอยู่ที่การกระทำ
จงโง่บางโอกาส จงฉลาดบางเวลา
-