อิจฉา-ริษยา
อิจฉา บาลีเขียน “อิจฺฉา” (มีจุดใต้ จ) รากศัพท์คือ อิสฺ (ธาตุ = ปรารถนา, อยาก) + ณฺย (ปัจจัย = ความ-, การ-)
กระบวนการทางไวยากรณ์คือ ลบ ณ คง ย ไว้ แปลง ย กับ สฺ ที่สุดธาตุเป็น จฺฉ = อิจฺฉ + “อา” (เครื่องหมายอิตถีลิงค์) = อิจฺฉา
“อิจฺฉา” ความหมายเดิมในบาลีแปลว่า ความปรารถนา, ความประสงค์, ความอยากได้
ในภาษาไทย ความหมายเพี้ยนไป พจน.42 บอกว่า
“อิจฉา : เห็นเขาได้ดีแล้วไม่พอใจ อยากจะมีหรือเป็นอย่างเขาบ้าง (มีความหมายเบากว่า ริษยา)”
อิจฉา ตามความหมายในภาษาไทยตรงกับบาลีว่า “อิสฺสา” (อิด-สา) แปลว่า ความโกรธเคือง, ความริษยา, ความชิงชัง, เจตนาร้าย
“อิสฺสา” สันสกฤตเป็น “อีรฺษา” และ “อีรฺษฺยา” เราเอามาเขียนเป็น “ริษยา” (ริด-สะ-หฺยา) มีความหมายว่า อาการที่ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี, เห็นเขาได้ดีแล้วทนนิ่งอยู่ไม่ได้, เห็นคนอื่นได้ดีแล้วไม่สบายใจ
ไทยเราก็คงรู้ว่า เราใช้ “อิจฉา” ในความหมายของ “ริษยา” ดังนั้นจึงมักพูดควบกันไป เช่น “จะไปอิจฉาริษยาเขาทำไม”
คติ :
เป็นไปไม่ได้เลยที่การอิจฉาริษยาเขาจะทำให้เขาแย่ลง หรือช่วยให้เราดีขึ้น
แต่เป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะเกิดผลในทางกลับกัน
เขียนโดย นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย