สโมสรบ้านเพลงไทย > ห้องสันทนาการ

ท่านรู้จักนักร้องที่ท่านชื่นชอบได้ยังไงครับ..มาเล่าสู่กันฟังดีกว่า

<< < (2/4) > >>

ภิรมย์:
            คนแรกที่รู้จัก ครูสุรพล สมบัติเจริญ
      น่าจะเป็นเพราะช่วงนั้นเพลงของท่านกำลังดัง สถานีวิทยุ
เปิดเพลงของท่านบ่อยๆ  เลยจำได้และยังใช้เพลงของท่านใน
การสอบวิชาขับร้องอีกด้วย
            ท่านที่สอง พร ภิรมย์
      รู้จักท่านจากเพลง  ดาวลูกไก่ กับ วังแม่ลูกอ่อน ฟังจาก
วิทยุอีกนั่นแหละ  ได้ยินก็ชอบไม่ได้เนื้อหาเพลง   เพราะตอน
นั้นยังเด็กไม่เข้าใจหรอกครับ  ที่ชอบก็คือทำนองกับการใช้สัม
ผัสอักษรในเพลง ตอนนั้นรู้สึกสนุกดีเวลาฟัง
         สองท่านนี้ชอบมาก เวลานั้นจะมีหนังสือเนื้อเพลงของ
นักร้องต่างๆ ออกมาขาย  ผมจะซื้อของสองท่านนี้  เอามาฝึก
อ่าน ย้ำ ฝึกอ่าน เพราะใครๆ ที่ฟังเค้าว่ากันยังงี้ทุกคน
         ส่วนนักร้องลูกทุ่งท่านอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็รู้จักจากวิทยุทั้ง
นั้น ช่วงใหนใครดังสถานีเปิดบ่อยเราก็ได้ฟังบ่อย จำได้บ้างไม่
ได้บ้างสุดแท้แต่
         ดังนั้นในช่วงแรก ตอนเด็กๆ จึงรู้จักแต่เพลงลูกทุ่งเท่า
นั้น โดยฟังจากวิทยุเป็นหลัก
            เพลงลูกกรุง
         มาเริ่มฟังเริ่มรู้จักเอาตอนที่คุณแม่ไปถอยโทรทัศน์มา
ช่วงแรกๆ จะชอบฟังเพลงที่จังหวะเร็วๆ สนุกๆ ถ้าเป็นเพลงที่
ช้าๆ จะไม่ชอบเลย เหมือนว่าจะไปตามอายุ พอผ่านไปๆ ก็เริ่ม
ชอบเพลงช้าด้วย
         หนหนึ่งได้ฟังเพลงไทยเดิม  ก็ชอบรู้สึกว่าเพราะมาก
ในขณะที่อีกหลายๆคนบอกว่าน่าเบื่อ
         สำหรับนักร้องลูกกรุง   จำไม่ได้จริงๆ  ว่ารู้จักท่านใด
ก่อน แต่เท่าที่พอจำได้
           ครูเอื้อ ฟังเพลงท่านหลายเพลงแต่ที่ชอบในตอนนั้น
ก็"หนึ่งน้องนางเดียว"
           ธานินทร์  รู้จักท่านจากเพลง"หน้าเนื้อใจเสือ"
           ครูสุเทพ  เหมือนจะเป็น"บุเรงนองลั่นกลองรบ"
           ทนงศักดิ์  น่าจะเป็น"ไม่รักไม่ว่า" จากนั้นจึงหาเพลง
อื่นๆ ของท่านมาฟัง
           บำรุง อ น้อมพันธ์  "คนใจจืด"กับ"รักลอยลม"แต่ตอน
นั้นจำท่านไม่ได้ จำได้แต่เพลงที่ท่านร้อง
           อาณัต พุทธมาศ  รู้จักท่านจากการเข้าใจผิดครับ เหตุ
จากเพลง"คนใจจืด"เพราะเข้าใจว่าท่านร้องไว้ก็เลยได้ฟังเพลง
อื่นๆ ทีท่านร้อง ชอบครับเสียงท่านนุ่นน่าฟังมาก
           ชรัมภ์  รู้จักท่านจากการฟังแผ่นเสียงครับ ไปบ้านญาติ
เค้ามีเครื่องเล่นแผ่นเสียง เปิดเพลงท่านให้ฟัง จำได้เป็นชุดจัง
หวะรำวง อย่างเพลง "เดือนดารา" เด่นบนฟ้านภาขาวผ่อง......
ฟังแล้วชอบมากเลย  ทุกวันนี้ยังตามหาแผ่นชุดนี้อยู่เลย
        ที่จำได้เด่นๆ คงเท่านี้สำหรับท่านอื่นๆ น่าจะเป็นช่วงหลัง
และช่องทางก็จากวิทยุกับโทรทัศน์นั่นเองครับ
         
           

ฮิเดโกะ:
เจอนักร้องคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะชอบเพลงของเขาได้เลย
เมื่อปลายๆปี44 ได้นั่งกินข้าวด้วยได้คุยด้วย..เพราะงานเราต้องประสานกันรุ้สึกเขาไม่ถือตัวว่าเป็นคนดังเลย
ตั้งแต่บัดนั้นก็เรี่มหาเพลงมาฟัง   และก็สะสมเพลงของนักร้องท่านนี้เสมอมา
....เขาคือ...ยอดรัก  สลักใจ....ค่ะ

ลือ:
1.ขอขอบคุณ ในทุกๆความเห็นเลยนะครับ
         คุณเหมยขาบ น้องนา คุณสมพร คุณภิรมย์ น้องเปิ้ล....

      ต้นตอ เรื่องราวที่มา ของการเกิดไปชอบเพลงนั้นเพลงนี้ และกลายเป็นรู้จักนักร้อง
          ...ของแต่ละท่าน ที่บอกมา   ไม่ซ้ำกัน อ่านเพลินทีเดียว....
      สนุกครับ ....เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เล่าให้ฟังกันในแวดวงคนชอบฟังเพลงด้วยกันอย่างนี้
                 ผมเชื่อว่า คนอ่านจะรับรู้ และเข้าใจความรู้สึกของท่านได้เป็นอย่างดีครับ....

     อย่างผม   เป็นอีกคน ที่เข้ามาบ้านนี้เพราะตามหาเพลงที่เคยฟังมา   คือ ในงานวัดนึง สมัยอดีต...เขาเปิดซะดังลั่น เข้ากระบอกหูผมเต็มๆ...(น่าจะเป็น"วัดลำพะยา" อยู่ใกล้ๆ บ้านลำใหม่ ไม่ไกลจากสามแยกบ้านเนียง ทางไปจ.ยะลา.... ตอนนั้นผมไปร้องเพลงที่งานวัดนี้ กับวงดนตรีของ วค. ยะลา)
         ผ่านมาเกือบ 40 ปี...เลยจำมานิดๆหน่อยๆ  ชื่อเพลงก็ไม่รู้จัก ชื่อนักร้องก็ยิ่งแล้วใหญ่....แค่บอกได้ว่า  เป็นเพลงแก้ ของเพลง "คนงามลืมง่าย"..
       จากความอนุเคราะห์ของคุณภพ คุณกรุ และพี่ธง ผมเลยได้ฟังเพลง "จำใจต้องลืม"-หงษ์น้อย แดนอุดร
                 ...... ก็ สมใจนึก เทเวศน์ บางลำภู แล้วครับ

2. เชิญมาแชร์กันเรื่อยๆนะครับ...
       แม้ท่านที่เล่าไปแล้ว แต่นึกไรขึ้นมาได้อีก...ก็เข้ามาเล่าให้ฟังอีกได้นะครับ  ผมว่าสนุกดี
               อย่างที่ว่าไว้ข้างต้น...อ่านแล้ว เพลิดเพลิน เจริญใจครับ

                                :61 :61 :61 :61

เผ่าพงษ์ ปัตตานี:
        คุณอา"สุรพล สมบัติเจริญ" แกไปเล่นแถวบ้านผมสมัยที่กำลังฮิตระเบิดทั้งวง มีดาวรุ่งอัดแผ่นในวงเยอะมากแถมดังๆเสียด้วย  ก่อนการแสดงประมาณบ่ายสามโมง แกจะมานั่งกินกาแฟ,โอเลี้ยงในร้านโกปี๊กลางตลาดนัด โดยไม่มีใครรู้จักว่านี่คือราชาเพลงลูกทุ่งของเมืองไทยพร้อมๆกับลูกทีมของแก  เป้าหมายน่าจะเพื่อต้องการจะดูความเป็นไปของสังคมท้องถิ่นนั้นๆ และคงจะต้องการเช็คเรตติ้งด้วย
       ในโต๊ะโอเลี้ยงอาโกวันนั้นนอกจากจะมีทีมงานของแกแล้ว ก็จะมีผู้จัดงานประจำท้องถิ่นนั้นๆร่วมวงอยู่ด้วย (ก็คือคนจ้างแกมาแสดงนั่นเอง) บังเอิญว่าคนๆนั้นเขาเป็นลุงๆน้าๆของเราเองก็เลยได้ใกล้ชิดตัวเป็นๆนอกวิทยุเอเอ็ม ก่อนที่แกจะตายเพียง 1 เดือน (แม๊เสี่ยดายจัง เฮ้อเสี่ยดายจัง)
       เพลง"สุรพลมาแล้ว"คงจะเกิดจากการที่แกได้ไปนั่งดูสังคมท้องถิ่นเพื่อเช็คเรตติ้งแบบนี้เองมังครับ แกคือสุดยอดของเด็กวัยสิบขวบในวันนั้นจนถึงวันนี้ครับ  เลยทำให้ผมรู้สึกประทับใจแบบพื้นบ้านที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมของแกตั้งแต่นั้นมา ผมชอบทุกอย่างที่เป็นตัวตนของครูสุรพล สมบัติเจริญ ครับ โดยเฉพาะความคิดสร้างสรรค์ในเชิงลูกทุ่งของแกที่นำสมัยเสมอ.....
       คนแถวบ้านผมพอทราบข่าวทางวิทยุกระจายเสียงว่าครูสุรพล สมบัติเจริญ ถูกยิงตายที่หนองปลาไหล นครปฐม ต่างร้องไห้เสียอกเสียใจกันเป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องคนบ้านเดียวกันก็ตาม

ดาวเรือง:
..................

"ฟ้าหัวเราะเยาะข้า....ชะตาหรือ..."

ตอนเป็นเด็ก ไม่รู้ว่าเพลงนี้ใครร้อง แต่มีความรู้สึกว่ามันเป็นเพลงที่เร้าใจดี
ที่จริงเพลงนี้คนร้องคนแรกคือ สมสกุล ยงประยูร
แต่ผมมารู้จักเพลงนี้จากเสียงร้องของครูสุเทพ วงศ์กำแหง

และนั่นทำให้ผมติดตามฟังเสียงร้องเพลงของท่านเรื่อยมา
แล้วกลายเป็นแฟนคลับ ติดตามฟังเพลงของท่านทุกๆเพลง
จากความชอบกลายเป็น ชื่นชมมากๆ แล้วกลายเป็นคลั่งไคล้ไปอย่างไม่รู้ตัว



ชอบร้องเพลงของท่านโดยเฉพาะคนเดียวเดี่ยวโดด
เพลงคนอื่น ร้องบ้าง แต่ก็ไม่ได้ชอบเท่าเพลงครูสุเทพ (เอากะเราสิ)
สอบเข้าเพาะช่างได้ ก็เพราะรู้ว่าครูสุเทพเคยเป็นศิษย์เก่าที่นี่
ต่อมามีความหวังว่าจะได้เป็นศิษย์ทางการร้องเพลงจากท่าน
ก็ตั้งใจจะไปเรียนร้องเพลงกับท่านที่สำนักงานสุเทพโชว์ แถวถนนดินสอ
แต่ก็พลาดหวังเพราะท่านเลิกกิจการไปเสียก่อน

แต่พอทราบว่า ท่านไปช่วยสอนขับร้องเพลงกับเพื่อนรักของท่าน
ที่โรงเรียนสอนร้องเพลง "จิตราทัศน์"
ผมก็ตามไปสมัครเรียนร้องเพลงที่นั้น ก็ผิดหวังอีก
เพราะตอนผมไปเรียน ท่านไม่ได้ร่วมสอนเสียแล้ว
เลยกลายเป็นศิษย์ของครูนิทัศน์ ละอองศรี แทน...

พอท่านเล่นการเมือง ก็ยังตามไปอาสาช่วยเขียนป้ายหาเสียง
สมัครเป็นสมาชิกพรรค แต่ก็ยังไม่ได้เข้าถึงตัวท่านจนพรรคยุบ

จนแล้วจนเล่าจึงได้เป็นลูกศิษย์ครูสุเทพแบบครูพักลักจำไปเรื่อยๆ
รวมทั้งได้ไปรู้จักกับบรรดาศิษย์ครูในรุ่นสุเทพจูเนียร์

ในที่สุดก็ได้เจอกับครูสุเทพหลายครั้ง ในวาระต่างๆ จนท่านจำเราได้
และปัจจุบันก็ยังมีส่วนร่วมงานกับท่านในงานสมาคมศิลปและวรรณกรรม

"หากทำดี ฟ้าดินต้อง...คุ้มครองเอย....."

เรื่องของผมก็มีเท่านี้แหละครับ...

...............

นำร่อง

[0] ดัชนีข้อความ

[#] หน้าถัดไป

[*] หน้าที่แล้ว

Go to full version